องค์ภควาน คริชณะ

บทที่ 29

แนะนำ ราสะ-ลีลาศ

ใน ชรีมัด-ภควธัม กล่าวว่า ราสะ-ลีลาศ เกิดขึ้นในคืนเดือนเพ็ญของฤดูชะรัท จากบทที่แล้วปรากฏว่าโกวารดะนะ-พูจา ฉลองกันหลังจากคืนเดือนมืดของเดือนคารทิคะ จากนั้นทำพิธีบราทริดวิทียา และพระอินทร์ทรงแสดงความโกรธในรูปของห่าฝนและพายุลูกเห็บ แล้ว องค์ภควาน คริชณะ ทรงยกภูเขาโกวารดะนะเป็นเวลาเจ็ดวันจนถึงวันขึ้นเก้าค่ำ วันขี้นสิบค่ำชาววรินดาวะนะพูดกันเองเกี่ยวกับลีลาอันน่าอัศจรรย์ของคริชณะ วันต่อมาเอคาดะชี นันดะ มะฮาราจะ ถือศีลอดอาหารทั้งวัน วันต่อมาดวาดะชี นันดะ มะฮาราจะ ไปอาบน้ำที่แม่น้าคงคา และถูกคนของ วะรุณะจับไป จากนั้น องค์ภควาน คริชณะ ทรงปล่อย นันดะ มะฮาราจะ แล้ว นันดะ มะฮาราจะ และชายเลี้ยงโคเห็นท้องฟ้าทิพย์
เช่นนี้ คืนเดือนเพ็ญของฤดูชะรัท ได้ผ่านไป คืนเดือนเพ็ญของอาชวินะเรียกว่าชะรัท-พูณิมา ใน ชรีมัด-ภควธัม กล่าวว่า คริชณะทรงรออีกหนึ่งปีสำหรับเดือนเพ็ญเช่นนี้ก่อนรื่นเริง ราสะ-ลีลาศ กับพวกโกปี อายุเจ็ดขวบคริชณะทรงยกภูเขาโกวารดะนะ ดังนั้น ราสะ-ลีลาศ ปรากฏช่วงคริชณะอายุแปดขวบ
จากวรรณกรรมพระเวท พบว่าเมื่อดารานักแสดงเต้นรำในหมู่หญิงสาวนักลีลาศมากมาย เต้นกันเป็นกลุ่มเรียกว่า ราสะ-ลีลาศ พอคริชณะเห็นพระจันทร์วันเพ็ญของฤดูชะรัท พระองค์ทรงประดับด้วยดอกไม้ในฤดูมากมาย โดยเฉพาะดอกมัลลิคา ที่มีกลิ่นหอมมาก คริชณะจำบทสวดมนต์ของ โกปี ที่ภาวนาต่อเทพธิดาคาทยายะนี ว่าขอให้ได้คริชณะมาเป็นสวามี คริชณะคิดว่าคืนพระจันทร์วันเพ็ญของฤดูชะรัท เหมาะกับการลีลาศเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ความปรารถนาของพวกนางที่จะได้ คริชณะมาเป็นสวามีได้รับการตอบสนอง
ชรีมัด-ภควธัม ใช้คำว่า ภควาน อพิ หมายความว่าแม้คริชณะเป็นองค์ภควาน ทรงไม่มีความปรารถนาที่ต้องสนองตอบสิ่งใด เพราะคริชณะเปี่ยมไปด้วยความมั่งคั่งสมบูรณ์หกประการเสมอ ถึงกระนั้น ยังทรงปรารถนารื่นเริงกับพวกโกปี, ภควาน อพิ แสดงให้เห็นว่าเช่นนี้มิใช่เป็นการลีลาศธรรมดาของชายหนุ่มและหญิงสาว คำพูดที่ใช้เฉพาะใน ชรีมัด-ภควธัม คือ โยกะมายาม อุพาชริทะฮ หมายความว่า การลีลาศกับพวกโกปี นี้อยู่ในระดับ โยกะมายา ไม่ใช่ มะฮามายา การลีลาศของเด็กหนุ่มสาวในโลกวัตถุอยู่ในอาณาเขตของมะฮามายา หรือพลังงานเบื้องต่ำ ราสะ-ลีลาศ ของคริชณะกับพวกโกปี อยู่ในระดับโยกะมายา ข้อแตกต่างระหว่างระดับโยกะมายา และมะฮามายา เปรียบเทียบใน เชธันญะ-ชาริทามริทะ เหมือนข้อแตกต่างระหว่างทองคำและเหล็ก ในมุมมองของวิชาผสมโลหะ ทั้งทองคำและเหล็กเป็นโลหะ แต่คุณสมบัติแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เช่นเดียวกันแม้ ราสะ-ลีลาศ และการใกล้ชิดของคริชณะกับพวกโกปี ดูเหมือนเป็นการคลุกคลีธรรมดาของเด็กหนุ่มสาว คุณสมบัตินั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ข้อแตกต่างนี้ไวชณะวะผู้ยอดเยี่ยมชื่นชมยินดี เพราะเข้าใจข้อแตกต่างระหว่างความรักคริชณะ และราคะ
ในระดับมะฮามายา การลีลาศอยู่บนพื้นฐานแห่งการสนองประสาทสัมผัส แต่เมื่อคริชณะเรียกพวกโกปี ด้วยเสียงขลุ่ยของพระองค์ พวกโกปี รีบรุดไปยังสถานที่ ราสะ-ลีลาศ ทันทีด้วยความปรารถนาทิพย์ที่จะให้คริชณะพึงพอพระทัย คริชณะ ดาสะ คะวิราจะ โกสวามี ผู้ประพันธ์ เชธันญะ-ชะริทามริทะ อธิบายว่า ราคะ หมายถึงการสนองประสาทสัมผัส และความรักก็หมายถึงการสนองประสาทสัมผัสเช่นเดียวกัน แต่เพื่อคริชณะ อีกนัยหนึ่ง เมื่อกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ในระดับการสนองประสาทสัมผัสตนเองเรียกว่ากิจกรรมทางวัตถุ แต่เมื่อเชื่อมสัมพันธ์เพื่อความพึงพอใจของคริชณะ เป็นกิจกรรมทิพย์ ไม่ว่ากิจกรรมอยู่ในระดับไหนจะมีหลักแห่งการสนองประสาทสัมผัส แต่ในระดับทิพย์การสนองประสาทสัมผัสเพื่อคริชณะ ขณะที่ระดับวัตถุสนองประสาทสัมผัสของผู้กระทำ เช่น ในระดับวัตถุ เมื่อผู้รับใช้ รับใช้เจ้านาย ตัวเขาไม่พยายามสนองประสาทสัมผัสของเจ้านาย แต่สนองประสาทสัมผัสของตนเอง ผู้รับใช้จะไม่รับใช้เจ้านายหากไม่จ่ายเงินให้ หมายความว่าผู้รับใช้รับใช้เจ้านายเพื่อสนองประสาทสัมผัสของตนเอง ในระดับทิพย์ผู้รับใช้ขององค์ภควานรับใช้คริชณะโดยไม่มีเงินเดือน และจะรับใช้ต่อไปในทุกๆ สถานการณ์ นี่คือข้อแตกต่างระหว่างคริชณะจิตสำนึกและวัตถุจิตสำนึก
ปรากฏว่าคริชณะรื่นเริง ราสะ-ลีลาศ กับพวกโกปี ช่วงอายุแปดขวบขณะนั้นโกปี หลายนางแต่งงานแล้ว ที่ประเทศอินเดียโดยเฉพาะในยุคนั้นเด็กสาวแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย มีตัวอย่างมากมายที่หญิงสาวคลอดบุตรเมื่อมีอายุเพียงสิบสองปี สถานการณ์เช่นนี้ โกปี ที่แต่งงานแล้วทั้งหมดปรารถนาจะได้คริชณะมาเป็นสวามีของตน ขณะเดียวกัน พวกนางยังหวังต่อว่าคริชณะจะมาเป็นสวามี ท่าทีของพวกนางที่มีต่อคริชณะเสมือนเป็นชู้รัก ดังนั้น ความรักระหว่างคริชณะกับพวกโกปี เรียกว่า พะระคียะ-ระสะ ท่าทีของชายที่แต่งงานแล้วและปรารถนาภรรยาอีกคนหนึ่ง หรือภรรยาที่ปรารถนาสามีอีกคนหนึ่งเรียกว่า พะระคียะ-ระสะ
อันที่จริง คริชณะทรงเป็นสวามีของทุกคน เพราะคริชณะทรงเป็นผู้มีความสุขเกษมสำราญสูงสุด พวกโกปี ต้องการคริชณะมาเป็นสวามี แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะแต่งงานกับโกปี ทั้งหมด แต่เพราะพวกนางมีนิสัยโดยธรรมชาติอยากรับคริชณะมาเป็นสวามีสูงสุด ความสัมพันธ์ของโกปี กับคริชณะเรียก พะระคียะ-ระสะ, พะระคียะ-ระสะ มีอยู่ที่ในโลกทิพย์ โกโลคะ วรินดาวะนะ นิรันดร สถานที่ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีความมึนเมาเหมือน พะระคียะ-ระสะ ในโลกวัตถุ ในโลกวัตถุ พะระคียะ-ระสะ เป็นสิ่งน่ารังเกียจ ขณะที่ในโลกทิพย์ปรากฏว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมระหว่าง คริชณะและพวกโกปี มีความสัมพันธ์อื่นๆ อีกมากมายกับคริชณะ เช่น ระหว่างเจ้านายกับคนรับใช้ ระหว่างเพื่อนกับเพื่อน ระหว่างผู้ปกครองกับบุตรธิดา และระหว่างคนรักกับคู่รัก ใน ระสะ ทั้งหมดนี้ พะระคียะ-ระสะ พิจารณาว่าสูงสุดยอด
โลกวัตถุนี้เป็นภาพสะท้อนที่กลับตาลปัตรของโลกทิพย์ เหมือนกับภาพสะท้อนของต้นไม้ที่ริมฝั่งแม่น้ำส่วนบนของต้นไม้จะเห็นว่าอยู่ล่างสุด ทำนองเดียวกันพะระคียะ-ระสะ เมื่อสะท้อนแบบกลับตาลปัตรอยู่ในโลกวัตถุจึงเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ฉะนั้น เมื่อผู้คนเลียนแบบราสะ-ลีลาศ ของคริชณะกับพวกโกปี พวกเขารื่นเริงกับภาพสะท้อนที่กลับตาลปัตรอันน่ารังเกียจของ พะระคียะ-ระสะ ทิพย์ เป็นไปไม่ได้ที่จะหาความสุขกับ พะระคียะ-ระสะ ทิพย์นี้ภายในโลกวัตถุ กล่าวไว้ใน ชรีมัด-ภควธัม ว่า เราไม่ควรเลียนแบบ พะระคียะ-ระสะ นี้ แม้ในความฝันหรือในจินตนาการ พวกที่ทำเช่นนี้เหมือนดื่มยาพิษที่ร้ายแรงที่สุด
เมื่อคริชณะ ผู้มีความสุขเกษมสำราญสูงสุด ปรารถนารื่นเริงกับพวกโกปี ในคืนพระจันทร์วันเพ็ญของฤดูชะรัท ขณะนั้นดวงจันทร์ เจ้าแห่งหมู่ดาราปรากฏอยู่บนท้องฟ้า แสดงลักษณะอันสวยสดงดงามที่สุด คืนพระจันทร์วันเพ็ญของฤดูชะรัท เป็นคืนที่สวยที่สุดของปี ในประเทศอินเดียมีอนุสาวรีย์ยิ่งใหญ่ชื่อ ทัจ มาฮาล ที่เมือง อกระ จังหวัด อุททาร พระเดช เป็นสุสานทำด้วยหินอ่อนชั้นดีในคืนพระจันทร์เต็มดวงของฤดูชะรัท มีชาวต่างประเทศมากมายไปดูภาพสะท้อนอันสวยงามของดวงจันทร์บนสุสาน ดังนั้น คืนพระจันทร์วันเพ็ญยังฉลองความงามตราบทุกวันนี้
เมื่อพระจันทร์เต็มดวงขึ้นทางทิศตะวันออก จะเจือทุกสิ่งทุกอย่างด้วยสีแดงพอดวงจันทร์ขึ้น ท้องฟ้าทั้งหมดดูเหมือนเปื้อนไปด้วยคุงคุมะสีแดง เมื่อสามีอยู่ห่างจากภรรยาไปนานกลับมาบ้าน จะแต่งหน้าภรรยาด้วยคุงคุมะสีแดง ดวงจันทร์วันเพ็ญของฤดูชะรัท ที่รอคอยมานาน จึงละเลงไปด้วยท้องฟ้าแห่งทิศตะวันออก
การปรากฏของดวงจันทร์เพิ่มความปรารถนาของคริชณะที่จะลีลาศกับพวกโกปี ป่าต่างๆ เต็มไปด้วยดอกไม้หอม บรรยากาศเย็นฉ่ำน่ารื่นรมย์ พอคริชณะเริ่มเป่าขลุ่ย พวก โกปี ทั่วทั้งวรินดาวะนะหลงใหลในเสน่ห์ของเสียงขลุ่ย ความหลงใหลในเสียงขลุ่ยเพิ่มเป็นพันๆ เท่า เนื่องจากพระจันทร์ขึ้นเต็มดวง ในระดับสายตามีสีแดง บรรยากาศสงบและเยือกเย็น และดอกไม้เบ่งบาน โกปี เหล่านี้โดยธรรมชาติหลงรักความสง่างามของคริชณะมากอยู่แล้ว พอได้ยินเสียงขลุ่ยของคริชณะ ดูเหมือนจะเพิ่มราคะเพื่อสนองประสาทสัมผัสของคริชณะมากยิ่งขึ้น
เมื่อได้ยินเสียงขลุ่ย พวกนางละทิ้งจากงานที่กำลังทำอยู่ทันที แล้วรีบไปยังสถานที่ที่คริชณะยืนเป่าขลุ่ย ขณะวิ่งไปอย่างเร็วต่างหูแกว่งไปมา พวกโกปี ทั้งหมดวิ่งไปที่วัมชีวะทะ โดยเร็ว บางคนกำลังรีดนมวัวอยู่ ละทิ้งงานรีดนมที่ยังค้างอยู่แล้ววิ่งไปหาคริชณะทันที โกปี นางหนึ่งเพิ่งเทนมใส่หม้อวางอยู่บนเตา ไม่สนใจว่านมจะเดือดล้นหรือไม่ รีบวิ่งไปหาคริชณะทันที บางคนกำลังป้อนทารกด้วยนมของตน บางคนกำลังจัดอาหารให้สมาชิกในครอบครัว ทั้งหมดละทิ้งหน้าที่ รีบวิ่งไปสถานที่ที่คริช ณะเป่าขลุ่ยทันที บางคนกำลังปรนนิบัติสามี และบางคนกำลังรับประทานอาหาร ไม่สนใจในสิ่งที่กำลังทำอยู่ ละทิ้งและจากไปโดยทันที บางคนแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางขี้ผึ้ง และแต่งตัวอย่างงดงามก่อนไปพบคริชณะ แต่ไม่สามารถผัดหน้าด้วยเครื่องสำอางหรือแต่งตัวได้ถูกต้อง เพราะกระตือรือร้นอยากพบคริชณะในทันควัน หน้าตาทาอย่างลวกๆ ส่งเดช บางคนเอาท่อนล่างมาสวมข้างบน และท่อนบนมาสวมข้างล่าง
ขณะที่โกปี ทั้งหมดรีบออกจากบ้านของตนอย่างรวดเร็ว บรรดาสามี พี่น้อง บิดาทั้งหมดตกตะลึงอยากรู้ว่ากำลังจะไปที่ไหนกัน ในฐานะหญิงสาว ต้องได้รับการคุ้มครองดูแลไม่จากสามี ก็จากพี่ชาย หรือบิดา ผู้ดูแลทั้งหมดห้ามไม่ให้ไปหาคริชณะ แต่ไม่เชื่อฟัง พอบุคคลหลงเสน่ห์ของคริชณะและอยู่ในคริชณะจิตสำนึกโดยสมบูรณ์ จะไม่สนใจกับหน้าที่ใดๆ ในโลก แม้เป็นเรื่องเร่งด่วน คริชณะจิตสำนึกมีพลังมากจนทำให้ทุกคนผ่อนคลายจากกิจกรรมทางวัตถุทั้งหมด ชรีละ รูพะ โกสวามี เขียนโศลกอันสวยงามที่โกปี นางหนึ่งแนะนำโกปี อีกนางหนึ่งว่า “เพื่อนรัก หากเธอปรารถนาหาความสุขกับสังคม เพื่อน และความรักทางวัตถุ โปรดอย่าไปเห็นหน้าอันยิ้มระรื่นของเด็กน้อยโกวินดะ ผู้ยืนเป่าขลุ่ยอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำยะมุนา ริมฝีปากเจิดจรัสด้วยแสงสว่างของคืนเดือนเพ็ญ” ชรีละ รูพะ โกสวามี สอนโดยอ้อมว่า ผู้ที่หลงรักหน้าอันยิ้มระรื่นอย่างสง่างามของคริชณะ จะสูญเสียมนต์เสน่ห์ทั้งหมดแห่งความสุขทางวัตถุ นี่คือการตรวจสอบความก้าวหน้าในคริชณะจิตสำนึก บุคคลผู้เจริญก้าวหน้าในคริชณะจิตสำนึกต้องสูญเสียความสนใจในกิจกรรมทางวัตถุ และการสนองประสาทสัมผัสของตนเอง
โกปี บางคนถูกสามีกักตัวไม่ให้ไปหาคริชณะ ถูกบังคับด้วยการขังให้อยู่ในห้อง เมื่อไม่สามารถไปหาคริชณะ พวกนางทำสมาธิที่รูปทิพย์ของคริชณะด้วยการหลับตา ปกติมีรูปลักษณ์ของคริชณะอยู่ภายในใจอยู่แล้ว พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกนางเป็นโยคีผู้ยอดเยี่ยมที่สุด ดังที่กล่าวไว้ใน ภควัต-คีตา ว่า บุคคลผู้ระลึกถึงคริชณะเสมอภายในหัวใจด้วยความศรัทธาและความรัก พิจารณาว่าเป็นโยคีสูงสุดในบรรดาโยคีทั้งหลาย อันที่จริง โยคีตั้งสมาธิจิตอยู่ที่รูปลักษณ์ของพระวิชณุ นั่นคือโยคะที่แท้จริง คริชณะทรงเป็นรูปลักษณ์เดิมของวิชณุ-ทัททวะ ทั้งหมด เหล่าโกปี ไม่สามารถไปหาคริชณะด้วยตนเองได้ ดังนั้น จึงทำสามาธิที่คริชณะเหมือนกับโยคีโดยสมบูรณ์
ในระดับพันธชีวิต มีผลของกิจกรรมทางวัตถุสองชนิด พันธชีวิตที่ทำบาปเสมอต้องได้รับทุกข์อันเป็นผลกรรม และผู้ทำบุญจะได้รับผลคือความสุขทางวัตถุ ไม่ว่าในกรณีใดทั้งผู้รับทุกข์และผู้รับสุขจะถูกพันธนาการโดยธรรมชาติวัตถุ
โกปี เพื่อนๆ ของคริชณะที่มาชุมนุมกันที่คริชณะปรากฏตัว มาจากกลุ่มต่างๆกัน โกปี ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนนิรันดรของคริชณะ ดังที่กล่าวใน บระฮมะ-สัมฮิทา ว่าอานันดะ-ชิน-มะยะ-ระสะ-พระทิบาวิทาบิฮ ในโลกทิพย์ เพื่อนๆ ของคริชณะโดยเฉพาะพวกโกปี เป็นปรากฏการณ์ของพลังแห่งความสุขของ องค์ภควาน คริชณะพวกนางคือภาคแบ่งแยกมาจาก ชรีมะธี ราดาราณี เมื่อคริชณะมาแสดงลีลาทิพย์ภายในโลกวัตถุตามจักรวาลต่างๆ ไม่เพียงแต่เพื่อนๆ นิรันดรของคริชณะเท่านั้นที่มาแต่พวกที่ได้รับการส่งเสริมให้มาอยู่ในสถานภาพนี้จากโลกวัตถุก็มาด้วยเช่นกัน พวกโกปี ที่มาร่วมกับลีลาของคริชณะภายในโลกวัตถุนี้ มาจากสภาวะของมนุษย์ปุถุชนธรรมดา หากถูกพันธนาการอยู่ในกิจกรรมเพื่อผลทางวัตถุ พวกนางจะเป็นอิสระจากผลกรรมโดยสมบูรณ์ ด้วยการทำสมาธิอยู่ที่คริชณะตลอดเวลา ความคิดถึงที่ทำให้พวกนางเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส อันมีต้นเหตุมาจากไม่สามารถมาพบคริชณะผู้ที่ทำให้เป็นอิสระจากผลบาปทั้งปวง ความปลื้มปีติสุขแห่งความรักทิพย์ที่มีต่อ คริชณะในขณะที่คริชณะไม่อยู่ อยู่เหนือผลบุญทางวัตถุทั้งปวง พันธวิญญาณต้องเกิดและตายไม่ว่าทำบุญหรือทำบาป แต่พวกโกปี ที่เริ่มทำสมาธิอยู่ที่คริชณะข้ามพ้นทั้งสองสภาวะ และได้รับความบริสุทธิ์จึงพัฒนามาสู่สถานภาพของพวกโกปี ที่แบ่งภาคมาจากพลังแห่งความสุขของคริชณะ โกปี ทั้งหมดทำสมาธิจิตอยู่ที่คริชณะในความรู้สึกเป็นชู้รัก ทำให้นางไร้มลทินจากผลประโยชน์แห่งธรรมชาติวัตถุ บางคนออกจากร่างวัตถุที่พัฒนามาจากสามระดับแห่งธรรมชาติวัตถุได้ทันที
มะฮาราจะ พะรีคชิท สดับฟัง ชุคะเดวะ โกสวามี อธิบายถึงสถานการณ์ของพวกโกปี ที่มาร่วมชุมนุมกับคริชณะใน ราสะ-ลีลาศ เมื่อได้ยินว่าโกปี บางคนเพียงแต่ทำสมาธิอยู่ที่คริชณะว่าเป็นชู้รัก ได้รับอิสรภาพจากมลทินแห่งการเกิดและตายทางวัตถุทั้งปวง โดยกล่าวว่า “พวกโกปี ไม่รู้ว่าคริชณะคือองค์ภควาน แต่ยอมรับคริชณะว่าเป็นเด็กหนุ่มที่สง่างามและคิดว่าคริชณะเป็นชู้รัก ดังนั้น เป็นไปได้อย่างไรที่จะเป็นอิสระจากสภาวะวัตถุด้วยการคิดถึงชู้รัก?” เราควรพิจารณาว่า คริชณะและสิ่งมีชีวิตธรรมดาสามัญมีคุณสมบัติเป็นหนึ่งเดียวกัน สิ่งมีชีวิตทั่วไปเป็นละอองอณูของคริชณะเป็นบระฮมันเช่นกัน แต่คริชณะทรงสูงสุด เป็นพะระบระฮมัน คำถามจึงมีว่า หากสาวกสามารถเป็นอิสระจากสภาวะที่มีมลทินทางวัตถุด้วยการคิดถึงคริชณะเท่านั้น แล้วทำไมคนอื่นคิดถึงบางคนเช่นเดียวกันจึงไม่เป็นอิสระ? หากผู้ที่คิดถึงสามี บุตร หรือผู้ใดก็ได้ แต่เป็นการคิดถึงอีกชีวิตหนึ่ง เนื่องจากชีวิตทั้งหมดเป็นบระฮมันเช่นเดียวกัน แล้วทำไมไม่ได้รับอิสระภาพจากระดับมลทินแห่งธรรมชาติวัตถุ? นี่เป็นคำถามที่เหมาะสมมาก เพราะผู้ไม่เชื่อองค์ภควานชอบเลียนแบบ คริชณะเสมอ ในกลียุคมีคนสารเลวมากมายที่คิดว่าตนเองยิ่งใหญ่พอๆกับคริชณะ และมาหลอกลวงชาวบ้านให้เชื่อว่า การคิดถึงตนเองนั้นดีเท่าๆ กับการคิดถึงองค์ภควาน คริชณะ, พะรีคชิท มะฮาราจะ ทรงเข้าใจสภาวะอันตรายของสาวกตาบอดที่เลียนแบบมาร จึงถามคำถามนี้ โชคดีที่ได้บันทึกไว้ใน ชรีมัด-ภควธัม เพื่อเตือนผู้พาซื่อว่า การคิดถึงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาและการคิดถึงคริชณะนั้นไม่เหมือนกัน
อันที่จริง แม้แต่การคิดถึงเทวดาเปรียบเทียบกับการคิดถึงคริชณะไม่ได้ เตือนไว้เช่นกันใน ไวชณะวะ ทันทระ ว่า ผู้ที่คิดว่าพระวิชณุ พระนารายณ์ หรือคริชณะ อยู่ในระดับเดียวกับเทวดา เรียกว่าพาสัณดะ หรือคนสารเลว เมื่อได้ยินคำถามนี้จาก มะฮาราจะ พะรีคชิท, ชุคะเดวะ โกสวามี ตอบว่า “พระราชาที่รักของข้า คำถามของพระองค์นั้นมีคำตอบเรียบร้อยแล้ว แม้ก่อนหน้าเหตุการณ์นี้”
เพราะ พะรีคชิท มะฮาราจะ ต้องการทำให้สถานการณ์กระจ่างขึ้น พระอาจารย์ทิพย์จึงตอบด้วยความฉลาดมากว่า “ทำไมเธอจึงถามเกี่ยวกับเรื่องเดียวกันอีกครั้งทั้งที่ได้อธิบายไปแล้ว? ทำไมจึงลืมง่ายนัก?” พระอาจารย์ทิพย์อยู่ในสถานะที่สูงกว่าเสมอ ดังนั้น จึงมีสิทธิ์สั่งสอนสาวก เช่นนี้ ชุคะเดวะ โกสวามี รู้ว่า มะฮาราจะ พะรีคชิท ทรงถามคำถามมิใช่เพื่อความเข้าใจของตนเอง แต่เพื่อเตือนประชาชนผู้พาซื่อในอนาคตที่อาจคิดว่าผู้อื่นเทียบเท่ากับคริชณะ
ชุคะเดวะ โกสวามี เตือน พะรีคชิท มะฮาราจะ เกี่ยวกับความหลุดพ้นของชิชุพาละ, ชิชุพาละอิจฉาริษยาคริชณะเสมอ และด้วยความอิจฉาริษยาเช่นนี้ คริชณะจึงสังหารเขา เนื่องจากคริชณะทรงเป็นองค์ภควาน ชิชุพาละจึงได้รับความหลุดพ้นด้วยเพียงแต่ได้เห็นคริชณะ หากบุคคลผู้มีความอิจฉาริษยายังได้รับความหลุดพ้นด้วยเพียงแต่ทำสมาธิจิตอยู่ที่คริชณะ แล้วพวกโกปี อันเป็นที่รักยิ่งของคริชณะ คิดถึงคริชณะด้วยความรักเสมอ จะได้รับผลดีกว่านี้อีกมากเพียงใด? มีข้อแตกต่างระหว่างศัตรูและเพื่อน หากศัตรูของคริชณะสามารถได้รับอิสรภาพจากมลทินทางวัตถุและกลายมาเป็นหนึ่งเดียวกับองค์ภควาน แน่นอนว่าเพื่อนรักของคริชณะ เช่น พวกโกปีจะต้องได้รับอิสรภาพและไปอยู่กับพระองค์
นอกจากนั้นใน ภควัต-คีตา คริชณะทรงถูกเรียกว่า ฮริชีเคชะ, ชุคะเดวะ โกสวามี กล่าวเช่นกันว่าคริชณะคือฮริชีเคชะ องค์อภิวิญญาณ ขณะที่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาเป็นพันธวิญญาณที่ถูกร่างวัตถุปกคลุม คริชณะและพระวรกายของคริชณะเหมือนกันเพราะทรงเป็นฮริชีเคชะ ผู้ใดแบ่งแยกระหว่างคริชณะและพระวรกายของคริชณะเป็นคนโง่อันดับหนึ่ง คริชณะคือฮริชีเคชะและอโดคชะจะ สองคำนี้ พะรีคชิท มะฮาราจะ ได้ใช้ในตัวอย่างนี้ ฮริชีเคชะคืออภิวิญญาณ และอโดคชะจะคือองค์ ภควานผู้เป็นทิพย์เหนือธรรมชาติวัตถุ เพื่อแสดงความชื่ืนชอบต่อสิ่งมีชีวิตธรรมดาสามัญ ด้วยพระเมตตาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ คริชณะทรงปรากฏในรูปนี้ ด้วยความอับโชค คนโง่ยังหลงผิดคิดว่าคริชณะเป็นปุถุชนคนธรรมดา ดังนั้น จึงมีสิทธิ์ที่จะลงไปสู่อเวจี ชุคะเดวะ โกสวามี ยืนยันอีกครั้งว่า คริชณะคือองค์ภควาน ไม่มีวันแตกสลาย วัดไม่ได้ และเป็นอิสระจากมลทินทางวัตถุทั้งปวง
ชุคะเดวะ โกสวามี บอกแก่ พะรีคชิท มะฮาราจะ ต่อไปว่า คริชณะมิใช่บุคคลธรรมดา ทรงเป็นองค์ภควาน เต็มไปด้วยคุณสมบัติทิพย์ทั้งปวง ทรงปรากฏในโลกวัตถุด้วยพระเมตตาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และเมื่อใดปรากฏ จะทรงปรากฏเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยืนยันเช่นเดียวกันนี้ใน ภควัต-คีตา โดยตรัสว่า องค์ภควานทรงปรากฏด้วยพลังทิพย์ ทรงมิได้ปรากฏภายใต้การควบคุมของพลังงานวัตถุ พลังงานวัตถุอยู่ภายใต้การควบคุมของพระองค์ ใน ภควัต-คีตา กล่าวว่าพลังงานวัตถุทำงานภายใต้การควบคุมของพระองค์ ยืนยันใน บระฮมะ-สัมฮิทา เช่นกันว่า พลังงานวัตถุมีชื่อว่าดุรกา ปฏิบัติเสมือนเป็นเงาเคลื่อนไปตามการเคลื่อนไหวของตัวจริง ผลสรุปคือหากผู้ใดยึดมั่นต่อคริชณะหรือรักคริชณะ ไม่ว่าจะด้วยความสง่างาม คุณสมบัติ ความร่่ำรวย ชื่อเสียง พลังอำนาจ การเสียสละ ความรู้ หรือแม้แต่ด้วยราคะ ความโกรธ ความกลัว ความรัก หรือมิตรภาพ เช่นนี้ อิสรภาพจากมลทินทางวัตถุของผู้นั้นเป็นสิ่งแน่นอน
ใน ภควัต-คีตา บทที่สิบแปด องค์ภควานตรัสเช่นกันว่า ผู้สอนคริชณะจิตสำนึกเป็นที่รักยิ่งของพระองค์ ผู้สอนจะพบกับความยากลำบากมากมายในการต่อสู้เพื่อสอนคริชณะจิตสำนึกที่บริสุทธิ์ บางครั้งต้องรับทุกข์จากอุบัติเหตุทางร่างกาย และบางครั้งถึงกับความตาย ทั้งหมดนี้เป็นการปฏิบัติสมถะอันยื่งใหญ่เพื่อ คริชณะ ดังนั้น คริชณะตรัสว่าผู้สอนเช่นนี้เป็นที่รักยิ่งของพระองค์ หากศัตรูของคริชณะได้รับความหลุดพ้นโดยทำสมาธิจิตอยู่ที่พระองค์ แล้วบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งของคริชณะจะได้รับอะไร? ผลสรุปคือ ความหลุดพ้นของผู้สอนคริชณะจิตสำนึกในโลกนี้ รับประกันไว้ในทุกสถานการณ์ แต่ผู้สอนเช่นนี้ไม่สนใจกับความหลุดพ้น เพราะที่จริงผู้ปฏิบัติคริชณะจิตสำนึก หรืออุทิศตนเสียสละรับใช้ บรรลุความหลุดพ้นเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ชุคะเดวะ โกสวามี ให้ความมั่นใจแด่ พะรีคชิท มะฮาราจะ ว่า ควรมั่นใจเสมอว่าผู้ที่รักคริชณะจะบรรลุถึงเสรีภาพจากพันธนาการทางวัตถุเพราะ คริชณะทรงเป็นพระอาจารย์ทิพย์ของพลังอิทธิฤทธิ์ทั้่งปวง
เมื่อ โกปี ทั้งหมดมาชุมนุมกันต่อหน้าคริชณะ ดังที่อธิบายไว้แล้วว่าคริชณะเริ่มตรัสต้อนรับพร้อมทั้งห้ามปรามพวกนางด้วยคำพูดวกวน คริชณะทรงเป็นนักพูดยอดเยี่ยมที่สุด เป็นผู้ตรัส ภควัต-คีตา คริชณะสามารถตรัสเกี่ยวกับวิชาที่พัฒนาสูงสุด เช่น ปรัชญา การเมือง เศรษฐศาสตร์ ทุกสิ่งทุกอย่าง พระองค์ตรัสต่อหน้าเหล่าโกปี ผู้เป็นที่รักยิ่ง ทรงปรารถนาให้โกปี หลงใหลด้วยคำพูดที่วกวน จึงตรัสดังนี้
“โอ้ สุภาพสตรีแห่งวรินดาวะนะ พวกเธอโชคดีมาก และเป็นที่รักยิ่งของข้า ข้าดีใจมากที่พวกเธอมาที่นี่ ข้าหวังว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดีที่วรินดาวะนะ บัดนี้ โปรดสั่งมาเถิดว่าข้าจะทำอะไรให้พวกเธอได้บ้าง? มาที่นี่ในเวลากลางคืนด้วยจุดประสงค์อันใด? โปรดกรุณานั่งลงและบอกมาว่า ข้าจะทำอะไรให้พวกเธอได้บ้าง”
พวกโกปี มาพบคริชณะเพื่อหาความสุขที่ได้พระองค์มาเป็นเพื่อน มาลีลาศกัน โอบกอดและจูบพระองค์ พอคริชณะต้อนรับพวกนางอย่างเป็นทางการมาก แสดงมารยาทท่าทีต่างๆ รู้สึกแปลกใจที่คริชณะปฏิบัติต่อพวกนางเหมือนหญิงในสังคมธรรมดาทั่วไป เริ่มยิ้มให้กัน และกระตือรือร้นฟังคริชณะพูด พอเห็นพวกนางยิ้มให้ คริชณะตรัสว่า “เพื่อนรักของข้า ตอนนี้เธอต้องรู้ว่าเป็นเวลากลางคืน ดึกดื่นค่อนคืนในป่ามีอันตรายมาก เวลานี้สัตว์ป่าที่ดุร้าย เช่น เสือ หมี สุนัขจิ้งจอก และสุนัขป่า กำลังเที่ยวเดินอยู่ในป่า เป็นอันตรายมากสำหรับพวกเธอ ไม่สามารถหาที่ปลอดภัยได้ในตอนนี้ ทุกหนทุกแห่งที่ไป จะพบสัตว์ป่ากำลังเดินหาเหยื่อ ข้าคิดว่าพวกเธอเสี่ยงภัยมากในการมาที่นี่กลางดึกเช่นนี้ โปรดกรุณากลับบ้านทันทีโดยไม่รอช้า”
คริชณะเห็นพวกนางยังยิ้มอยู่จึงตรัสว่า “ข้าชื่นชมยินดีกับรูปลักษณ์ของพวกเธอมาก มีเอวบางที่สวยงาม” โกปี ทั้งหมดมีความสวยงามเป็นพิเศษ อธิบายด้วยคำว่า สุมัดยะมา มาตรฐานความสวยงามของสตรีคือสุมัดยะมา มีเอวอรชร
คริชณะปรารถนาบอกว่า พวกนางยังโตไม่พอจะดูแลตนเอง ที่จริงต้องการความคุ้มครอง ไม่ฉลาดที่มาหาคริชณะในเวลากลางคืน คริชณะทรงแสดงให้เห็นว่า ตัวพระองค์เป็นเด็กหนุ่มและ โกปี เป็นหญิงสาว “ดูไม่ดีเลยที่หญิงสาวและชายหนุ่มมาอยู่ด้วยกันในเวลากลางคืน” เมื่อได้ยินคำแนะนำเช่นนี้ พวกโกปี รู้สึกไม่มีความสุขเลย ดังนั้น คริชณะทรงเน้นจุดนี้ด้วยวิธีอื่น “เพื่อนๆ ที่รัก ข้าเข้าใจว่าพวกเธอจากบ้านมาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง ฉะนั้น ข้าคิดว่า มารดา บิดา พี่ชาย แม้แต่ลูกๆ ของพวกเธอ ไม่ต้องพูดถึงสามี ต้องเป็นห่วงมากในการตามหาพวกเธอขณะอยู่ที่นี่ พวกเขาตามหาในที่ต่างๆ จิตใจต้องไม่สบายมาก ดังนั้น จงอย่ารีรอโปรดกลับไปบ้าน และทำให้พวกเขาจิตใจสงบลง”
เมื่อพวกโกปี แสดงอาการไม่พอใจเล็กน้อย และโกรธจากคำแนะนำที่ไม่คิดมูลค่าของคริชณะ พวกนางเปลี่ยนความสนใจไปมองความสวยงามของป่า ขณะนั้นทั่วทั้งป่าเป็นประกายด้วยแสงสว่างจากดวงจันทร์ ลมพัดผ่านดอกไม้บานอย่างสงบ และใบไม้สีเขียวของต้นไม้เคลื่อนไหวไปกับแรงลม คริชณะถือโอกาสขณะที่พวกโกปี มองไปที่ป่าและแนะนำว่า “ข้าคิดว่าพวกเธอมาดูความงามของป่าวรินดาวะนะในคืนนี้ บัดนี้ได้รับความพึงพอใจแล้ว ดังนั้น ควรกลับไปบ้านโดยไม่รอช้า ข้าเข้าใจว่าพวกเธอทั้งหมดเป็นหญิงบริสุทธิ์ ตอนนี้ได้เห็นบรรยากาศอันสวยงามของป่าวรินดาวะนะแล้วโปรดกลับบ้านและปฏิบัติรับใช้สามีด้วยความชื่อสัตย์ บางคนมีลูกแม้ยังเป็นเด็กมาก อาจปล่อยลูกๆ อยู่ที่บ้าน ป่านนี้คงกำลังร้องไห้กัน โปรดกลับบ้านไปทันทีเพื่อป้อนนมให้ลูกดื่ม เข้าใจว่าพวกเธอมีความรักต่อข้ามาก เพราะความรักทิพย์นี้ พวกเธอจึงมาที่นี่เพื่อฟังเสียงขลุ่ยของข้า ความรู้สึกแห่งความรักที่มีต่อข้าเหมาะสมมาก เพราะข้าคือองค์ภควาน มวลชีวิตเป็นละอองอณูของข้า จึงมีความรักต่อข้าโดยธรรมชาติ ความรักที่มีต่อข้าเป็นที่น่ายินดีมาก ข้าขอแสดงความยินดี ตอนนี้พวกเธอกลับบ้านได้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องอธิบายคือ สำหรับสตรีผู้บริสุทธิ์การรับใช้สามีโดยไม่ตีสองหน้าคือหลักศาสนาที่ดีที่สุด สตรีไม่ควรเพียงแต่ซื่อสัตย์และบริสุทธิ์ต่อสามีเท่านั้น แต่ควรรักเพื่อนๆ ของสามี เชื่อฟังบิดาและมารดาของสามี รักน้องๆ ของสามี และที่สำคัญที่สุดสตรีต้องดูแลลูกๆ”
เช่นนี้ คริชณะทรงอธิบายถึงหน้าที่ของสตรี ทรงเน้นถึงการรับใช้สามี “หากแม้สามีไม่มีบุคลิกที่ดี ไม่ร่ำรวย โชคไม่ดี แก่ชรา หรือทุพพลภาพอันเนื่องมาจากโรคเรื้อรัง ไม่ว่าสภาวะของสามีเป็นเช่นไร สตรีไม่ควรหย่าร้าง หากนางปรารถนาพัฒนาขึ้นไปสู่ระบบดาวเคราะห์ที่สูงกว่าอย่างจริงจังหลังออกจากร่างนี้ไป พิจารณาว่าเป็นสิ่งเลวทรามในสังคมหากสตรีไม่ซื่อสัตย์ และไปหาชายอื่น นิสัยเช่นนี้เป็นอุปสรรคสำหรับสตรีที่จะพัฒนาไปสู่สวรรค์ ผลของนิสัยเช่นนี้ทำให้เลวทรามมาก สตรีที่แต่งงานแล้วไม่ควรมีชู้รัก เพราะหลักธรรมชีวิตพระเวทไม่อนุญาต หากคิดว่าพวกเธอยึดมั่นต่อข้ามาก ต้องการมาคบหาสมาคมกับข้า แนะนำว่าไม่ควรพยายามมาหาความสุขกับข้าด้วยตนเองกลับไปบ้านจะดีกว่า แล้วเพียงแต่พูดเกี่ยวกับข้า คิดถึงข้า ด้วยวิธีการระลึกถึงข้าเสมอ และสวดภาวนาชื่อของข้า จะพัฒนามาถึงระดับทิพย์แน่นอน ไม่จำเป็นต้องมายืนใกล้ๆ ข้า โปรดกลับบ้านไปกันเถิด”
คำสอนที่องค์ภควานให้กับโกปี ณ ที่นี้มิใช่เป็นการถากถางอันใดเลย คำสอนเช่นนี้สตรีผู้มีความซื่อสัตย์ทั้งหลายควรรับไว้อย่างจริงจัง ความบริสุทธิ์ของสตรี องค์ภควานทรงเน้นโดยเฉพาะ ณ ที่นี้ ฉะนั้น หลักธรรมนี้ สตรีที่มีความจริงจังควรปฏิบัติตาม หากต้องการพัฒนาไปสู่ระดับชีวิตที่สูงกว่า คริชณะทรงเป็นจุดศูนย์กลางแห่งความรักทั้งหลายสำหรับมวลชีวิต เมื่อความรักนี้พัฒนาเพื่อคริชณะ จากนั้น เราจะข้ามพ้นอยู่เหนือคำสั่งสอนของคัมภีร์พระเวททั้งหมด เช่นนี้เป็นไปได้สำหรับโกปี เพราะพวกนางพบกับคริชณะซึ่งๆ หน้า และเป็นไปไม่ได้สำหรับสตรีที่อยู่ในระดับวัตถุ ด้วยอับโชค จากการเลียนแบบความประพฤติระหว่างคริชณะกับโกปี บางครั้งคนชั่วรับเอาสถานภาพของคริชณะ ปฏิบัติตามปรัชญาลัทธิเชื่อว่าเป็นหนึ่งเดียวกัน และฉวยโอกาสกับ ราสะ-ลีลาศ นี้โดยไม่รับผิดชอบ ล่อลวงหญิงผู้พาซื่อ ชักนำไปในทางที่ผิดในนามแห่งความรู้แจ้งทิพย์ เพื่อเป็นการเตือน คริชณะทรงให้สัญญาณ ณ ที่นี้ว่า สิ่งใดที่เป็นไปได้สำหรับโกปี เป็นไปไม่ได้สำหรับหญิงธรรมดาทั่วไป แม้สตรีสามารถพัฒนาโดยก้าวหน้าในคริชณะจิตสำนึกอย่างแท้จริง ไม่ควรถูกล่อลวงจากคนโกงที่บอกว่าตนเองคือคริชณะ สตรีควรทำสมาธิอยู่กับกิจกรรมแห่งการอุทิศตนเสียสละ โดยสวดมนต์ภาวนา และตั้งสมาธิอยู่ที่คริชณะดังที่แนะนำไว้ ณ ที่นี้ ไม่ควรปฏิบัติตามผู้ชายที่เรียกว่าสะฮะจิยา ผู้เป็นสาวกจอมปลอมที่เห็นว่าทุกสิ่งไม่สำคัญ
เมื่อคริชณะตรัสแบบห้ามปรามพวกโกปี พวกนางรู้สึกเสียใจมาก เพราะปรารถนามีความสุข ราสะ-ลีลาศ กับคริชณะคงไม่สมหวัง จึงเต็มไปด้วยความวิตกกังวล จากความเสียใจอันใหญ่หลวงนี้ พวกโกปี เริ่มหายใจแรงและมองไปที่ใบหน้าของคริชณะ ก้มศีรษะลงมองไปที่พื้น ใช้หัวแม่เท้าวาดเส้นโค้งต่างๆ บนพื้นดิน น้ำตาไหลพรากลงมามากมาย เครื่องสำอางที่แต่งหน้าไว้ถูกล้างออก น้ำตาผสมกับคุงคุมะที่หน้าอกไหลตกลงบนพื้น ไม่สามารถพูดอะไรกับคริชณะได้ นอกจากยืนนิ่งเงียบอยู่ตรงนั้น จากความนิ่งสงบแสดงว่าหัวใจของพวกนางบาดเจ็บอย่างแสนสาหัส
พวกโกปี มิใช่หญิงธรรมดาสามัญ ที่จริง พวกนางอยู่ในระดับเดียวกับคริชณะ เป็นเพื่อนนิรันดรของคริชณะ ดังที่ยืนยันใน บระฮมะ-สัมฮิทา ว่าพวกนางคือภาคแบ่งแยกของพลังแห่งความสุขของคริชณะ ในฐานะเป็นพลังงานของพระองค์ จึงไม่แตกต่างไปจากพระองค์ แม้มีความเสียใจกับคำพูดของคริชณะและไม่ต้องการใช้คำรุนแรง แต่ต้องการต่อว่าคริชณะในการที่ใช้คำพูดที่ไร้เมตตา ดังนั้น จึงเริ่มพูดด้วยเสียงตะกุกตะกัก ไม่ปรารถนาใช้คำรุนแรงเพราะคริชณะคือยอดดวงใจ พวกโกปี มี คริชณะเพียงองค์เดียวอยู่ภายในหัวใจ ศิโรราบและอุทิศดวงวิญญาณแด่คริชณะอย่างราบคาบโดยธรรมชาติ เมื่อได้ยินคำพูดไม่ไพเราะเช่นนี้ พยายามโต้ตอบ แต่ในความพยายามเช่นนี้ น้ำตาไหลพรากออกมาจากดวงตา ในที่สุดพูดออกมาว่า
“คริชณะ ช่างโหดร้ายมาก! ไม่ควรพูดเช่นนี้ พวกเราเป็นดวงวิญญาณที่ศิโรราบโดยราบคาบ โปรดกรุณายอมรับพวกเราและอย่าพูดด้วยวิธีที่โหดร้ายเช่นนี้ แน่นอนว่าพระองค์คือองค์ภควาน สามารถทำอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา แต่ไม่ควรค่ากับสถานภาพของพระองค์ที่ปฏิบัติต่อพวกเราด้วยวิธีที่โหดร้ายเช่นนี้ เรามาหาพระองค์ ละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อมาพึ่งพระบาทรูปดอกบัว รู้ว่าทรงมีอิสระโดยสมบูรณ์สามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ แต่เราขอร้องว่าโปรดกรุณาอย่าปฏิเสธพวกเราผู้เป็นสาวก ควรรับพวกเราเหมือนดังเช่นพระนารายณ์ยอมรับสาวก มีสาวกของพระนารายณ์มากมายที่บูชาพระองค์เพื่อความหลุดพ้น และทรงประทานความหลุดพ้นให้ เช่นเดียวกัน จะปฏิเสธพวกเราได้อย่างไร เราไม่มีที่พึ่งอื่นใดนอกจากพระบาทรูปดอกบัวของพระองค์?”
พวกนางพูดต่อ “โอ้คริชณะที่รัก พระองค์คือครูสูงสุดโดยไม่ต้องสงสัย คำสอนสำหรับสตรีที่ให้มีความซื่อสัตย์ต่อสามี และมีเมตตาต่อลูกๆ ดูแลทำงานบ้าน และเชื่อฟังสมาชิกผู้อาวุโสในครอบครัว เป็นไปตามหลักคำสอนของชาสทระ แน่นอน แต่เราทราบเช่นกันว่าเราอาจปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระคัมภีร์โดยสมบูรณ์ โดยให้ตัวเรามาอยู่ภายใต้การปกป้องของพระบาทรูปดอกบัว สามี เพื่อนๆ สมาชิกในครอบครัว และลูกๆ เป็นที่รักยิ่งและน่ายินดีสำหรับพวกเรา เพราะพระองค์ทรงปรากฏในฐานะอภิวิญญาณของมวลชีวิต ปราศจากพระองค์เราไม่มีคุณค่าอันใดเลย พอพระองค์ออกจากร่างไปร่างกายตายทันที ตามคำสั่งสอนของชาสทระ ร่างกายที่ตายแล้วต้องถูกโยนลงน้ำหรือเผาทันที ฉะนั้น ในที่สุดพระองค์คือบุคลิกภาพผู้น่ารักที่สุดในโลก ด้วยการให้ความศรัทธาและความรักต่อพระองค์ ไม่เปิดโอกาสให้เราสูญเสียสามี เพ่ื่อน บุตรหรือธิดา ยอมรับพระองค์ว่าเป็นสวามีสูงสุด นางจะไม่สูญเสียสามีเหมือนกับในชีวิตที่มีแนวความคิดทางร่างกาย หากเรายอมรับพระองค์ว่าเป็นสวามีสูงสุดจะไม่มีคำว่าแยกจากกัน หย่าร้าง หรือเป็นม่าย พระองค์คือสวามีนิรันดร บุตรนิรันดร เพื่อนนิรันดร และเจ้านายนิรันดร ผู้ใดมามีความสัมพันธ์กับพระองค์จะมีความสุขนิรันดร เพราะทรงเป็นครูแห่งหลักศาสนาทั้งหมด ก่อนอื่นพระบาทรูปดอกบัวต้องได้รับการบูชา ชาสทระ กล่าวว่า อาชารยะ-อุพาสะนา หลักธรรมแรกคือการบูชาพระบาทรูปดอกบัวของพระองค์ นอกนั้น ดังที่กล่าวใน ภควัต-คีตา พระองค์คือผู้มีความสุขเกษมสำราญเพียงผู้เดียว คือเจ้าของเพียงผู้เดียว และคือเพื่อนเพียงผู้เดียว ดังนั้น เรามาหาพระองค์ปล่อยวางสิ่งที่เรียกว่าเพื่อน สังคม และความรัก บัดนี้พระองค์คือผู้มีความสุขของพวกเรา โปรดให้พวกเราให้ความสุขแด่พระองค์นิรันดร เป็นเจ้าของพวกเรา นั่นคือคำอ้างโดยธรรมชาติของพระองค์ เป็นเพื่อนสูงสุดของพวกเรา เพราะเป็นเช่นนี้โดยธรรมชาติ ดังนั้น ขอให้พวกเราได้โอบกอดพระองค์ในฐานะเป็นสุดที่รักสูงสุดของพวกเรา”
จากนั้นพวกโกปี บอกแด่คริชณะผู้มีพระเนตรคล้ายรูปดอกบัวว่า “โปรดกรุณาอย่าห้ามความปรารถนาของพวกเรา ที่สงวนไว้ในใจว่าจะได้พระองค์มาเป็นสวามี ชายใดที่มีสติปัญญา และสนใจกับผลประโยชน์ของตนเอง จะอิงน้าใจแห่งความรักทั้งหมดมาที่พระองค์ บุคคลที่ถูกพลังงานเบื้องต่านำไปในทางที่ผิด ต้องการสนองความนึกคิดที่ผิดพยายามหาความสุขใส่ตนแยกไปจากพระองค์ ผู้สมมติว่าเป็นสามี เพื่อน บุตร ธิดา หรือบิดามารดา ทั้งหมดนี้เป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์ทางวัตถุ ไม่มีผู้ใดมีความสุขในโลกวัตถุนี้ได้ด้วยการมีสิ่งสมมุติที่เรียกว่า บิดา มารดา สามี บุตรธิดา และเพื่อน แม้บิดาและมารดาคาดว่าจะปกป้องลูกๆ มีลูกๆหลายคนได้รับความทุกข์เนื่องจากต้องการอาหารและที่อยู่อาศัย มีแพทย์ที่ดีมากมาย แต่เมื่อคนไข้เสียชีวิตไม่มีแพทย์คนใดทำให้ฟื้นคืนชีพมาได้ มีวิธีการปกป้องคุ้มครองมากมาย แต่เมื่อใครถึงวาระกำหนด จะไม่มีวิธีการปกป้องคุ้มครองใดๆ ที่ช่วยเขาได้ และปราศจากการปกป้องคุ้มครองจากพระองค์ แหล่งที่เรียกว่าปกป้องคุ้มครองจะเป็นเพียงแหล่งแห่งความทุกข์ยากสืบต่อไป ดังนั้น เราขอร้อง องค์ภควานแห่งปวงเทพที่รัก โปรดอย่าประหารความปรารถนาอันยาวนานที่เราสงวนไว้ในใจ เพื่อจะได้พระองค์มาเป็นสวามีสูงสุดของพวกเรา
“คริชณะที่รัก ในฐานะเป็นสตรีแน่นอนว่าพวกเราพึงพอใจ เมื่อหัวใจปฏิบัติในภารกิจของครอบครัว แต่หัวใจของเราถูกพระองค์ขโมยไปแล้ว จึงไม่สามารถปฏิบัติภารกิจในครอบครัวได้ นอกจากนั้นพระองค์ทรงขอร้องครั้งแล้วครั้งเล่าให้พวกเรากลับบ้านแต่นั่นเป็นคำสั่งที่ไม่เหมาะสมเลย ด้วยความอับโชคพวกเรารู้สึกงง ณ ที่นี้ ขาของเราไม่มีแรงจะเคลื่อนไหวไปจากพระบาทรูปดอกบัว ฉะนั้น แม้ขอร้องให้กลับบ้าน แล้วเราจะไปทำอะไรที่นั่น? เราได้สูญเสียความสามารถทั้งหมดที่จะปฏิบัติสิ่งใดโดยปราศจากพระองค์ แทนที่ให้หัวใจปฏิบัติภารกิจของครอบครัวเหมือนสตรี บัดนี้เราพัฒนาราคะอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเผาไหม้อยู่ภายในหัวใจอย่างไม่หยุดหย่อน เราขอร้องคริชณะที่รัก บัดนี้ กรุณาดับไฟด้วยรอยยิ้มที่สง่างามและคลื่นเสียงทิพย์ที่หลั่งไหลออกมาจากริมฝีปากของพระองค์ หากไม่ตกลงปฏิบัติเช่นนี้ แน่นอนว่าเราจะถูกเผาไหม้อยู่ในไฟแห่งความเหินห่างจากกัน ในสภาวะเช่นนั้น เราเพียงแต่คิดถึงพระองค์และลักษณะอันสง่างาม และสละทิ้งร่างของเราไปในทันที เช่นนี้ คิดว่าเป็นไปได้ที่จะมาพักพิงอยู่ที่พระบาทรูปดอกบัวของพระองค์ในชาติหน้า คริชณะที่รัก พระองค์กล่าวว่าหากกลับบ้าน สามีจะทำให้ไฟราคะแห่งความปรารถนาของเราสมประสงค์ กล่าวได้แต่เพียงว่า เป็นไปไม่ได้ ทรงเปิดโอกาสพวกเราทำให้พระองค์ได้รับความสุขในป่า โดยมาสัมผัสกับหน้าอกของเราครั้งหนึ่งในอดีต ซึ่งเรายอมรับว่าเป็นพร เหมือนดังเทพธิดาแห่งโชคลาภผู้ที่พระองค์ได้รับความสุขอยู่ที่ไวคุณธะโลคะยอมรับ เพราะได้รับรสแห่งความสุขทิพย์นี้ เราไม่สนใจไปหาผู้ใดนอกจากพระองค์เพื่อสนองราคะ คริชณะที่รัก เหล่าเทวดาบูชาพระบาทรูปดอกบัวของเทพธิดาแห่งโชคลาภเสมอ แม้พระนางพำนักอยู่ที่หน้าอกของพระองค์ในโลกไวคุณธะ นางได้ผ่านการปฏิบัติบำเพ็ญเพียรและสมถะเพื่อได้รับพระบาทรูปดอกบัว ซึ่งมีใบทะลุสีปกคลุมอยู่เสมอมาเป็นที่พึ่ง พระบาทรูปดอกบัวของพระองค์เหมาะสมเป็นสรณะของผู้รับใช้ และเทพธิดาแห่งโชคลาภแทนที่จะพำนักอยู่ที่หน้าอกกลับลงมาบูชาพระบาทรูปดอกบัว บัดนี้ พวกเราได้วางตัวอยู่ภายใต้ละอองธุลีพระบาทของพระองค์ โปรดกรุณาอย่าปฏิเสธ เพราะเราเป็นดวงวิญญาณที่ศิโรราบแด่พระองค์โดยดุษฎี
คริชณะที่รัก ผู้มีอีกพระนามว่าฮะริ ซึ่งทำลายความทุกข์ทั้งหลายของมวลชีวิต โดยเฉพาะของผู้ที่ละทิ้งการยึดติดบ้านและครอบครัว และมารับพระองค์เป็นที่พึ่ง เราจากบ้านเรือนและหวังจะอุทิศตนเสียสละชีวิตอย่างสมบูรณ์เพื่อรับใช้พระองค์ เพียงขอให้ได้ปฏิบัติรับใช้ในฐานะเป็นผู้รับใช้ เรามิได้ปรารถนาขอให้รับพวกเรามาเป็นภรรยา เพียงแต่รับพวกเราให้มาเป็นผู้รับใช้ เนื่องจากทรงเป็นองค์ภควาน ชอบรื่นเริงกับพะระคียะ-ระสะ และมีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นนักล่าสตรีทิพย์ เรามาที่นี่เพื่อให้ความปรารถนาทิพย์ของพระองค์สมประสงค์ และต้องการความพึงพอใจของเราด้วย เพียงแต่มองไปที่ใบหน้าอันยิ้มแย้ม พวกเราเกิดราคะอย่างมาก เรามาอยู่ต่อหน้าพระองค์ประดับไปด้วยเครื่องตกแต่งเสื้อผ้าอาภรณ์สวยงาม ความงามของอาภรณ์และลักษณะความสวยของเรายังไม่สมบูรณ์ จนกว่าพระองค์จะมาโอบกอดพวกเรา พระองค์คือบุคลิกภาพสูงสุด หากทำให้ความพยายามแต่งตัวของเราสมบูรณ์เหมือนดั่งพุรุชะ-บูชะณะ หรือเครื่องประดับบุรุษ ตรงนี้ความปรารถนาและการประดับร่างกายของพวกเราทั้งหมดจะสมบูรณ์
“คริชณะที่รัก เราหลงใหลในการเห็นพระองค์พร้อมทิละคะ และต่างหูจากการดูใบหน้าอันสง่างามที่ปกคลุมไปด้วยผมที่กระจัดกระจาย และรอยยิ้มพิเศษ ไม่เพียงเท่านั้น ยังหลงอ้อมแขนที่รับประกันต่อดวงวิญญาณผู้ศิโรราบเสมอ แม้พวกเราหลงใหลกับหน้าอกที่เทพธิดาแห่งโชคลาภโอบกอดอยู่เสมอ เราไม่ต้องการมารับตำแหน่งของนาง เพียงพึงพอใจแค่เป็นผู้รับใช้เท่านั้น อย่างไรก็ดี หากกล่าวโทษพวกเราว่าส่งเสริมโสเภณี เราเพียงแต่ขอร้องว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่ไหนภายในสามโลกที่ไม่หลงรักกับความสง่างามและเสียงเพลงเป็นจังหวะที่ออกมาจากขลุ่ยของพระองค์ ภายในสามโลกนี้ไม่มีข้อแตกต่างระหว่างชายและหญิงในความสัมพันธ์กับพระองค์ เพราะว่าทั้งชายและหญิงเป็นพลังงานพรมแดน หรือพระคริทิ ไม่มีผู้ใดเป็นผู้มีความสุขหรือบุรุษโดยแท้จริง ทุกชีวิตมีความหมายเพื่อให้พระองค์ได้รับความสุข ไม่มีหญิงใดในสามโลกนี้ที่ไม่เบี่ยงเบนจากวิถีแห่งความบริสุทธิ์ของนางเมื่อหลงรักพระองค์ เพราะความสง่างามประเสริฐจนกระทั่งไม่เพียงแต่ผู้ชายและผู้หญิง แม้แต่ วัว นก สัตว์ และแม้ต้นไม้ ผลไม้ ดอกไม้ ทุกชีวิต และทุกสิ่งหลงใหลในเสน่ห์ของพระองค์ โดยไม่ต้องพูดถึงพวกเรา? อย่างไรก็ดี ได้ตัดสินใจอย่างแน่นอนแล้วว่าพระวิชณุปกป้องคุ้มครองเหล่าเทวดาที่ถูกมารทำร้ายเสมอ ฉะนั้นพระองค์ทรงปรากฏที่วรินดาวะนะเพื่ิอปกป้องคุ้มครองแด่ผู้อาศัยจากความทุกข์ทั้งปวง โอ้ เพื่อนรักของผู้มีความทุกข์ โปรดกรุณาวางมือบนหน้าอกอันร้อนระอุของเรา และบนศีรษะด้วย เพราะเราศิโรราบในฐานะผู้รับใช้นิรันดร อย่างไรก็ดี หากคิดว่าฝ่ามือคล้ายรูปดอกบัวอาจไหม้เป็นจุณ เมื่อวางบนหน้าอกอันร้อนระอุของเรา โปรดให้เราให้ความมั่นใจว่าฝ่ามือทั้งสองจะรู้สึกมีความสุขแทนที่จะเจ็บปวด เหมือนดังดอกบัว แม้ละเอียดอ่อนและนุ่มนวลได้รับความสุขจากความร้อนระอุของดวงอาทิตย์”
หลังจากสดับฟังคำร้องที่กระตือรือร้นของเหล่าโกปี องค์ภควานทรงแย้มพระสรวล ด้วยความเมตตากรุณาอย่างยิ่งแด่พวกโกปี องค์ภควานแม้จะมีความอิ่มเอิบพอเพียงอยู่ในตนเอง เริ่มโอบกอดและจูบตามที่พวกนางปรารถนา เมื่อคริชณะยิ้มและมองไปที่ใบหน้าของพวกโกปี ความงามบนใบหน้าของพวกนางทวีคูณเป็นร้อยๆเท่า เมื่อคริชณะมีความสุขท่ามกลางพวกโกปี คริชณะเปรียบเสมือนพระจันทร์เต็มดวงที่รายล้อมไปด้วยดาราที่ส่องแสงเจิดจรัสเป็นล้านดวง ฉะนั้นองค์ภควานทรงรายล้อมไปด้วยโกปี เป็นร้อยๆ และประดับด้วยพวงมาลัยดอกไม้ที่มีสีสันต่างๆ กัน เริ่มท่องเที่ยวไปในป่าวรินดาวะนะ บางครั้งร้องเพลงโดยลำพัง บางครั้งร้องร่วมกับพวกโกปี เช่นนี้ ทั้งองค์ภควานและโกปี มาถึงริมฝั่งชายหาดทรายอันร่มเย็นของยะมุนาที่มี ดอกลิลลี่และดอกบัว ในบรรยากาศทิพย์เช่นนี้ ทั้งโกปี และคริชณะมีความสุขร่วมกัน ขณะเดินอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำยะมุนา บางครั้งคริชณะใช้แขนโอบไปรอบๆ ศีรษะ หน้าอก และเอวของพวกโกปี หยิกแกมหยอกกันไปมา พูดเล่นตลกและมองหน้ากัน ทุกคนมีความสุข เมื่อคริชณะสัมผัสร่างกายของโกปี ราคะของพวกนางที่จะโอบกอดพระองค์เพิ่มเป็นทวีคูณ ทั้งหมดรื่นเริงไปกับลีลาเหล่านี้ ดังนั้น โกปี ได้รับพรจากพระเมตตาธิคุณอันสูงส่งขององค์ภควาน เพราะพวกนางรื่นเริงที่ได้อยู่กับพระองค์ โดยปราศจากชีวิตเพศสัมพันธ์ทางโลกแม้แต่เพียงนิดเดียว
อย่างไรก็ดี ในไม่ช้าพวกโกปี มีความรู้สึกภูมิใจคิดว่าตนเองเป็นผู้หญิงที่มีโชคดีที่สุดในจักรวาลที่ได้รับความชื่นชอบจากคริชณะมาอยู่ร่วมด้วย คริชณะทรงพระนามว่าเคชะวะ ทรงเข้าใจถึงความภูมิใจ ที่มีต้นเหตุมาจากโชคลาภอันมหาศาลของพวกนางที่ได้รับความสุขกับพระองค์เป็นการส่วนตัว และเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงพระเมตตาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และเพื่อตัดความภูมิใจที่ผิดๆ คริชณะทรงหายตัวไปในบัดดล แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งแห่งการเสียสละ องค์ภควานทรงเต็มไปด้วยความมั่งคั่งหกประการเสมอ นี่คือตัวอย่างของความมั่งคั่งแห่งการเสียสละ การเสียสละเช่นนี้ยืนยันถึงการไม่ยึดติดโดยสมบูรณ์ คริชณะทรงมีความอิ่มเอิบเพียงพออยู่ในตนเองเสมอ ทรงไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งใด นี่คือการแสดงระดับลีลาทิพย์ของพระองค์
ดังนั้น ขอจบคำอธิบายโดยบัคธิเวดันธะ หนังสือ “องค์ภควาน คริชณะ”
บทที่ยี่สิบเก้า “แนะนำราสะลีลาศ”