องค์ภควาน คริชณะ

บทที่ 37

อัครูระมาถึงวรินดาวะนะ

นาระดะ มุนิ ไม่ได้กล่าวถึงคริชณะสังหารวโยมาสุระ หมายความว่า วโยมาสุระถูกสังหารวันเดียวกับมารเคชี มารเคชีถูกสังหารในตอนเช้ามืด หลังจากนั้นเด็กๆ ไปเลี้ยงวัวที่ภูเขาโกวารดะนะ ณ ที่นั้น วโยมาสุระถูกสังหาร มารทั้งสองตนถูกสังหารในตอนเช้า คัมสะขอร้องให้อัครูระมาถึงวรินดาวะนะในตอนเย็น หลังจากได้รับคำสั่งจากคัมสะแล้ว อัครูระเริ่มออกเดินทางในเช้าวันต่อมาด้วยราชรถเพื่อไปวรินดาวะนะ เนื่องจากอัครูระเป็นสาวกผู้ยอดเยี่ยมขององค์ภควาน ขณะเดินทางไปวรินดาวะนะ ท่านสรรเสริญองค์ภควาน สาวกจะซึมซาบความรู้สึกนึกคิดอยู่ที่คริชณะเสมอ และอัครูระคิดถึงดวงตารูปดอกบัวของ องค์ภควาน คริชณะ อยู่เสมอ
อัครูระไม่รู้ว่าตัวท่านต้องทำบุญด้วยอะไรจึงมีโอกาสมาพบคริชณะ คิดว่าหากคริชณะทรงปรารถนาก็จะสามารถเข้าพบคริชณะ อัครูระพิจารณาตนเองว่าเป็นผู้โชคดีสุดที่ได้ไปพบคริชณะผู้ที่โยคีมีอิทธิฤทธิ์ยิ่งใหญ่ปรารถนาจะพบ คิดว่าวันนั้นทั้งวันผลแห่งบาปกรรมทั้งปวงในชาติก่อนๆ จะจบสิ้นลง ชีวิตในร่างมนุษย์ที่โชคดีของท่านจะประสบความสำเร็จ อัครูระพิจารณาด้วยว่าคัมสะชอบท่านมาก จึงส่งท่านให้มานำคริชณะและบะละรามะกลับไป ดังนั้น จึงสามารถเข้าพบองค์ภควาน อัครูระคิดต่อไปว่าในอดีต นักปราชญ์และนักบุญผู้ยอดเยี่ยมที่หลุดพ้นจากโลกวัตถุด้วยเพียงแต่เห็นเล็บอันเป็นประกายจากพระบาทรูปดอกบัวของคริชณะ
“ภควานองค์นั้น บัดนี้เสด็จมาเหมือนมนุษย์ปุถุชนธรรมดา เป็นโชคอันมหาศาลของข้าที่จะสามารถเห็นพระองค์ซึ่งๆ หน้า” อัครูระคิดเช่นนั้น รู้สึกตื่นเต้นที่คาดว่าจะได้เห็นพระบาทรูปดอกบัวที่ได้รับการบูชาจากเทวดาผู้ยิ่งใหญ่ เช่น พระพรหม นาระดะ และพระศิวะ พระบาทที่ท่องไปบนผืนแผ่นดินแห่งวรินดาวะนะ สัมผัสกับหน้าอกของพวกโกปี และทาด้วยแป้งคุงคุมะ อัครูระคิดว่า “ข้าโชคดีมากที่สามารถเห็นพระบาทรูปดอกบัวในวันนี้ แน่นอนว่าข้าจะสามารถเห็นใบหน้าอันสง่างามของคริชณะที่แต่งด้วยทิละคะบนหน้าผากและจมูก และข้าจะเห็นรอยยิ้มและผมสีดำหยักศกของพระองค์ ข้าเชื่อมั่นต่อโอกาสนี้ เพราะเห็นว่าวันนี้กวางได้ผ่านมาทางด้านขวาของตัวข้า วันนี้เป็นไปได้ที่ข้าจะเห็นความสวยงามแห่งอาณาจักรทิพย์วิชณุโลคะแน่นอน เพราะว่าคริชณะคือพระวิชณุสูงสุด เสด็จลงมาด้วยความปรารถนาดี ทรงเป็นแหล่งกำเนิดแห่งความสง่างามทั้งปวง ดังนั้น ดวงตาของข้าจะมีความสมบูรณ์ในวันนี้”
อัครูระรู้โดยไม่ต้องสงสัยว่า คริชณะคือพระวิชณุสูงสุด พระวิชณุทรงชำเลืองไปที่พลังงานวัตถุ จากนั้นเกิดปรากฏการณ์ในจักรวาล ถึงแม้พระวิชณุทรงเป็นผู้สร้างโลกวัตถุนี้ด้วยพลังงานของพระองค์ ทรงมีอิสระเสรีจากอิทธิพลของพลังงานวัตถุด้วยพลังเบื้องสูง พระองค์ทรงสามารถแทงทะลุความมืดแห่งพลังงานวัตถุได้ เช่นเดียวกัน คริชณะคือพระวิชณุองค์เดิม ด้วยการแบ่งภาคของพลังงานเบื้องสูง ทรงสร้างชาววรินดาวะนะ ในบระฮมะ-สัมฮิทา ยืนยันไว้เช่นกันว่าส่วนประกอบต่างๆและอาณาจักรของคริชณะเป็นภาคแบ่งแยกมาจากพลังอำนาจเบื้องสูงของพระองค์ พลังอำนาจเบื้องสูงเดียวกันนี้ แสดงให้เห็นในโลกนี้เป็นวรินดาวะนะ สถานที่ที่คริชณะมีความสุขอยู่กับผู้ปกครอง เพื่อนๆ เด็กเลี้ยงโคและพวกโกปี จากคำพูดของอัครูระ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า เนื่องจากคริชณะทรงเป็นทิพย์อยู่เหนือระดับแห่งธรรมชาติวัตถุ ชาววรินดาวะนะที่ปฏิบัติตนรับใช้ด้วยความรักแด่องค์ภควานก็เป็นทิพย์เหนือธรรมชาติวัตถุเช่นเดียวกัน
อัครูระพิจารณาถึงความจำเป็นของลีลาทิพย์แห่งองค์ภควานด้วย คิดว่ากิจกรรมทิพย์ คำสั่งสอน คุณสมบัติ และลีลาทิพย์ของคริชณะ ทั้งหมดเพื่อเป็นสิริมงคลสำหรับประชาชนทั่วไป ประชาชนสามารถรักษาคริชณะจิตสำนึกไว้อยู่เสมอด้วยการสนทนาเกี่ยวกับรูปลักษณ์ทิพย์ คุณสมบัติทิพย์ ลีลาทิพย์ และส่วนประกอบทิพย์ต่างๆ ขององค์ภควาน จากการกระทำเช่นนี้ทั่วทั้งจักรวาลจะอยู่อย่างเป็นสิริมงคลโดยแท้จริง และเจริญก้าวหน้าด้วยความสงบโดยสมบูรณ์ หากปราศจาก คริชณะจิตสำนึก ความเจริญเป็นเพียงเครื่องประดับของซากศพ ซากศพอาจได้รับการประดับประดาอย่างสวยงามมาก แต่หากไร้จิตสำนึก การประดับเช่นนี้ไร้ประโยชน์ สังคมมนุษย์ที่ปราศจากคริชณะจิตสำนึกไร้ประโยชน์และไร้วิญญาณ
อัครูระคิดว่า “องค์ภควาน คริชณะ บัดนี้ ทรงปรากฏมาเป็นหนึ่งในทายาทของราชวงศ์ยะดุ หลักธรรมแห่งศาสนาเป็นพระราชบัญญัติของพระองค์ ผู้ถือปฏิบัติตามหลักธรรมเหล่านี้เรียกว่าเทพ และผู้ไม่ปฏิบัติตามหลักธรรมเหล่านี้เรียกว่ามาร พระองค์เสด็จลงมาเพื่อปกป้องคุ้มครองบรรดาเทพ ผู้เชื่อฟังหลักธรรมขององค์ภควาน เหล่าเทพและสาวกขององค์ภควานมีความสุขในการปฏิบัติตามหลักธรรมของคริชณะ และคริชณะทรงมีความสุขในการปกป้องคุ้มครองพวกเขาทุกรูปแบบ กิจกรรมการปกป้องสาวกของคริชณะ และสังหารมารดังที่ยืนยันไว้ใน ภควัต-คีตา เป็นสิ่งดีเสมอสำหรับมนุษย์ที่สดับฟังและสนทนา กิจกรรมอันน่าสรรเสริญขององค์ภควานจะถูกเล่าขานมากยิ่งๆ ขึ้น โดยบรรดาสาวกและเทวดา
“องค์ภควาน คริชณะ ทรงเป็นปรมาจารย์ทิพย์ของปวงพระอาจารย์ทิพย์ คริชณะทรงเป็นผู้ส่งดวงวิญญาณทั้งหลายที่ตกต่ำ ทรงเป็นพระเจ้าของทั้งสามโลก ใครๆ ก็เห็นพระองค์ได้ด้วยดวงตาที่ชะโลมไปด้วยความรักแห่งองค์ภควาน บัดนี้ ข้าจะได้เห็นองค์ภควาน ด้วยความสง่างามทิพย์ทำให้เทพธิดาแห่งโชคลาภหลงใหล และอยู่กับพระองค์นิรันดร ทันทีที่มาถึงวรินดาวะนะข้าจะลงจากราชรถคันนี้ และนอนหมอบราบกราบแสดงความเคารพแด่องค์ภควาน ผู้เป็นเจ้านายแห่งธรรมชาติวัตถุและมวลชีวิต พระบาทรูปดอกบัวของคริชณะเป็นที่เคารพบูชาของโยคีผู้มีฤทธิ์ยิ่งใหญ่ ดังนั้น ข้าจะบูชาพระบาทรูปดอกบัว และมาเป็นหนึ่งในบรรดาเพื่อนๆ ของพระองค์ที่วรินดาวะนะเหมือนพวกเด็กเลี้ยงวัว เมื่อข้าก้มลงกราบต่อหน้าคริชณะเช่นนี้ แน่นอนว่าพระองค์จะวางพระหัตถ์รูปดอกบัวอันไร้ความกลัวบนศรีษะข้า พระหัตถ์ของพระองค์ยื่นให้แก่พันธวิญญาณทั้งหลาย ที่มาพึ่งอยู่ภายใต้พระบาทรูปดอกบัว คริชณะทรงเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต สำหรับผู้คนทั้งหลายที่กลัวความเป็นอยู่ทางวัตถุ แน่นอนว่าเมื่อข้าเห็นคริชณะ พระองค์จะให้ที่พึ่งแห่งพระบาทรูปดอกบัวแก่ข้า ข้าปรารถนาให้พระหัตถ์คล้ายรูปดอกบัวมาสัมผัสบนศีรษะ”
เช่นนี้ อัครูระคาดหวังพรจากพระหัตถ์ของคริชณะ อัครูระรู้ว่าพระอินทร์เจ้าแห่งสวรรค์ เป็นเจ้านายของสามโลก คือ ระบบดาวเคราะห์เบื้องบน เบื้องกลาง และเบื้องล่าง ได้รับพรจากองค์ภควาน เมื่อพระอินทร์เพียงแต่ถวายน้ำเพียงเล็กน้อยและคริชณะทรงรับไว้ เช่นเดียวกัน บะลิ มะฮาราจะ ถวายที่ดินเป็นทานแด่วามะนะเดวะเพียงสามก้าวเท่านั้น และถวายน้ำเพียงเล็กน้อย ซึ่งวามะนะเดวะทรงรับไว้ จากนั้น บะลิ มะฮาราจะ ได้รับตำแหน่งพระอินทร์ เมื่อพวกโกปี เต้นรำ ราสะ-ลีลาศ กับ คริชณะพวกนางรู้สึกเหนื่อยล้า คริชณะทรงลูบมือซึ่งมีกลิ่นหอมเหมือนดอกบัวไปที่หยาดเหงื่อคล้ายไข่มุกบนใบหน้าของพวกโกปี ทันใดนั้น พวกนางรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที ฉะนั้น อัครูระคาดหวังพรจากพระหัตถ์สูงสุดของคริชณะ พระหัตถ์คริชณะสามารถให้พรแด่มวลมนุษย์หากเขารับเอาคริชณะจิตสำนึกมาปฏิบัติ หากผู้ใดปรารถนาความสุขทางวัตถุเหมือนกับเจ้าแห่งสวรรค์ สามารถได้รับพรจากพระหัตถ์ของคริชณะ หากผู้ใดต้องการความหลุดพ้นจากความเจ็บปวดแห่งความเป็นอยู่ทางวัตถุ สามารถได้รับพรจากพระหัตถ์ของคริชณะ และหากผู้ใดมีความรักทิพย์ด้วยความบริสุทธิ์ใจต่อคริชณะ ปรารถนาจะมาคบหาสมาคมโดยตรงกับพระองค์ และสัมผัสพระวรกายทิพย์ สามารถได้รับพรจากพระหัตถ์ของคริชณะเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ดี อัครูระรู้สึกกลัวที่เป็นผู้แทนของคัมสะซึ่งเป็นศัตรูของคริชณะ อัครูระคิดว่า “ข้ากำลังไปพบคริชณะ ในฐานะที่เป็นผู้ส่งสารของศัตรู” ขณะเดียวกันอัครูระคิดว่า “คริชณะทรงประทับอยู่ในหัวใจของทุกชีวิตในรูปอภิวิญญาณ ดังนั้น พระองค์ทรงรู้หัวใจของข้า” ถึงแม้อัครูระเป็นผู้ที่ศัตรูของคริชณะเชื่อถือ แต่หัวใจชัดเจน อัครูระเป็นสาวกผู้บริสุทธิ์ของคริชณะ เสี่ยงต่อความโกรธของคัมสะเพียงเพื่อมาพบคริชณะ แน่ใจว่าแม้เป็นผู้แทนของคัมสะ คริชณะจะไม่ยอมรับท่านในฐานะเป็นศัตรู “แม้ข้าทำบาปที่เป็นผู้แทนของคัมสะ เมื่อเข้าพบองค์ภควานข้าจะยืนต่อหน้าพระองค์ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและพนมมือ แน่นอนว่าพระองค์จะพึงพอใจกับกริยาท่าทีที่อุทิศตนเสียสละของข้า บางทีจะทรงยิ้มด้วยความรักและมองมาที่ข้า จากนั้น ข้าจะเป็นอิสระจากผลบาปทั้งปวง จะอยู่ในระดับแห่งความปลื้มปีติสุขและความรู้ทิพย์ เพราะคริชณะรู้หัวใจข้า แน่นอนว่าเมื่อเข้าพบ พระองค์จะโอบกอดข้าไม่เพียงในฐานะเป็นหนึ่งในสมาชิกของราชวงศ์ยะดุ แต่ยังเป็นสาวกผู้บริสุทธิ์ที่ไร้มลทินเจือปน ด้วยการโอบกอดที่มีเมตตาของพระองค์ ร่างกาย หัวใจ และวิญญาณข้า จะถูกชะล้างให้บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์จากกรรมและผลกรรมต่างๆ ในอดีตชาติ เมื่อร่างกายของเราสัมผัสกัน ข้าจะยืนขึ้นทันทีด้วยมือพนม ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนที่สุด แน่นอนว่าคริชณะและบะละรามะจะเรียกข้าว่า ‘คุณลุงอัคครูระ’ เช่นนี้ ชีวิตข้าจะรุ่งเรือง นอกจากองค์ภควานจำเราได้ มิฉะนั้น ชีวิตจะไม่ประสบความสำเร็จ”
กล่าวไว้ชัดเจน ณ ที่นี้ว่า เราควรพยายามทำให้องค์ภควานจำเราได้ ด้วยการรับใช้และอุทิศตนเสียสละ ปราศจากสิ่งนี้ ชีวิตในร่างมนุษย์ถือว่าไร้ค่า ดังที่กล่าวใน ภควัต-คีตา องค์ภควานทรงเสมอภาคต่อทุกคน ทรงไม่มีทั้งเพื่อนและศัตรู แต่เอนเอียงไปทางสาวกผู้ถวายรับใช้ด้วยอุทิศตนเสียสละแห่งความรัก ภควัต-คีตา ประกาศไว้เช่นกันว่า องค์ภควานทรงตอบสนองการรับใช้ด้วยการอุทิศตนเสียสละของสาวก อัครูระคิดว่าคริชณะทรงเปรียบเสมือนต้นไม้สมใจนึกบนสวรรค์ที่ให้ผลไม้ตามความปรารถนาของผู้บูชา องค์ภควานทรงเป็นแหล่งกำเนิดของสรรพสิ่ง สาวกต้องรู้ว่าจะถวายการรับใช้ต่อพระองค์อย่างไร ที่จะทำให้พระองค์ทรงจำเราได้ ใน เชธันญะ-ชะริทามริทะ อธิบายไว้ว่า เราควรรับใช้พระอาจารย์ทิพย์และคริชณะพร้อมกัน เช่นนี้ จะทำให้เราเจริญก้าวหน้าในคริชณะจิตสำนึก การรับใช้ที่ถวายแด่คริชณะภายใต้คำแนะนำของพระอาจารย์ทิพย์เป็นการรับใช้ที่เชื่อถือได้ เพราะพระอาจารย์ทิพย์เป็นผู้แทนที่ปรากฏตัวของคริชณะ ชรี วิชวะนาทะ ชัคระวารที ทาคูระ กล่าวว่า เมื่อเราทำให้พระอาจารย์ทิพย์พึงพอใจ เท่ากับทำให้องค์ภควานทรงพอพระทัย เหมือนรับราชการ เราต้องทำงานภายใต้หัวหน้าหน่วย หากหัวหน้าหน่วยพอใจกับการรับใช้ของผู้ใด ผู้นั้นจะได้เลื่อนขั้นและขึ้นเงินเดือนโดยปริยาย
อัครูระคิดต่อไปว่า “เมื่อคริชณะและบะละรามะยินดีกับบทมนต์ของข้าแน่ นอนว่า ทั้งสองจะรับมือข้าไว้ ให้การต้อนรับในบ้านอย่างดีด้วยความเคารพต่อข้า และแน่นอนว่าทั้งสองจะถามข้าเกี่ยวกับการกระทำของคัมสะและเพื่อนๆ”
เช่นนี้ อัครูระผู้เป็นบุตรชายของชวะพัลคะ ตั้งจิตทำสมาธิอยู่ที่ ชรี คริชณะ ในขณะเดินทางจากมะทุราไปถึงวรินดาวะนะในเย็นวันนั้น อัครูระเดินทางมาโดยไม่รู้ว่าเป็นเวลานานเท่าไร เมื่อมาถึงวรินดาวะนะ ดวงอาทิตย์กำลังตก ทันทีที่เข้าเขตวรินดาวะนะ อัครูระเห็นรอยเท้าฝูงวัว และรอยพระบาทของคริชณะประทับเครื่องหมายฝ่าพระบาทเป็นรูปธง ตรีศูล สายฟ้า และดอกบัว พอเห็นรอยพระบาทของคริชณะ อัครูระ กระโดดลงจากราชรถทันทีด้วยความเคารพ มีอาการแห่งความปลื้มปีติ เช่น ร้องไห้ และตัวสั่นจากความยินดีปรีดายิ่ง ที่ได้เห็นฝุ่นที่ถูกสัมผัสโดยพระบาทรูปดอกบัวของคริชณะ อัครูระนอนราบคว่ำหน้าและกลิ้งตัวไปมาบนพื้น
การเดินทางของอัครูระไปวรินดาวะนะเป็นตัวอย่าง ผู้ตั้งใจไปเยือนวรินดาวะนะควรปฏิบัติตามรอยพระบาทที่ดีของอัครูระ คิดถึงลีลาและกิจกรรมต่างๆ ของ องค์ภควานเสมอ เมื่อไปถึงอาณาเขตของวรินดาวะนะ ควรเอาฝุ่นที่วรินดาวะนะมาลูบไล้ตัวทันทีโดยไม่คำนึงถึงตำแหน่งศักดิ์ศรีผิดๆ ทางวัตถุ นะโรททะมะ ดาสะ ทาคุระ ขับร้องในบทเพลงที่มีชื่อเสียง วิชะยะ ชาริยา คะเบ ชุดดะ ฮะเบ มะนะ “เมื่อจิตข้าบริสุทธิ์ ภายหลังที่อำลาจากมลทินแห่งความรื่นเริงทางประสาทสัมผัสวัตถุ ข้าจะสามารถไปเยี่ยมวรินดาวะนะ” อันที่จริงเราไม่สามารถไปวรินดาวะนะด้วยการซื้อตั๋ว อัครูระแสดงวิธีการไปถึงวรินดาวะนะให้เราเห็น
เมื่ออัครูระเข้าไปในวรินดาวะนะ เห็นคริชณะและบะละรามะจัดการดูแลการรีดนมวัว คริชณะแต่งตัวอยู่ในอาภรณ์ชุดสีเหลือง และบะละรามะอยู่ในชุดสีฟ้า อัครูระเห็นว่า ดวงตาของคริชณะเหมือนดอกบัวบานที่สวยงามในฤดูใบไม้ร่วง เห็นคริชณะและบะละรามะในวัยที่กำลังแตกเนื้อหนุ่ม แม้ทั้งสองจะมีลักษณะรูปร่างคล้ายกัน คริชณะมีผิวสีนิลขณะที่บะละรามะมีผิวสีขาว ทั้งคู่อยู่ภายใต้การดูแลของเทพธิดาแห่งโชคลาภ ทั้งคู่มีรูปร่างที่สง่างามสมส่วน มีมือที่สวยงาม ใบหน้าที่รื่นรมย์ และมีความแข็งแรงเหมือนพญาช้างสาร บัดนี้ หลังจากที่ได้เห็นรอยพระบาทของทั้งสอง อัครูระได้มาพบกับคริชณะและบะละรามะ ซึ่งๆ หน้าอย่างแท้จริง ถึงแม้เป็นบุคคลผู้มีอิทธิพลสูงสุด ทั้งคู่มองมาที่อัครูระด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส อัครูระเข้าใจว่าทั้งคริชณะและบะละรามะเพิ่งกลับมาจากการเลี้ยงวัวในป่า ทั้งคู่ได้อาบน้ำและแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ พร้อมทั้งพวงมาลัยดอกไม้ สร้อยคอที่มีอัญมณีล้ำค่า พระวรกายของทั้งสองทาแป้งกระแจะจันทน์ อัครูระชื่นชมกลิ่นดอกไม้และไม้จันทน์และการปรากฏกายของทั้งสองเป็นอย่างยิ่ง พิจารณาตนเองว่าโชคดีมหาศาลที่ได้พบ องค์ภควาน คริชณะ และภาคแบ่งแยกของพระองค์ บะละรามะ ซึ่งๆหน้า ท่านรู้ดีว่าทั้งคู่ทรงเป็นบุคลิกภาพเดิมแท้แห่งการสร้าง
ดังที่ได้กล่าวในบระฮมะ-สัมฮิทา คริชณะทรงเป็นภควานองค์เดิม และทรงเป็นแหล่งกำเนิดของแหล่งกำเนิดทั้งปวง อัครูระเข้าใจว่า องค์ภควานทรงปรากฏด้วยพระองค์เองเพื่อประโยชน์แห่งการสร้าง สถาปนาหลักธรรมแห่งศาสนา และทำลายล้างเหล่ามาร ด้วยรัศมีแห่งพระวรกาย ทั้งคู่ทรงปัดเป่าความืดทั้งหลายในโลกประดุจเป็นภูเขาแห่งแร่รัตนชาติและเงินยวง โดยไม่รีรอ อัครูระลงจากราชรถทันทีและนอนกราบอยู่ที่พื้นเหมือนท่อนไม้ท่อนหนึ่งต่อหน้าคริชณะและบะละรามะ เมื่อสัมผัสกับพระบาทรูปดอกบัวขององค์ภควาน อัครูระเต็มไปด้วยความปลื้มปีติสุขทิพย์ เสียงจุกอยู่ที่ลำคอ ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ จากการปรากฏทิพย์ของ คริชณะทำให้น้ำตาไหลรินออกมาจากดวงตาอย่างไม่หยุดยั้ง อัครูระยังตะลึงในความปลาบปลื้มอย่างเหลือล้น เหมือนตนเองไม่มีกำลังวังชาในการมองและพูด คริชณะผู้ทรงมีพระเมตตามากต่อสาวก ประคองอัครูระด้วยพระหัตถ์์และโอบกอด ปรากฏว่าคริชณะยินดีกับอัครูระมาก บะละรามะทรงโอบกอดอัครูระเช่นกัน คริชณะและบะละรามะจูงมืออัครูระนำไปยังห้องนั่งเล่น ทั้งคู่จัดที่นั่งอย่างดีและให้น้ำเพื่อล้างเท้า ทั้งสองพระองค์ยังให้สิ่งของเหมาะสมต่างๆ เช่น น้ำผึ้งและส่วนประกอบอื่นๆ เมื่ออัครูระนั่งลงเรียบร้อยแล้ว ทั้งคริชณะและบะละรามะถวายวัวเป็นทาน จากนั้นนำอาหารเอร็ดอร่อยมาถวายให้อัครูระ เมื่ออัครูระรับประทานอาหารเสร็จ บะละรามะให้หมากและเครื่องเทศพร้อมทั้งแป้งกระแจะจันทน์ เพื่อให้อัครูระยินดีและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น คริชณะปฏิบัติตามระบบพระเวทในการต้อนรับอาคันตุกะผู้มาเยือนอย่างสมบูรณ์ เพื่อเป็นการสอนคนทั้งหลายว่า ควรต้อนรับอาคันตุกะผู้มาเยือนที่บ้านอย่างไร พระเวทสอนว่าแม้หากผู้มาเยือนเป็นศัตรู ควรได้รับการต้อนรับอย่างดีจนไม่รู้สึกหวั่นกลัวอันตรายใดๆ จากเจ้าบ้าน หากเจ้าบ้านเป็นคนจนอย่างน้อยที่สุดควรจัดเสื่อกกให้นั่งพร้อมทั้งน้ำดื่มหนึ่งแก้ว คริชณะและบะละรามะต้อนรับ อัครูระอย่างเหมาะสมกับสถานภาพอันสูงส่งของท่าน
หลังจากอัครูระได้รับการต้อนรับอย่างเหมาะสมและนั่งเรียบร้อยแล้ว นันดะมะฮาราจะ พระบิดาบุญธรรมของคริชณะกล่าวว่า “อัครูระที่รัก ข้าควรถามอะไรจากท่าน? ข้ารู้ว่าคัมสะผู้มีความโหดเหี้ยมและชั่วร้ายที่สุดคุ้มครองท่าน การปกป้องของคัมสะเหมือนโรงฆ่าสัตว์ปกป้องพวกสัตว์แล้วจะนำไปฆ่าในอนาคต คัมสะเห็นแก่ตัวมาก ได้ฆ่าบุตรหลายคนของน้องสาวตนเอง ดังนั้น จะให้ข้าเชื่ออย่างสนิทใจได้อย่างไรที่ว่าเขาปกป้องคุ้มครองชาวเมืองมะทุระ?” คำพูดนี้มีความสำคัญมาก หากนักการเมืองหรือผู้บริหารรัฐเพียงแต่สนใจในตนเอง จะไม่มีเวลามาดูแลความอยู่เย็นเป็นสุขของประชาชน
ขณะที่ นันดะ มะฮาราจะ พูดกับอัครูระด้วยคำพูดที่น่ายินดี อัครูระลืมความเหน็ดเหนื่อยทั้งปวงในการเดินทางมาตลอดทั้งวันจากมะทุราจนถึงวรินดาวะนะ
ดังนั้น ขอจบคำอธิบายโดยบัคธิเวดันธะ หนังสือ “องค์ภควาน คริชณะ”
บทที่สามสิบเจ็ด “อัครูระมาถึงวรินดาวะนะ”