องค์ภควาน คริชณะ
บทที่ 46
คริชณะส่งสารถึงพวกโกปี
พอพวกโกปี เห็นอุดดะวะ สังเกตว่ารูปร่างลักษณะเหมือนรูปร่างลักษณะของคริชณะอย่างกับแกะ เข้าใจว่าอุดดะวะเป็นสาวกชั้นเยี่ยมของคริชณะ มือยาวมาก ดวงตาคล้ายกลีบดอกบัว แต่งกายชุดสีเหลือง มีพวงมาลัยดอกบัว และมีใบหน้าสง่างามมาก อุดดะวะบรรลุถึงความหลุดพ้นสารรูพยะ มีรูปร่างเหมือนคริชณะมาก ขณะที่คริชณะไม่อยู่ โกปี มาเยี่ยมพระมารดายะโชดาที่บ้านในตอนเช้าประจำ รู้ว่า นันดะ มะฮาราจะ และ มารดายะโชดา เศร้าโศกเสมอ จึงเป็นภารกิจแรกที่มาแสดงความเคารพแด่ผู้สูงอายุแห่งวรินดาวะนะ พอเห็นเพื่อนๆ ของคริชณะ นันดะและยะโชดาจะระลึกถึงคริชณะและพอใจ พวกโกปี ยินดีที่ได้เห็นนันดะและยะโชดาด้วยเช่นกัน
เมื่อ โกปี เห็นอุดดะวะเป็นตัวแทนของคริชณะ แม้รูปร่างลักษณะ คิดว่าต้องเป็นดวงวิญญาณที่ศิโรราบอย่างราบคาบต่อองค์ภควาน เริ่มทำสมาธิว่า “เด็กที่ เหมือนคริชณะคนนี้คือใคร? มีดวงตารูปดอกบัวเหมือนกัน มีจมูกโด่งและดวงหน้าที่สง่างาม ยิ้มแบบเดียวกันในทุกด้าน ช่างดูเหมือนคริชณะ ชยามะสุนดะระ เด็กสีนิลผู้สง่างาม แต่งตัวเหมือนคริชณะ เด็กคนนี้มาจากไหน? ใครคือเด็กหญิงผู้โชคดีที่ได้เขาเป็นสวามี?” เช่นนี้ พวกนางคุยกันเองและกระตือรือร้นจะรู้เกี่ยวกับอุดดะวะ เนื่องจากเป็นสาวชนบทที่เรียบง่าย ตรงไปตรงมา จึงมาล้อมรอบอุดดะวะ
เมื่อ โกปี เข้าใจว่าอุดดะวะมีสารมาจากคริชณะ รู้สึกมีความสุขมาก เรียกอุดดะวะไปที่ลับตาคน นั่งลงคุยกัน ปรารถนาคุยกับอุดดะวะอย่างอิสระจะได้ไม่ขวยเขินต่อคนแปลกหน้า ต้อนรับอุดดะวะด้วยคำพูดสุภาพและอ่อนน้อม “รู้ว่าท่านคือเพื่อนสนิทที่สุดของคริชณะ ดังนั้น คริชณะจึงส่งท่านมาที่วรินดาวะนะเพื่อปลอบใจบิดามารดา รู้ว่าความรักสัมพันธ์กับครอบครัวแน่นแฟ้นมาก แม้นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในระดับชีวิตสละโลกแล้ว ยังไม่สามารถยกเลิกสมาชิกในครอบครัวได้ ดังนั้น คริชณะส่งท่านมาหาบิดามารดา มิฉะนั้น คริชณะจะไม่มีธุรกิจอันใดที่วรินดาวะนะ บัดนี้ คริชณะอยู่ในเมือง ต้องรู้เกี่ยวกับหมู่บ้านวรินดาวะนะหรือทุ่งเลี้ยงโคอีกทำไม? สิ่งเหล่านี้ไม่มีประโยชน์อันใดสำหรับคริชณะอีกต่อไป เพราะบัดนี้คริชณะเป็นคนเมืองหลวงไปแล้ว
“แน่นอนว่าคริชณะไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับผู้มิได้เป็นสมาชิกในครอบครัว การเป็นเพื่อนกับผู้ที่ไม่เกี่ยวดองกันดำเนินไปตราบที่มีผลประโยชน์ส่วนตัว มิฉะนั้น มาเกี่ยวกับผู้ไม่ใช่สมาชิกในครอบครัวทำไม โดยเฉพาะพวกที่ยึดติดกับภรรยาของผู้อื่น? คริชณะสนใจพวกนางตราบที่มีความจำเป็นเพื่อสนองประสาทสัมผัส เหมือนผึ้งที่สนใจดอกไม้ตราบที่พวกมันยังต้องการน้าผึ้งจากดอกไม้ เป็นจิตวิทยาธรรมชาติที่โสเภณีไม่สนใจลูกค้าหากไม่มีเงิน เช่นเดียวกัน พอประชาชนรู้ว่ารัฐบาลไม่สามารถปกป้องตนได้จะหนีออกจากประเทศไป นักเรียนนักศึกษาหลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วตัดความสัมพันธ์กับครู อาจารย์ และโรงเรียน นักบวชหลังจากได้รับรางวัลจากผู้บูชาแล้วก็เลิกลากันไป พอฤดูผลไม้ผ่านไปฝูงนกจะไม่สนใจกับต้นไม้อีก หลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้วอาคันตุกะจะหมดความสัมพันธ์กับเจ้าภาพ หลังเกิดไฟป่าขาดแคลนหญ้าเขียวพวกกวางและสัตว์อื่นๆ จะตัดความสัมพันธ์กับป่า ดังนั้น ผู้ชายหลังจากได้รับความสุขกับเพื่อนหญิงแล้ว จะตัดความสัมพันธ์กับนาง” เช่นนี้ โกปี ทั้งหมดกล่าวหาคริชณะโดยอ้อม และยกเรื่องขึ้นมาเปรียบเทียบมากมาย
อุดดะวะเข้าใจว่าพวกโกปี แห่งวรินดาวะนะซึมซาบความคิดอยู่กับคริชณะและลีลาวัยเด็กของคริชณะ ขณะที่พูดคุยถึงคริชณะกับอุดดะวะ จะลืมภารกิจในบ้านทั้งหมด พวกนางลืมแม้แต่ตนเองและเพิ่มความสนใจในตัวคริชณะมากยิ่งขึ้น
โกปี ชื่อ ชรีมะธี ราดาราณี ซึมซาบความคิดอยู่กับคริชณะอย่างมากจากการที่ได้มาสัมผัสโดยส่วนตัวกับคริชณะ เริ่มพูดกับผึ้งซึ่งบินอยู่แถวนั้นที่พยายามมาสัมผัสพระบาทรูปดอกบัวของนาง ขณะที่ โกปี อีกนางหนึ่งพูดคุยอยู่กับอุดดะวะผู้ส่งสารของคริชณะ ชรีมะธี ราดาราณี คิดว่าผึ้งเป็นผู้ส่งสารจากคริชณะและเริ่มพูดกับมันดังนี้ “ผึ้งจ๋า เจ้าเคยชินอยู่กับการดื่มน้าผึ้งจากดอกไม้ ดังนั้น จึงชอบเป็นผู้ส่งสารของคริชณะผู้มีธรรมชาติเหมือนเจ้า ข้าเห็นหนวดมีฝุ่นสีแดงจากคุงคุมะซึ่งติดอยู่ที่พวงมาลัยดอกไม้ของคริชณะ ขณะที่คริชณะกดหน้าอกของเด็กหญิงผู้เป็นคู่แข่งของข้า เจ้าภูมิใจมากที่มาสัมผัสกับพวงมาลัยนี้จนหนวดกลายเป็นสีแดง เจ้านำสารมาให้ข้าที่นี่กระตือรือร้นจะสัมผัสเท้าข้า เจ้าผึ้งที่รัก ขอเตือนว่าอย่ามาแตะต้องข้า! ข้าไม่ต้องการสารจากเจ้านายที่เชื่อถือไม่ได้ เจ้าเป็นทาสที่เชื่อถือไม่ได้ของเจ้านายที่เชื่อถือไม่ได้” เป็นไปได้ว่า ชรีมะธี ราดาราณี ตั้งใจพูดถากถางผึ้งให้ไปกระทบอุดดะวะ โดยอ้อม ชรีมะธี ราดาราณี เห็นอุดดะวะไม่เพียงมีรูปร่างเหมือนคริชณะ แต่ทัดเทียมกับคริชณะ นางบอกว่าอุดดะวะเชื่อไม่ได้พอๆกับคริชณะ ชรีมะธี ราดาราณี ต้องการให้เหตุผลโดยเฉพาะว่าทำไมนางไม่พอใจคริชณะและคนส่งสารของคริชณะ
นางพูดกับผึ้งว่า “เจ้านายของเจ้า คริชณะ มีคุณสมบัติเหมือนเจ้ามาก นั่งที่ดอกไม้ หลังจากดูดเอาน้าผึ้งไปเล็กน้อย ก็บินหนีไปนั่งที่ดอกใหม่เพื่อชิมรสทันที เหมือนคริชณะเจ้านายเจ้าที่ให้โอกาสข้าเพียงครั้งเดียวเพื่อรับรสสัมผัสกับริมฝีปาก แล้วก็จากไป ข้ารู้จักเทพธิดาแห่งโชคลาภลัคชมีผู้อยู่ท่ามกลางดอกบัวซึ่งปรนนิบัติรับใช้คริชณะเสมอ แต่ไม่รู้ว่านางถูกคริชณะกักขังได้อย่างไร ทำไมจึงยึดมั่นต่อคริชณะมากนัก แม้รู้ดีถึงบุคลิกแท้จริงของคริชณะ พวกเรานั้นฉลาดกว่าเทพธิดาแห่งโชคลาภ จะไม่ยอมให้คริชณะหรือคนส่งสารของคริชณะมาหลอกเราอีกต่อไป”
ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ลัคชมี เทพธิดาแห่งโชคลาภเป็นภาคแบ่งแยกรองลงมาของ ชรีมะธี ราดาราณี เช่นเดียวกับคริชณะที่มีภาคแบ่งแยกวิชณุ-มูรทิ มากมาย ดังนั้น พลังแห่งความสุขของคริชณะ ราดาราณี ก็มีภาคแบ่งแยกมาเป็นเทพธิดาแห่งโชคลาภมากมายเช่นกัน ดังนั้น ลัคชมี เทพธิดาแห่งโชคลาภมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาให้ขึ้นมาถึงสถานภาพของพวกโกปี
ชรีมะธี ราดาราณีพูดต่อ “เจ้าผึ้งหน้าโง่ พยายามทำให้ข้าพอใจจะได้รับรางวัลโดยร้องเพลงสรรเสริญคริชณะ เช่นนี้ไร้ประโยชน์ เราไม่มีทรัพย์สมบัติใดๆ ทั้งสิ้น ออกจากบ้านและครอบครัวมา เรารู้จักคริชณะมากกว่าเจ้าเสียอีก สิ่งที่เจ้าพูดเกี่ยวกับคริชณะเป็นเรื่องเก่าสำหรับเราทั้งสิ้น ตอนนี้คริชณะอยู่ในเมือง รู้กันในฐานะเป็นเพื่อนของอารจุนะ และมีเพื่อนหญิงใหม่ๆมากมาย แน่นอนว่ามีความสุขมากที่อยู่ใกล้กับคริชณะ เพราะคริชณะทำให้ความรู้สึกที่เผาไหม้จากราคะที่หน้าอกพึงพอใจได้ บัดนี้กำลังมีความสุขอยู่หากเจ้าไปสรรเสริญคริชณะที่นั่น พวกนางอาจยินดีและให้รางวัล เจ้าพยายามปลอบใจข้าโดยมาประจบ เอาหัวมาซุกอยู่ใต้เท้า ข้ารู้เล่ห์ที่กำลังแสดงอยู่ รู้ว่าเจ้าคือผู้ส่งสารจากคนเจ้าเล่ห์คริชณะ โปรดไปจากที่นี่เสียเถิด
“ข้าเข้าใจว่าเจ้าเชี่ยวชาญในการสมานสามัคคีระหว่างคู่อริ ขณะเดียวกันต้องรู้ว่าข้าไม่สามารถไว้วางใจเจ้าหรือคริชณะเจ้านายของเจ้า เราจากครอบครัว สามี ลูกๆ และญาติๆ มาเพื่อคริชณะเพียงผู้เดียว แต่คริชณะไม่รับผิดชอบจะตอบแทน และหายไปจากเรา คิดหรือว่าเราจะให้ความศรัทธากับคริชณะอีกครั้ง? เรารู้ว่า คริชณะอยู่ไม่ได้นานหากไม่มีหญิงสาวอยู่ใกล้ๆ นี่คือธรรมชาติของคริชณะ จะพบความยากลำบากที่มะทุรา เพราะไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านกับเด็กหญิงเลี้ยงวัวอีกต่อไป คริชณะอยู่ในสังคมชั้นสูงรู้สึกลำบากในการคบหาเพื่อนสาว บางทีอาจมาที่นี่เพื่อชักชวนหรือพาเราไป แต่คาดหวังให้เราไปทำไม? คริชณะสามารถล่อลวงหญิงสาวที่อื่นมากมาย ไม่เพียงเฉพาะที่วรินดาวะนะหรือมะทุรา แต่ทั่วทั้งจักรวาล รอยยิ้มอันมีเสน่ห์ที่น่าอัศจรรย์ของคริชณะน่ารักมาก ทั้งการเลิกคิ้ว คริชณะสง่างามมากจนสามารถเรียกหญิงใดจากสวรรค์ ดาวเคราะห์ชั้นกลาง หรือดาวเคราะห์พลูโต มะฮา-ลัคชมี ผู้ยิ่งใหญ่สุดในบรรดาเทพธิดาแห่งโชคลาภ ยังปรารถนาถวายรับใช้ คริชณะ เมื่อเปรียบเทียบกับหญิงทั้งหลายในจักรวาลเราไม่มีความสำคัญอันใดเลย
“คริชณะโฆษณาตนเองว่าเป็นผู้มีใจกว้าง และได้รับการสรรเสริญจากนักบุญผู้ยอดเยี่ยม คุณสมบัติเหล่านี้ใช้ประโยชน์ได้ดีหากคริชณะแสดงเมตตาต่อเรา แต่เราถูกคริชณะเหยียบย่าและละเลย โอ้ผู้ส่งสารที่น่าสงสาร เจ้าเป็นเพียงผู้รับใช้ที่มีสติปัญญาน้อย ไม่รู้เกี่ยวกับคริชณะเท่าไรนัก คริชณะไม่สำนึกบุญคุณและเป็นคนใจดำ ไม่เพียงแต่ชาตินี้แม้ในชาติก่อนๆ ก็เช่นกัน เราได้ยินมาจากคุณยายโพรณะมาสี บอกว่า ชาติก่อนคริชณะเกิดในตระกูลคชัทริยะ ชื่อพระราม แทนที่จะสังหารวาลีผู้เป็นศัตรูของเพื่อนในลักษณะที่ คชัทริยะ ทำกัน กลับสังหารเขาเหมือนนักล่าสัตว์ โดยแอบอยู่ในที่ปลอดภัยและฆ่าโดยไม่เผชิญหน้า ที่จริงพระรามในฐานะเป็นคชัทริยะ ควรต่อสู้กับวาลีซึ่งๆหน้า แต่เพื่อนยุยงจึงสังหารวาลีโดยแอบอยู่หลังต้นไม้ เช่นนี้ คริชณะเบี่ยงเบนจากหลักธรรมศาสนาแห่งคชัทริยะ และพระรามหลงใหลในความงามของสีดามาก จนไปเปลี่ยนโฉมหน้าของชูรพะณะคาน้องสาวของราวะณะ ให้กลายมาเป็นหญิงอัปลักษณ์ด้วยการตัดจมูกและใบหูของนาง ชูรพะณะคาเสนอตัวเพื่อมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระราม ในฐานะที่เป็น คชัทริยะ ควรทำให้นางพอใจ แต่พระรามกลัวเมียมากจนไม่สามารถลืมสีดาเทวี แล้วไปเปลี่ยนโฉมหน้าชูรพะณะคาให้กลายมาเป็นหญิงอัปลักษณ์ ชาติก่อนหน้าที่จะมาเป็น คชัทริยะ ได้เกิดเป็นพราหมณ์น้อยชื่อวามะนะเดวะ และขอร้องให้ บะลิ มะฮาราจะ ทำบุญ บะลิ มะฮาราจะ มีใจกว้างขวางมากถวายทุกสิ่งที่มีอยู่ คริชณะ ในรูปวามะนะเดวะไม่รู้สำนึกบุญคุณ จับ บะลิ มะฮาราจะ เหมือนกับอีกา และผลักให้ตกลงไปในอาณาจักรพาทาละ เรารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคริชณะว่าเป็นคนที่อกตัญญูแค่ใหน แม้คริชณะโหดร้ายและใจดำ แต่เป็นสิ่งยากมากที่จะให้พวกเราเลิกพูดเกี่ยวกับคริชณะ ไม่เพียงไม่สามารถหยุดพูดเท่านั้น แต่นักปราชญ์และนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ยังพูดคุยเกี่ยวกับคริชณะเช่นกัน พวกเรา โกปี แห่งวรินดาวะนะไม่ปรารถนาเป็นมิตรกับเด็กผิวสีนิลคนนี้อีกต่อไป แต่เราไม่รู้ว่าจะหยุดคิดถึง และหยุดพูดเกี่ยวกับลีลาของคริชณะได้อย่างไร”
เนื่องจากคริชณะสมบูรณ์ ลีลาที่สมมุติว่าไร้เมตตายังมีรสชาติเหมือนลีลาที่มีเมตตา นักบุญและสาวกผู้ยอดเยี่ยมเช่นโกปี ไม่สามารถลืมคริชณะได้ไม่ว่าในสถานการณ์ใด ดังนั้น องค์เชธันญะภาวนาว่า “คริชณะ พระองค์ทรงมีอิสรเสรีในทุกด้าน สามารถโอบกอดหรือเหยีบบย่าข้าให้อยู่ภายใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท แล้วแต่จะกรุณา อาจทำให้ข้าอกหักโดยที่ไม่ให้เห็นหน้าตลอดชีวิต แต่ยังเป็นผู้เดียวที่ข้ารัก”
ชรีมะธี ราดาราณี พูดต่อ “ในความคิดเห็นข้า เราไม่ควรรับฟังเกี่ยวกับคริช ณะ เพราะเมื่อหยาดน้าทิพย์แห่งลีลาของคริชณะหยดลงไปในหู เราจะเจริญสูงขึ้นเหนือสิ่งคู่ เช่น การยอมรับและปฏิเสธ มีอิสรเสรีโดยสมบูรณ์จากมลทินแห่งการยึดติดทางวัตถุ สลัดการยึดติดในโลกวัตถุนี้ เช่น ครอบครัว บ้าน ภรรยา ลูกๆ และทุกสิ่งทางวัตถุอันเป็นที่รักยิ่งของทุกคน พอสิ้นความเป็นเจ้าของทางวัตถุทำให้ญาติๆและตนเองไม่มีความสุข แล้วล่องลอยแสวงหาคริชณะไม่ว่าอยู่ในร่างมนุษย์หรือในเผ่าพันธุ์ชีวิตอื่น แม้เป็นนก และอาสายอมรับอาชีพวณิพก ยากมากที่จะเข้าใจคริชณะ พระนาม คุณสมบัติ รูปลักษณ์ ลีลา ส่วนประกอบและบริวารของพระองค์ได้จริง”
ชรีมะธี ราดาราณี พูดกับผู้ส่งสารผิวสีนิลของคริชณะต่อ “กรุณาอย่าพูดถึง คริชณะอีก พูดเรื่องอื่นจะดีกว่า เราได้รับเคราะห์กรรมเหมือนจุดด่างของกวางตัวเมียในป่าที่ไปหลงเสียงเพลงหวานของคนล่าสัตว์ เหมือนเรามาหลงใหลกับคำพูดหวานของคริชณะ และมาคิดถึงแสงเจิดจรัสจากเล็บพระบาทของคริชณะตลอดเวลา รู้สึกมีราคะมากขึ้น อยากอยู่ใกล้ชิดกับคริชณะ ขอร้องอย่าพูดถึงคริชณะอีกต่อไป”
การพูดของราดาราณีกับผึ้งผู้ส่งสาร การกล่าวหาคริชณะและขณะเดียวกันไม่สามารถหยุดพูดถึงคริชณะ ความปลื้อมปีติสุขทิพย์มะฮา-บาวะ ที่ปรากฏเป็นไปได้กับบุคคล เช่น ราดาราณีและเพื่อนๆ เท่านั้น อาชารยะผู้ยอดเยี่ยม เช่น ชรีละ รูพะ โกสวามี และ วิชวะนาทะ ชัคระวารที ทาคุระ วิเคราะห์การพูดมะฮา-บาวะ ของราดาราณีนี้ อธิบายถึงความรู้สึกนึกคิดที่แตกต่างกัน เช่น อุดกูรณา หรือความงงงวย และจัลพะ-พระทิจัลพะ หรือพูดไปต่างๆ นานา ในราดาราณี เราพบเห็นอาการของ อุจจวะละ หรืออัญมณีเจิดจร้สที่สุดแห่งความรักองค์ภควาน ขณะที่ ราดาราณีพูดกับผึ้ง และผึ้งบินไปโน่นมานี่แล้วหายลับไป ราดาราณีมีความทุกข์โศกมาก เพราะห่างเหินจากคริชณะ รู้สึกปลื้มปีติสุขทิพย์ด้วยการพูดกับผึ้ง ทันทีที่ผึ้งหายไปนางเกือบเป็นบ้าคิดว่าผึ้งผู้ส่งสารกลับไปหาคริชณะ และบอกคริชณะเกี่ยวกับการพูดตัดพ้อต่อว่าคริชณะ คิดว่า “คริชณะต้องเสียใจมากเมื่อได้ยินเช่นนี้” ดังนั้น ราดาราณีรู้สึกตื้นตันใจด้วยความปลื้มปีติสุขทิพย์อีกแบบหนึ่ง
ขณะเดียวกันเจ้าภมรบินไปมา และมาปรากฏอยู่ต่อหน้าราดาราณีอีกครั้งนางคิดว่า “คริชณะยังมีเมตตาแม้ผู้ส่งสารได้ส่งสารในเชิงลบ คริชณะยังมีเมตตาส่งเจ้าภมรนี้กลับมาพาข้าไปหาอีก” คราวนี้ ชรีมะธี ราดาราณี ระวังมากที่จะไม่พูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับคริชณะ กล่าวว่า “เพื่อนรัก ข้ายินดีต้อนรับเจ้า คริชณะมีเมตตามากที่ส่งเจ้ากลับมาอีกครั้ง คริชณะมีเมตตาและน่ารักมาก โชคดีที่ส่งเจ้ากลับมา แม้เจ้านำสารไม่ดีของข้าไปให้คริชณะ เพื่อนรัก เจ้าอาจขออะไรที่ปรารถนา ข้าจะให้ทุกอย่างเพราะเจ้ามีเมตตา เจ้ามาเพื่อนำข้าไปหาคริชณะเพราะคริชณะไม่สามารถมาที่นี่ได้ ถูกห้อมล้อมไปด้วยเพื่อนเด็กสาวใหม่ๆที่มะทุรา แต่เจ้าตัวน้อยๆ จะพาข้าไปที่นั่นได้อย่างไร? จะช่วยข้าให้ได้พบคริชณะอย่างไร ขณะที่คริชณะพักผ่อนอยู่กับเทพธิดาแห่งโชคลาภและโอบกอดนางไว้ที่ทรวงอก? ไม่เป็นไร ขอให้เราลืมเรื่องนี้ทั้งหมดเกี่ยวกับการไปที่นั่นหรือส่งเจ้าไป โปรดบอกข้าว่าคริชณะสุขสบายดีใหมที่มะทุรา บอกข้าว่าคริชณะยังจำบิดาบุญธรรม นันดะ มะฮาราจะ มารดาผู้น่ารัก ยะโชดา เพื่อนๆ เด็กเลี้ยงวัว และเพื่อนๆ ผู้น่าสงสารคือพวกโกปี ได้หรือเปล่า? ข้ามั่นใจว่าบางครั้ง คริชณะต้องร้องเพลงเกี่ยวกับเราผู้รับใช้เยี่ยงคนรับใช้ โดยไม่มีเงินเดือน เป็นไปได้ไหมที่คริชณะจะกลับมาและโอบวงแขนรอบๆ พวกเรา? มือเท้าของคริชณะมีกลิ่นหอม อกุรุ เสมอ โปรดถามคำถามทั้งหมดนี้กับคริชณะให้ด้วย”
อุดดะวะยืนใกล้ๆได้ยินราดาราณีพูดเช่นนี้ ดูเหมือนว่า ราดาราณีใกล้เสียสติไปกับคริชณะแล้ว อุดดะวะประหลาดใจมากกว่าพวกโกปี มีความเคยชินอยู่กับการคิดถึงคริชณะตลอดเวลาในความปลื้มปีติสุขอย่างสูงสุดแห่งความรัก มะฮา-บาวะ ได้อย่างไร อุดดะวะนำสารที่คริชณะเขียน ปรารถนาจะให้ในช่วงนี้เพื่อให้ โกปี สงบสติอารมณ์ โดยกล่าวว่า “โกปี ที่รักของข้า ภารกิจในชีวิตมนุษย์ของพวกเธอบัดนี้ประสบความสำเร็จแล้ว ทั้งหมดเป็นสาวกผู้น่าอัศจรรย์ขององค์ภควาน จึงมีสิทธิ์ได้รับการบูชาจากคนทุกประเภททั่วทั้งสามโลก เพราะจิตใจซึมซาบอย่างน่าอัศจรรย์ในการระลึกถึงวาสุเดวะเสมอ คริชณะเป็นจุดมุ่งหมายของการทำบุญและปฏิบัติธรรมทั้งหลาย เช่น การทำบุญ ให้ทาน ปฏิบัติสมถะอย่างเคร่งครัดในคำปฏิญาณ บำเพ็ญเพียร และจุดไฟทำพิธีบูชา คริชณะคือจุดมุ่งหมายเบื้องหลังการสวดภาวนามันทระ การอ่านคัมภีร์พระเวท การควบคุมประสาทสัมผัส และการตั้งจิตให้อยู่ในสมาธิ เหล่านี้ คือวิธีการบางประการเพื่อความรู้แจ้งแห่งตน เพื่อให้บรรลุถึงความสมบูรณ์แห่งชีวิต อันที่จริงสิ่งเหล่านี้เป็นวิถีทางเพื่อรู้แจ้งคริชณะ และประสานตนเองในการรับใช้ด้วยความรักทิพย์แด่องค์ภควานเท่านั้น” นี่คือคำสั่งสอนสุดท้ายของ ภควัต-คีตา เช่นกัน แม้มีรายการและวิธีต่างๆ นานาเพื่อความรู้แจ้งแห่งตน ในที่สุดคริชณะทรงแนะนำให้เรายกเลิกทุกสิ่งทุกอย่าง และเพียงแต่ศิโรราบแด่พระองค์เท่านั้น วิธี การอื่นๆ ทั้งหมดมีจุดมุ่งหมายเพื่อสอนเราให้ในที่สุดมาศิโรราบแทบเบื้องพระบาทของคริชณะ ใน ภควัต-คีตา กล่าวว่าการศิโรราบนี้สมบูรณ์ได้โดยผู้ที่มีความจริงใจในการปฏิบัติเพื่อรู้แจ้งแห่งตน โดยใช้ปัญญา และปฏิบัติสมถะมาหลายต่อหลายชาติ
เพราะความสมบูรณ์ในการปฏิบัติสมถะเช่นนี้ปรากฏออกมาในชีวิตของพวกโกปี โดยบริบูรณ์ อุดดะวะพึงพอใจยิ่งที่ได้เห็นลีลาทิพย์เหล่านี้และกล่าวต่อไปว่า “โกปี ที่รัก ความรู้สึกนึกคิดที่พัฒนาในความสัมพันธ์กับคริชณะเป็นสิ่งยากมากที่จะบรรลุถึงแม้นักปราชญ์และนักบุญผู้ยอดเยี่ยม พวกเธอบรรลุถึงระดับสมบูรณ์สูงสุดแห่งชีวิต ซึ่งเป็นโชคลาภมหาศาลที่ตั้งจิตมั่นอยู่ที่คริชณะ ตัดสินใจมีคริชณะองค์เดียวเท่านั้น ยกเลิกครอบครัว บ้าน ญาติๆ สามี และลูกๆ เพื่อพระองค์ บัดนี้จิตใจซึมซาบอยู่ในคริชณะดวงวิญญาณสมบูรณ์สูงสุด ความรักสากลพัฒนาในตัวเธอโดยปริยาย ข้าโชคดีมากที่ได้รับความกรุณาชื่นชอบทำให้เห็นเหตุการณ์นี้”
เมื่ออุดดะวะกล่าวว่ามีสารจากคริชณะ พวก โกปี สนใจฟังสารมากกว่าได้ยินสถานภาพอันสูงส่งของตน ไม่ชอบได้รับการสรรเสริญแต่แสดงความกระตือรือล้นจะฟังสารที่อุดดะวะนำมาจากคริชณะมากกว่า อุดดะวะกล่าวว่า “โกปี ที่รัก ข้าได้รับมอบหมายโดยเฉพาะให้นำสารนี้มาถึงพวกเธอ ผู้เป็นสาวกที่สุภาพและยอดเยี่ยม คริชณะส่งข้ามาหาเธอโดยเฉพาะ เพราะข้าเป็นผู้รับใช้คนสนิทที่สุดของคริชณะ”
อุดดะวะมิได้ส่งสารที่คริชณะเขียนให้โกปี โดยตรง แต่อ่านเองให้พวกนางฟัง สารที่เขียนเข้มข้นมาก ไม่เพียงเฉพาะพวก โกปี เท่านั้น แต่นักปราชญ์ช่างสังเกตทั้งหลายอาจเข้าใจว่า ความรักอันบริสุทธิ์แห่งองค์ภควานรวมเป็นเนื้อเดียวกับพลังงานต่างๆทั้งหลายของพระองค์ได้อย่างไร จากข้อมูลพระเวทเข้าใจว่า องค์ภควานทรงมีพลังงานมากมาย เช่น พะราสยะ ชัคทิร วิวิไดวะ ชรูยะเท และพวก โกปี เป็นเพื่อนสนิทของคริชณะ ขณะเขียนจดหมายคริชณะอารมณ์หวั่นไหวไม่สามารถเขียนได้ชัดเจน อุดดะวะเป็นศิษย์ของบริฮัสพะทิ มีสติปัญญาเฉียบคมมาก ดังนั้น แทนที่จะส่งจดหมายที่เขียนให้โดยตรง คิดว่าอ่านก่อนแล้วค่อยอธิบายให้พวกนางฟังจะดีกว่า
อุดดะวะกล่าวต่อ “นี่คือคำพูดขององค์ภควาน โกปี ที่รัก เพื่อนรักของข้า รู้ไว้เถิดว่าความห่างเหินระหว่างพวกเรานั้นเป็นไปไม่ได้ไม่ว่าในขณะใด สถานที่ใด หรือไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆ เพราะข้าแพร่กระจายไปทั่ว”
การแพร่กระจายไปทั่วของคริชณะ อธิบายไว้ใน ภควัต-คีตา ทั้งบทที่เก้าและบทที่เจ็ด คริชณะทรงแพร่กระจายไปทั่วในลักษณะไร้รูปลักษณ์ ทุกสิ่งทุกอย่างพำนักอยู่ในคริชณะ แต่คริชณะมิได้ปรากฏด้วยตนเองทุกหนทุกแห่ง ในบทที่เจ็ดกล่าวไว้เช่นกันว่า ธาตุหยาบทั้งห้า (ดิน น้า ไฟ ลม อากาศ) และธาตุละเอียดทั้งสาม (จิตใจ ปัญญา และอหังการ) เป็นพลังงานเบื้องต่า แต่ยังมีพลังงานเบื้องสูงเรียกว่าสิ่งมีชีวิต เป็นละอองอณูโดยตรงของคริชณะ ดังนั้น คริชณะทรงเป็นแหล่งกำเนิดทั้งพลังงานวัตถุและพลังงานทิพย์ คริชณะผสมอยู่กับทุกสิ่งเสมอ ในฐานะเป็นเหตุและผล ไม่เฉพาะพวก โกปี เท่านั้น แต่มวลชีวิตยังเชื่อมสัมพันธ์กับคริชณะอย่างแยกไม่ออกตลอดไปในทุกสถานการณ์ อย่างไรก็ดี พวกโกปี ทราบและเข้าใจถึงความสัมพันธ์กับคริชณะนี้โดยตลอดและสมบูรณ์ ขณะที่สิ่งมีชีวิตผู้อยู่ภายใต้มนต์สะกดของมายา ลืมคริชณะ คิดว่าตนเองมีบุคลิกที่แยกออกไป และไม่มีความสัมพันธ์อันใดกับคริชณะ
ความรักคริชณะหรือคริชณะจิตสำนึกเป็นความสมบูรณ์แห่งความรู้ที่แท้จริงในการเข้าใจสิ่งต่างๆตามความเป็นจริง จิตใจของเราไม่มีวันว่างเปล่าได้ จิตใจจะถูกครอบงำไปด้วยความคิดตลอดเวลา เรื่องที่คิดเหล่านี้ไม่มีสิ่งใดนอกเหนือไปจากธาตุทั้งแปดแห่งพลังงานของคริชณะ ผู้รู้แง่มุมของความคิดทั้งหลายแห่งปรัชญานี้เป็นผู้มีสติปัญญา จะศิโรราบแด่คริชณะ พวก โกปี เป็นภาพลักษณ์โดยสรุปแห่งระดับอันสมบูรณ์แห่งความรู้นี้ มิใช่เป็นเพียงนักคาดคะเนทางจิตใจ จิตใจอยู่กับคริชณะเสมอ จิตใจมิใช่สิ่งอื่นใดแต่เป็นพลังงานของคริชณะ ที่จริง ผู้ใดที่สามารถคิด มีความรู้สึก ปฏิบัติได้ และมีความปรารถนา ไม่สามารถแยกจากคริชณะได้ ระดับที่เข้าใจความสัมพันธ์อมตะของตนเรียกว่าคริชณะจิตสำนึก สภาวะที่ป่วยเป็นโรคไม่สามารถเข้าใจความสัมพันธ์นิรันดรกับคริชณะ เป็นระดับที่มีมลทินหรือมายา พวก โกปี อยู่ในระดับแห่งความรู้ทิพย์ที่บริสุทธิ์ จิตใจของพวกนางจึงเต็มไปด้วยคริชณะจิตสำนึกเสมอ ตัวอย่างเช่น ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างไฟและลม จึงไม่มีการแบ่งแยกระหว่างคริชณะและสิ่งมีชีวิต เมื่อสิ่งมีชีวิตลืมคริชณะเขาไม่ได้อยู่ในสภาวะปกติ สำหรับพวก โกปี เนื่องจากคิดถึงคริชณะเสมอ จึงอยู่ในระดับที่สมบูรณ์แห่งความรู้ที่บริบูรณ์ พวกที่สมมุติว่าเป็นนักปราชญ์ช่างสังเกต บางครั้งคิดว่าวิธีของบัคธิ มีไว้เพื่อคนด้อยปัญญา นอกจากพวกที่สมมุติว่ามีความรู้เหล่านี้มาถึงระดับบัคธิ มิฉะนั้น ความรู้ไม่บริสุทธิ์และไม่สมบูรณ์ อันที่จริง ระดับความสมบูรณ์แห่งความสัมพันธ์นิรันดรของเรากับคริชณะ คือความรักในการที่อยู่ห่างไกลกัน แต่นั่นเป็นความหลงอีกเช่นเดียวกัน เพราะไม่มีการอยู่ห่างไกลกัน พวก โกปี มิได้สถิตในสภาวะแห่งความหลงของชีวิตเช่นนี้ ดังนั้น แม้จากการมองทางปรัชญาสำหรับพวกโกปี ไม่มีความห่างเหินใดๆ
ปรากฏการณ์ในจักรวาลมิได้แยกไปจากคริชณะ “ไม่มีสิ่งใดแยกไปจากข้าปรากฏการณ์ในจักรวาลทั้งหมดพำนักอยู่ที่่ข้า และมิได้แยกไปจากข้า ก่อนการสร้างข้าก็อยู่” ได้ยืนยันไว้ในคัมภีร์พระเวทว่า ก่อนการสร้างมีพระนารายณ์เท่านั้นไม่มีพระพรหม และไม่มีพระศิวะ เอโค นารายะณะ อาสีน นะ บระฮมา นะ อีชานะฮ ปรากฏการณ์ในจักรวาลทั้งหมดเป็นการผสมผสานของสามระดับแห่งธรรมชาติวัตถุกล่าวไว้ว่า พระพรหมอวตารแห่งระดับตัณหาสร้างจักรวาลนี้ แต่พระพรหมเป็นผู้สร้างอันดับสองรองลงมา ผู้สร้างเดิมคือพระนารายณ์ ยืนยันโดยชังคะราชารยะว่า นารายะณะฮ พะโร ่วิยัคทาท พระนารายณ์ทรงเป็นทิพย์เหนือการสร้างจักรวาลนี้
คริชณะทรงสร้าง ทรงอนุรักษ์ และทรงทำลายปรากฏการณ์ในจักรวาลทั้งหมดด้วยการแบ่งภาคของพระองค์ไปในอวตารต่างๆ ทุกสิ่งคือคริชณะและทุกอย่างขึ้นอยู่กับคริชณะ แต่ภายใต้พลังงานวัตถุเรียกว่ามายาหรือความหลงไม่สามารถมองเห็นคริชณะ แต่ในพลังงานทิพย์ทุกฝีก้าวและทุกสถานการณ์จะสำ เหนียกเห็นคริชณะ ในระดับสมบูรณ์แห่งความเข้าใจเช่นนี้ โกปี แสดงให้เห็น ดังที่ คริชณะอยู่ห่างจากปรากฏการณ์ทางจักรวาลเสมอแม้ปรากฏการณ์แห่งจักรวาลนี้ขึ้นอยู่กับพระองค์ ดังนั้น สิ่งมีชีวิตอยู่ห่างจากชีวิตสภาวะวัตถุโดยสมบูรณ์เช่นกัน แม้ร่างวัตถุจะพัฒนาบนฐานแห่งความเป็นอยู่ทิพย์ ใน ภควัต-คีตา ปรากฎการณ์ในจักรวาลทั้งหมดยอมรับว่าเป็นมารดาของสิ่งมีชีวิต คริชณะทรงเป็นพระบิดา ดังเช่น บิดาทำให้มารดาตั้งครรภ์ด้วยการส่งสิ่งมีชีวิตเข้าไปในครรภ์ คริชณะทรงส่งมวลชีวิตเข้าไปในครรภ์ของธรรมชาติวัตถุ และออกมาในรูปร่างต่างๆกันตามกิจกรรมเพื่อหวังผลอันหลากหลาย แต่ในทุกสถานการณ์สิ่งมีชีวิตอยู่ห่างจากสภาวะชีวิตวัตถุนี้
หากเราเพียงแต่ศึกษาร่างกายของเรา จะสามารถเข้าใจว่าสิ่งมีชีวิตอยู่ห่างจากกรงขังของร่างกายนี้เสมอได้อย่างไร ทุกกิจกรรมของร่างกายเกิดขึ้นได้ด้วยการประสานกันของสามระดับแห่งธรรมชาติวัตถุ เราเห็นได้ทุกขณะที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมายในร่างกาย แต่ดวงวิญญาณอยู่ห่างจากการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ เราไม่สามารถสร้างหรือทำลาย หรือเข้าไปรบกวนกับการกระทำของธรรมชาติวัตถุ ดังนั้น สิ่งมีชีวิตติดกับอยู่ในร่างวัตถุ และอยู่ในสภาวะของสามระดับ เช่น ขณะตื่น ขณะหลับ และ ขณะที่ขาดสติ จิตใจยังไม่หยุดนิ่งตลอดทั้งสามสภาวะของชีวิตนี้ สิ่งมีชีวิตในขณะหลับหรือขณะที่ฝันอยู่จะเห็นบางอย่างว่าเป็นจริง แต่เมื่อตื่นขึ้นจะเห็นว่าสิ่งเดียวกันนั้นมิใช่ของจริง ดังนั้น สรุปได้ว่าภายใต้สถานการณ์เฉพาะ ยอมรับบางสิ่งว่าเป็นจริงและภายใต้อีกสถานการณ์ ยอมรับสิ่งเดียวกันว่าไม่เป็นจริง สิ่งเหล่านี้คือวิชาการศึกษาสำหรับนักปราชญ์ผู้สังเกตหรือสางคยะ-โยกี เพื่อให้มาถึงจุดสรุปที่ถูกต้อง สางคยะ-โยกี ต้องผ่านการปฏิบัติสมถะและบำเพ็ญเพียรอย่างมาก ต้องฝึกฝนการควบคุมประสาทสัมผัส และการเสียสละวิธีต่างๆในการพิจารณาจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต ทั้งหมดนี้เปรียบเทียบกับแม่น้า คริชณะทรงเป็นมหาสมุทร แม่น้าสายต่างๆไหลลงสู่มหาสมุทร ความพยายามทั้งหมดเพื่อความรู้ไหลไปสู่คริชณะ หลังจากพยายามหลายๆชาติ เมื่อมาถึงคริชณะจริงเขาบรรลุถึงระดับแห่งความสมบูรณ์ คริชณะตรัสใน ภควัต-คีตา ว่า “ทั้งหมดปฏิบัติตามหนทางแห่งความรู้แจ้งตัวข้า แต่ผู้ที่รับเอาการปฏิบัติโดยขาด บัคธิ จะพบว่าความพยายามนั้นมีปัญหามาก” คเลโช ่ดิคะทะรัส เทชาม ไม่มีผู้ใดเข้าใจคริชณะได้ นอกจากมาถึง บัคธิ หรือ ภักดี-โยคะ
สามวิธีที่กำหนดไว้ใน ภควัต-คีตา คือ คารมะ-โยกะ, กยานะ-โยกะ และบัคธิ-โยกะ พวกเสพติดกับกิจกรรมเพื่อผลประโยชน์ได้รับคำแนะนำให้ปฏิบัติเพื่อให้นำมาถึงบัคธิ พวกที่เสพติดอยู่กับความผิดหวังแห่งปรัชญาช่างสังเกต ได้รับคำแนะนำให้ปฏิบัติเพื่อรู้แจ้งบัคธิ, คารมะ-โยกะ ต่างจากคารมะ ธรรมดา กยานะ-โยกะ ต่างจากกยานะ ธรรมดา ในที่สุดดังที่องค์ภควานตรัสไว้ใน ภควัต-คีตา ว่า บัคธยา มาม อบิจานาทิ จากการปฏิบัติอุทิศตนเสียสละรับใช้เท่านั้นที่สามารถเข้าใจคริชณะ ระดับสมบูรณ์แห่งการอุทิศตนเสียสละรับใช้ เหล่า โกปี บรรลุถึง เพราะไม่สนใจรู้สิ่งใดนอกจากคริชณะ ยืนยันในคัมภีร์พระเวทว่า ยัสมิน เอวะ วิกยาเท สารวัม เอวะ วิกยาทัม บะวะทิ แปลว่าเพียงรู้คริชณะ จะมีความรู้อื่นๆทั้งหมดโดยปริยาย
คริชณะตรัสต่อ “ความรู้ทิพย์แห่งสัจธรรมที่สมบูรณ์ไม่จำเป็นอีกต่อไปสำหรับเธอ พวกเธอเคยชินอยู่กับการรักข้าจากจุดเริ่มต้นของชีวิต” ความรู้แห่งสัจธรรมที่สมบูรณ์จำเป็น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการความหลุดพ้นจากความเป็นอยู่ทางวัตถุ แต่ผู้บรรลุถึงความรักคริชณะมาอยู่ในระดับแห่งอิสรภาพหลุดพ้นแล้ว ดังที่กล่าวใน ภควัต-คีตา ว่าผู้ใดปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้อย่างบริสุทธิ์พิจารณาว่าสถิตในระดับทิพย์แห่งความหลุดพ้น เหล่า โกปี ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดใดๆ ในความเป็นอยู่ทางวัตถุเลย พวกนางมีความรู้สึกเหินห่างจากคริชณะ ดังนั้น คริชณะตรัสว่า “โกปี ที่รักของข้า เพื่อเพิ่มพูนความรักอันยอดเยี่ยมที่พวกเธอมีต่อข้า ข้าตั้งใจแยกตัวข้าออกมา เพื่อพวกเธออาจทำสมาธิอยู่ที่ข้าตลอดเวลา”
พวก โกปี อยู่ในระดับสมบูรณ์แห่งสมาธิ โยคีโดยทั่วไปชอบทำสมาธิมากกว่าการอุทิศตนเสียสละรับใช้องค์ภควาน เพราะไม่ทราบว่าความสมบูรณ์แห่งระบบโยคะคือบรรลุถึงการอุทิศตนเสียสละ การทำสมาธิตลอดเวลาอยู่ที่คริชณะที่เหล่าโกปี ปฏิบัติ ยืนยันใน ภควัต-คีตา ว่าเป็นโยคะสูงสุดยอด คริชณะรู้ถึงจิตวิทยาของผู้หญิง เมื่อคนรักเหินห่างไปจะคิดถึงเขาในสมาธิมากกว่าตอนที่อยู่ด้วยกัน คริชณะทรงปรารถนาจะสอนผ่านทางการปฏิบัติของพวกโกปี ว่าผู้ทำสมาธิอยู่เสมอเหมือนพวก โกปี แน่นอนว่าจะบรรลุถึงพระบาทรูปดอกบัวของคริชณะ
องค์ภควาน เชธันญะ ทรงสอนผู้คนโดยทั่วไปถึงวิธี วิพระลัมบะ-เสวา เป็นวิธีถวายการรับใช้องค์ภควานในความรู้สึกที่ห่างไกลกัน โกสวามีทั้งหกรูปสอนวิธีบูชาคริชณะเช่นเดียวกับความรู้สึกของพวกโกปี ที่อยู่ห่างไกลกัน บทมนต์ของ ชรีนิวาสาชารยะ เกี่ยวกับโกสวามี อธิบายชัดเจนมาก ชรีนิวาสาชารยะ กล่าวว่า เหล่าโกสวามีซึมซาบอยู่ในมหาสมุทรแห่งความรู้สึกทิพย์ในอารมณ์ของพวก โกปี เสมอ เมื่ออยู่ที่ วรินดาวะนะพวกโกสวามีค้นหาคริชณะด้วยการตะโกนว่า “คริชณะอยู่ไหน? พวก โกปี อยู่ไหน? อยู่ที่ไหนกัน ชรีมาธี ราดาราณี?” ไม่เคยกล่าวว่า “เราเห็น ราดา-คริชณะ แล้ว ภารกิจหน้าที่ของเราเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว” ภารกิจของพวกท่านยังคงไม่เสร็จสมบูรณ์ตลอดเวลา ไม่เคยพบราดาและคริชณะ ขณะที่เต้นรำ ราสะ-ลีลาศ, โกปี ผู้ไม่สามารถร่วมด้วยใน ราสะ-ลีลาศ กับคริชณะได้สละร่างเพราะคิดถึงคริชณะ การซึมซาบในคริชณะจิตสำนึกด้วยความรู้สึกที่ห่างเหินกัน เป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดเพื่อบรรลุถึงพระบาทรูปดอกบัวของคริชณะ จากคำดำรัสของคริชณะโดยตรง เหล่า โกปี มั่นใจเกี่ยวกับพลังแห่งความรู้สึกที่เหินห่างจากกันนี้ อันที่จริงพวกนางได้รับประสบการณ์ด้วยวิธีที่เหนือธรรมชาติในการบูชาคริชณะ และรู้สึกผ่อนคลายมากที่เข้าใจว่าคริชณะมิได้เหินห่างไปเลย แต่อยู่กับพวกนางตลอดเวลา
ดังนั้น พวกโกปี ต้อนรับอุดดะวะอย่างมีความสุขมาก เริ่มพูดดังต่อไปนี้ “พวกเราได้ยินมาว่ากษัตริย์คัมสะผู้เป็นต้นเหตุแห่งปัญหาของราชวงศ์ยะดุเสมอ บัดนี้ถูกสังหารแล้ว เป็นข่าวดี ดังนั้น หวังว่าสมาชิกของราชวงศ์ยะดุมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคริชณะผู้สามารถสนองตอบความปรารถนาทั้งหมดของสาวก อุดดะวะที่รัก โปรดกรุณาบอกด้วยว่าบางครั้งคริชณะคิดถึงเราหรือเปล่า ขณะอยู่ท่ามกลางเด็กหญิงสังคมที่มีความรู้แจ้งสูงส่งที่มะทุรา เรารู้ว่าเด็กหญิงสาวที่มะทุราไม่ใช่สาวชนบท สวยงามและรู้แจ้ง มองด้วยรอยยิ้มที่เหนียมอาย และลักษณะต่างๆ ของสตรี ต้องทำให้คริชณะมีความสุขมาก เรารู้ดีว่าคริชณะชอบการปฏิบัติของหญิงงามเสมอ ดูเหมือนคริชณะติดกับอยู่กับหญิงสาวมะทุรา อุดดะวะที่รักกรุณาบอกเราว่าบางครั้งคริชณะคิดถึงพวกเราบ้างหรือไม่ ขณะอยู่ท่ามกลางหญิงอื่นๆ?”
โกปี อีกนางหนึ่งถามว่า “คริชณะจำคืนที่อยู่ท่ามกลางดอกไม้คุมุดะ และท่ามกลางแสงจันทร์ขณะที่วรินดาวะนะมีความสวยงามเป็นพิเศษได้ไหม คริชณะเต้นรำกับพวกเรา บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงกระดิ่งจากกำไลข้อเท้า เราแลกเปลี่ยนการสนทนากันอย่างรื่นรมย์ในตอนนั้น คริชณะจำคืนนั้นได้ไหม? เราจำคืนนั้นได้ดี รู้สึกเหินห่างจากกัน อยู่ห่างจากคริชณะทำให้พวกเราเร่าร้อนเหมือนมีไฟสุมอยู่ในร่าง คริชณะเสนอว่าจะกลับมาวรินดาวะนะเพื่อดับไฟนั้น เหมือนก้อนเมฆที่ปรากฏอยู่บนท้องฟ้าเพื่อดับไฟป่าด้วยการเทน้าลงมา ยังจำได้รึเปล่า?”
โกปี อีกนางหนึ่งกล่าวว่า “คริชณะได้สังหารศัตรูไปแล้ว และได้รับชัยชนะครอบครองอาณาจักรของคัมสะ บางทีคริชณะอาจสมรสกับธิดากษัตริย์ อยู่กันสุขอารมณ์กับญาติๆ และเพื่อนๆ ทำไมคริชณะต้องกลับมาที่หมู่บ้านวรินดาวะนะอีก?”
โกปี อีกนางหนึ่งกล่าวว่า “คริชณะคือองค์ภควาน สวามีของเทพธิดาแห่งโชคลาภ มีความเพียงพออยู่ในตัวเอง คริชณะไม่มีธุรกิจอันใดกับพวกเราผู้เป็นหญิงสาวในป่าวรินดาวะนะ หรือหญิงสาวในเมืองมะทุรา คริชณะเป็นอภิวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรา ไม่ว่าที่นี่หรือที่นั่น”
โกปี อีกนางหนึ่งกล่าวว่า “เป็นความหวังที่ไร้เหตุผลของเราที่คิดว่าคริชณะจะกลับมาที่วรินดาวะนะ เราควรพยายามมีความสุขในความผิดหวัง แม้โสเภณีผู้ยิ่งใหญ่ พิงกะลา กล่าวว่าความผิดหวังเป็นความสุขสูงสุด เรารู้สิ่งเหล่านี้แต่ยากมากที่จะยกเลิกความคาดหวังว่าคริชณะจะกลับมา ใครลืมการสนทนาในที่ลับกับคริชณะผู้ซึ่งเทพธิดาแห่งโชคลาภอยู่ที่ทรวงอกเสมอได้ แม้คริชณะไม่ปรารถนานาง? อุดดะวะที่รัก วรินดาวะนะเป็นแผ่นดินแห่งแม่น้า ป่า และวัว ณ ที่นี่จะได้ยินเสียงขลุ่ย และคริชณะพร้อมทั้งพี่ชาย ชรี บะละรามะ มีความสุขอยู่กับบรรยากาศร่วมด้วยกับพวกเรา สิ่งแวดล้อมที่วรินดาวะนะเตือนเราให้คิดถึงคริชณะและบะละรามะอยู่เป็นนิจ รอยเท้าของคริชณะที่อยู่บนแผ่นดินวรินดาวะนะซึ่งเป็นที่พักพิงของเทพธิดาแห่งโชคลาภ เพราะรอยเท้าเหล่านี้ เราจึงไม่สามารถลืมคริชณะได้” เหล่าโกปี แสดงให้เห็นว่าวรินดาวะนะยังเต็มไปด้วยความมั่งคั่งและโชคลาภทั้งหลาย ไม่ขาดแคลนหรือปรารถนาสิ่งจำเป็นทางวัตถุใดๆที่วรินดาวะนะ แม้มีความมั่งคั่งเช่นนี้ พวกนางไม่สามารถลืมคริชณะและบะละรามะได้
“พวกเราคิดถึงบุคลิกลักษณะอันน่ารักของคริชณะผู้มีความสง่างามเสมอ รวมทั้งการเดิน รอยยิ้ม การพูดตลกขบขัน เราหลงใหลอยู่กับการมาสัมผัสกัน เราลืมคริชณะไม่ลง ภาวนาถึงคริชณะเสมอโดยตะโกนว่า “องค์ภควานที่รัก สวามีเทพธิดาแห่งโชคลาภที่รัก องค์ภควานแห่งวรินดาวะนะที่รัก ผู้จัดส่งสาวกที่อยู่ในความทุกข์! บัดนี้ เราตกต่าและถูกกลืนเข้าไปในมหาสมุทรแห่งความทุกข์ ดังนั้น โปรดกลับมาที่ วรินดาวะนะและจัดส่งพวกเราให้ออกจากสภาวะที่น่าสงสารเช่นนี้”
อุดดะวะศึกษาสภาวะทิพย์ที่ผิดปกติของพวกโกปี อย่างละเอียดถี่ถ้วน การที่เหินห่างจากคริชณะ อุดดะวะคิดว่าเป็นการดีที่กล่าวถึงลีลาของคริชณะซำ้ไปซำ้มา นักวัตถุนิยมถูกเผาไหม้ด้วยเพลิงแห่งความทุกข์ทางวัตถุเสมอ พวก โกปี ถูกเผาไหม้ด้วยเปลวเพลิงทิพย์อันเนื่องมาจากอยู่ห่างจากคริชณะเช่นกัน อย่างไรก็ดี เปลวเพลิงแห่งความโกรธของพวกโกปี แตกต่างจากเปลวเพลิงในโลกวัตถุ พวก โกปี ปรารถนาอยู่ใกล้ชิดกับคริชณะเสมอ ในขณะที่นักวัตถุนิยมต้องการฉวยประโยชน์จากความสะดวกสบายทางวัตถุอยู่เป็นนิจ
วิชวะนาทะ ชัคระวารที ทาคุระ กล่าวว่า คริชณะช่วยเด็กเลี้ยงวัวจากไฟป่าอันร้อนแรงภายในวินาทีเดียว ขณะที่พวกเขาปิดตา เช่นเดียวกัน อุดดะวะแนะนำพวกโกปี ว่าสามารถได้รับการช่วยเหลือจากเพลิงแห่งความเหินห่างโดยหลับตาทำสมาธิอยู่ที่ลีลาของคริชณะจากตอนเริ่มต้นที่พวกนางได้มาอยู่ใกล้ชิดกับคริชณะ จากภายนอกพวกโกปี เห็นภาพลีลาทั้งหลายของคริชณะโดยสดับฟังการบรรยายของ อุดดะวะ และจากภายในสามารถจำลีลาต่างๆเหล่านั้น จากคำสอนของ อุดดะวะ พวกโกปี เข้าใจว่าคริชณะมิได้อยู่ห่างจากพวกนางเลย ขณะที่คิดถึง คริชณะอยู่เสมอ คริชณะก็คิดถึงพวกนางเสมอเช่นเดียวกัน ในขณะอยู่ที่มะทุรา
สารและคำสอนของอุดดะวะช่วยพวก โกปี จากความตายทันที พวก โกปี ซาบซึ้งถึงพรที่อุดดะวะให้ อุดดะวะปฏิบัติตัวเหมือนพระอาจารย์ทิพย์พี่เลี้ยงของพวก โกปี และพวกนางบูชาอุดดะวะเหมือนบูชาคริชณะ แนะนำไว้ในพระคัมภีร์ที่เชื่อถือได้ว่า พระอาจารย์ทิพย์ควรได้รับการบูชาในระดับเดียวกับองค์ภควาน เพราะเป็นผู้รับใช้ที่ใกล้ชิดสนิทสนมที่สุดของพระองค์ ยอมรับกันโดยผู้ที่เชื่อถือได้ว่า พระอาจารย์ทิพย์เป็นการปรากฏภายนอกของคริชณะ พวกโกปี ได้รับการปลดเปลื้องจากสภาวะเผาไหม้ทิพย์โดยรู้ว่าคริชณะอยู่ด้วย ภายในระลึกถึงตอนที่อยู่ใกล้ชิดกับคริชณะภายในหัวใจ และภายนอกอุดดะวะช่วยให้ชื่นชอบคริชณะด้วยคำสอนสรุป
พระคัมภีร์อธิบายว่า องค์ภควาน ทรงเป็นอโดคชะจะ แสดงว่าทรงอยู่เหนือการสำเหนียกของประสาทสัมผัสวัตถุทั้งปวง แม้อยู่เหนือประสาทสัมผัสวัตถุ ทรงประทับอยู่ภายในหัวใจของทุกชีวิต ขณะเดียวกันทรงประทับอยู่ทุกหนทุกแห่งด้วยลักษณะบระฮมันที่แพร่กระจายไปทั่ว เรารู้แจ้งลักษณะทิพย์ทั้งสามแห่งสัจธรรม คือองค์ภควาน พะระมาทมาอภิวิญาณในหัวใจ และบระฮมันที่แพร่กระจายไปทั่ว เพียงแต่ศึกษาสภาวะของพวกโกปี ที่พบปะกับอุดดะวะดังที่อธิบายใน ชรีมัด-ภควธัม
ชรีวาสาชารยะกล่าวว่า โกสวามีทั้งหกท่านซึมซาบความคิดอยู่กับลีลาของเหล่าโกปี เสมอ เชธันญะ มะฮาพระบู ทรงแนะนำไว้เช่นกันว่า วิธีการบูชาองค์ ภควาน ของพวกโกปี เป็นวิธียอดเยี่ยมที่สุด ชรีละ ชุคะเดวะ โกสวามี แนะนำด้วยว่า ผู้ใดสดับฟังจากแหล่งที่ถูกต้องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพวกโกปี และคริชณะ และปฏิบัติตามคำสอนจะเจริญก้าวหน้าไปสู่สถานภาพสูงสุดแห่งการอุทิศตนเสียสละรับใช้ และสามารถขจัดราคะแห่งความรื่นเริงทางวัตถุได้
โกปี ทั้งหมดจิตใจสงบลงจากคำสอนของอุดดะวะ ขอร้องให้อุดดะวะพักอยู่ที่วรินดาวะนะอีกหลายวัน อุดดะวะตกลงกับข้อเสนอและพักอยู่กับโกปี ไม่เพียงหลายวันเท่านั้นแต่เป็นเวลาหลายเดือน อุดดะวะทำให้พวกโกปี คิดถึงสารทิพย์และลีลาของคริชณะเสมอ พวก โกปี รู้สึกว่าได้รับประสบการณ์อยู่ใกล้ชิดกับคริชณะโดยตรง ขณะอุดดะวะอยู่ที่วรินดาวะนะ ชาววรินดาวะนะได้รับความสุขกับการคบหาสมาคม คุยเกี่ยวกับลีลาของคริชณะทำให้เวลาผ่านไปเหมือนเพียงนาทีเดียว บรรยากาศธรรมชาติของวรินดาวะนะ การไหลผ่านของแม่น้ายะมุนา สวนที่สวยงาม และต้นไม้ที่ประดับประดาไปด้วยผลไม้ต่างๆ ภูเขาโกวารดะนะ ถำ้ ดอกไม้บาน ทั้งหมดนี้รวมกันเข้าดลใจให้อุดดะวะเล่าถึงลีลาของคริชณะ ชาววรินดาวะนะมีความสุขในการคบหาสมาคมกับอุดดะวะ เหมือนกับที่มีความสุขในการคบหาสมาคมกับคริชณะ
อุดดะวะหลงใหลในกริยาท่าทีของพวกโกปี เพราะยึดมั่นอยู่กับคริชณะโดยสมบูรณ์ อุดดะวะได้รับแรงดลใจจากความกระตือรือร้นของโกปี ที่มีต่อคริชณะ เริ่มแสดงความเคารพอย่างสูงต่อพวกนาง แต่งเพลงสรรเสริญคุณสมบัติทิพย์ของ โกปี ดังนี้ “ในบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่รับเอาร่างมนุษย์มา พวกโกปี ประสบความสำเร็จยอดเยี่ยมที่สุดในภารกิจ ความคิดซึมซาบอยู่ที่พระบาทรูปดอกบัวของคริชณะนิรันดร นักปราชญ์และนักบุญผู้ยิ่งใหญ่พยายามซึมซาบอยู่ในสมาธิที่พระบาทรูปดอกบัวของคริชณะ ผู้เป็นมุคุนดะหรือผู้ให้อิสรภาพความหลุดพ้น พวกโกปี ยอมรับองค์ภควานด้วยความรัก เคยชินอยู่กับอิสรภาพโดยปริยาย ไม่ขึ้นอยู่กับการฝึกปฏิบัติโยคะใดๆทั้งสิ้น สรุปคือ ผู้บรรลุถึงสภาวะชีวิตพวกโกปี ไม่ต้องเกิดมาเป็นพระพรหม หรือเกิดในครอบครัวพราหมณ์ หรือได้รับการอุปสมบทเป็นพราหมณ์อีก”
ชรี อุดดะวะ ยืนยันคำพูดของคริชณะใน ภควัต-คีตา ว่า ผู้มาพึ่งองค์ภควาน ด้วยจุดมุ่งหมายที่ถูกต้อง ไม่ว่าเป็นชูดระ หรือต่ากว่า จะบรรลุถึงจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต พวกโกปี ได้วางมาตรฐานแห่งการอุทิศตนเสียสละให้ทั่วทั้งโลก จากการปฏิบัติตามรอยพระบาทของพวกโกปี ด้วยการคิดถึงคริชณะเสมอ เราสามารถบรรลุถึงระดับสมบูรณ์สูงสุดแห่งชีวิตทิพย์ พวกโกปี มิได้เกิดมาในครอบครัวที่มีวัฒนธรรมสูง แต่เกิดในตระกูลชายเลี้ยงโค ถึงกระนั้น พวกนางพัฒนาความรักสูงสุดต่อคริชณะ เพื่อรู้แจ้งแห่งตนหรือรู้แจ้งองค์ภควาน ไม่จำเป็นต้องเกิดในตระกูลสูง จำเป็นอยู่สิ่งเดียวคือพัฒนาความรักองค์ภควานด้วยปลื้มปีติสุข ในการบรรลุถึงความสมบูรณ์ในคริชณะจิตสำนึกไม่มีคุณสมบัติอื่นใดที่จำเป็น นอกเหนือไปจากปฏิบัติตนรับใช้ด้วยใจรักแด่คริชณะผู้ทรงเป็นน้าทิพย์สูงสุด ผลจากการรับเอาคริชณะจิตสำนึกมาปฏิบัติ เหมือนดื่มน้าทิพย์ ไม่ว่าด้วยความรู้หรือไม่รู้จะเกิดผล หลักธรรมที่ปฏิบัติอยู่ในคริชณะจิตสำนึกจะปรากฏอย่างเท่าเทียมกันในตนเองทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าเราเกิดที่ไหน หรืออย่างไร คริชณะจะประทานพรแด่ทุกคนที่ปฏิบัติคริชณะจิตสำนึกโดยไม่ต้องสงสัย พรสูงสุดที่พวก โกปี ได้รับ แม้เกิดในครอบครัวชายเลี้ยงวัว แม้แต่เทพธิดาแห่งโชคลาภยังไม่เคยได้รับ แน่นอนว่านางฟ้าบนสวรรค์ก็ไม่เคยได้รับ แม้กลิ่นหอมของร่างกายนางฟ้าเหมือนกับกลิ่นหอมของดอกบัว พวกโกปี โชคดีมาก ขณะเต้นรำราสะ-ลีลาศ คริชณะโอบกอดพวกนางในอ้อมแขนด้วยพระองค์เอง คริชณะจูบพวกนางซึ่งๆหน้า แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้สำหรับหญิงอื่นภายในสามโลกที่จะบรรลุถึงจุดหมายนี้นอกจากพวก โกปี
อุดดะวะชื่นชอบกับสถานภาพอันสูงส่งของพวก โกปี และปรารถนาก้มลงเพื่อรับเอาฝุ่นละอองที่พระบาทของพวก โกปี มาไว้บนศีรษะของตน ถึงกระนั้น อุดดะวะไม่กล้าขอร้องพวก โกปี ให้ยอมให้ฝุ่นละอองจากพระบาทของพวกนาง เพราะบางทีอาจไม่เห็นด้วย ดังนั้น จึงเอาศีรษะของตนไปละเลงกับฝุ่นที่พระบาทของพวก โกปี โดยที่พวกนางไม่รู้ตัว อุดดะวะปรารถนาเป็นเพียงกอหญ้า หรือกลุ่มสมุนไพรที่ไม่มีความสลักสำคัญอันใดบนแผ่นดินแห่งวรินดาวะนะ
เหล่าโกปี หลงใหลคริชณะมากจนกระทั่งเมื่อได้ยินเสียงขลุ่ยของคริชณะ จะจากบ้าน ครอบครัว ลูกๆ เกียรติยศ ศักดิ์ศรี และสิ้นความละอายในความเป็นหญิง แล้ววิ่งไปยังสถานที่คริชณะยืนอยู่ ไม่พิจารณาว่ากำลังวิ่งบนถนน หรือวิ่งเข้าไปในป่า มองไม่เห็นฝุ่นที่เท้าไปติดอยู่ที่กอหญ้าเล็กๆ และกลุ่มสมุนไพรที่วรินดาวะนะ อุดดะวะไม่กล้าเอาฝุ่นจากเท้าของพวกโกปีมาไว้บนศีรษะของตนในชาตินี้ แต่มีแรงดลใจว่าในชาติหน้าจะได้อยู่ในตำแหน่งของกอหญ้าหรือกลุ่มสมุนไพร แล้วตัวท่านจะสามารถได้รับฝุ่นจากพระบาทของพวกโกปี
อุดดะวะชื่นชมโชคลาภพิเศษสุดของพวกโกปี ที่ปลดเปลื้องตัวพวกนางจากมลทินทั้งหลายทางวัตถุ ด้วยการวางหน้าอกที่สวยงามและสูงส่งอยู่ที่พระบาทรูปดอกบัวของคริชณะ ซึ่งไม่เพียงแต่เทพธิดาแห่งโชคลาภเท่านั้นที่บูชา แต่เหล่าเทวดาที่สูงสุด เช่น พระพรหม และพระศิวะก็บูชา โยคีผู้ยิ่งใหญ่ทำสมาธิอยู่ที่คริชณะภายในหัวใจของตน ดังนั้น อุดดะวะปรารถนาภาวนาเสมอให้ได้รับเกียรติมาเป็นฝุ่นอยู่ที่พระบาทรูปดอกบัวของพวกโกปี ลีลาทิพย์ของคริชณะที่พวก โกปี ร้องสรรเสริญได้นำมาฉลองกันไปทั่วทั้งสามโลก
หลังจากพักอยู่ที่วรินดาวะนะหลายวันอุดดะปรารถนากลับไปหาคริชณะจึงเข้าไปขออนุญาตจาก นันดะ มะฮาราจะ และยะโชดา อุดดะวะพบพวกโกปี เพื่อกล่าวคำอำลา และขออนุญาตพวกนางด้วย อุดดะวะขึ้นไปบนรถเริ่มออกเดินทาไปมะทุรา
ขณะที่อุดดะวะกำลังจะจากไป ชาววรินดาวะนะทั้งหมด นำโดย มะฮาราจะ นันดะ และยะโชดามากล่าวคำอำลาและให้ของขวัญด้วยสิ่งของมีค่ามากมายที่หาได้ที่วรินดาวะนะ แสดงความรู้สึกด้วยน้าตาจากดวงตา เพราะยึดมั่นกับคริชณะอย่างแน่วแน่ ทั้งหมดปรารถนาได้รับพรจากอุดดะวะให้ระลึกถึงลีลาอันน่าสรรเสริญ ของคริชณะตลอดเวลา และปรารถนาให้จิตใจตั้งมั่นอยู่ที่พระบาทรูปดอกบัวของคริชณะเสมอ ใช้คำพูดในการสรรเสริญคริชณะเสมอ ให้ร่างกายก้มลงกราบ และระลึกถึงคริชณะตลอดเวลา การภาวนาของชาววรินดาวะนะนี้ เป็นแบบอย่างยอดเยี่ยมที่สุดแห่งการรู้แจ้งแห่งตน วิธีการง่ายมาก เพียงตั้งมั่นจิตอยู่ที่พระบาทรูปดอกบัวของคริชณะเสมอ พูดสนทนาเกี่ยวกับคริชณะเสมอ โดยไม่เปลี่ยนเรื่อง และให้ร่างกายปฏิบัติรับใช้คริชณะตลอดเวลา โดยเฉพาะชีวิตในร่างมนุษย์นี้ เราควรใช้ชีวิต ทรัพยากร คำพูด และปัญญา เพื่อรับใช้องค์ภควาน กิจกรรมเหล่านี้เท่านั้นที่พัฒนามนุษย์ให้ไปถึงระดับแห่งความสมบูรณ์สูงสุด นี่คือคำตัดสินของผู้ที่เชื่อถือได้ทั้งหลาย
ชาววรินดาวะนะกล่าวว่า “ด้วยความปรารถนาของผู้มีอำนาจเชื่อถือได้สูงสุด และตามผลกรรมของเราเอง เราอาจเกิดที่ไหนก็ได้ ไม่สำคัญว่าจะเกิดที่ไหน แต่บทมนต์ภาวนาคือ ให้เราได้ปฏิบัติในคริชณะจิตสำนึก” สาวกผู้บริสุทธิ์ของคริชณะไม่ปรารถนาได้รับการส่งเสริมให้ไปสู่สวรรค์ แม้แต่ไวคุณธะ หรือโกโลคะ วรินดาวะนะ เพราะไม่มีความปรารถนาเพื่อความพึงพอใจส่วนตัว สาวกผู้บริสุทธิ์พิจารณาว่าทั้งสวรรค์และนรกอยู่ในระดับเดียวกัน ไม่มีคริชณะสวรรค์คือนรก หากมีคริชณะนรกคือสวรรค์ เมื่ออุดดะวะได้รับเกียรติบูชาจากสาวกผู้บริสุทธิ์ทั้งหลายแห่งวรินดาวะนะ เพียงพอแล้ว ก็กลับไปมะทุราหาพระอาจารย์คริชณะ หลังจากถวายความเคารพและก้มลงกราบ องค์ภควาน คริชณะ และ บะละรามะ อุดดะวะอธิบายชีวิตแห่งการอุทิศตนเสียสละอันน่าอัศจรรย์ของชาววรินดาวะนะ อุดดะวะถวายของขวัญทั้งหมดที่ชาววรินดาวะนะให้มาแด่วะสุเดวะพระบิดาของคริชณะ และอุกระเสนะเสด็จตาของคริชณะ
ดังนั้น ขอจบคำอธิบายโดยบัคธิเวดันธะ หนังสือ “องค์ภควาน คริชณะ”
บทที่สี่สิบหก “คริชณะส่งสารถึงพวกโกปี”
บทที่สี่สิบหก “คริชณะส่งสารถึงพวกโกปี”