องค์ภควาน คริชณะ

บทที่ 47

คริชณะทำให้สาวกยินดี

เป็นเวลาหลายวันติดต่อกันที่คริชณะสดับฟังจากอุดดะวะถึงรายละเอียดต่างๆ ที่ไปเยือนวรินดาวะนะมา สภาวะของพระบิดาและพระมารดา พวกโกปี รวมทั้งเด็กเลี้ยงโค องค์ภควาน คริชณะ ทรงพอพระทัยเป็นอย่างยิ่งที่อุดดะวะได้ส่งสารและให้คำแนะนำแด่ชาววรินดาวะนะจนทำให้พวกเขาจิตใจสงบลง
จากนั้น องค์ภควาน คริชณะ ตกลงใจไปที่บ้านของคุบจา หญิงหลังค่อมที่ทำให้คริชณะพึงพอใจโดยถวายกระแจะจันทน์ขณะที่คริชณะเข้าไปในเมืองมะทุรา ดังที่กล่าวใน ภควัต-คีตา ว่า คริชณะทรงพยายามทำให้สาวกยินดีอยู่เสมอ มากเท่าๆกับที่สาวกพยายามทำให้คริชณะยินดี ขณะที่สาวกคิดถึงคริชณะอยู่ภายในใจของตนเสมอ คริชณะก็ทรงคิดถึงสาวกอยู่ภายใน พอคุบจาได้รับการแปลงโฉมให้เป็นสาวสังคมที่งดงาม ปรารถนาให้คริชณะมาที่บ้านเพื่อจะได้ต้อนรับและบูชาคริชณะด้วยวิธีของนาง โดยทั่วไปสาวสังคมพยายามทำให้ลูกค้าพอใจด้วยการเสนอร่างกายให้ผู้ชายได้รับความสุข แต่คุบจาสาวสังคมคนนี้ที่จริงถูกราคะครอบงำ ปรารถนาสนองประสาทสัมผัสของนางกับคริชณะ เมื่อคริชณะต้องการไปบ้านของคุบจา แน่นอน ว่าคริชณะทรงไม่ปรารถนาเพื่อสนองประสาทสัมผัส การถวายกระแจะจันทน์แด่คริชณะ คุบจาได้ทำให้ประสาทสัมผัสของคริชณะพึงพอใจเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดี ที่ขอร้องให้คริชณะมาสนองประสาทสัมผัส คริชณะทรงตกลงใจไปที่บ้าน มิใช่เพื่อสนองประสาทสัมผัส แต่ไปเปลี่ยนเธอให้มาเป็นสาวกผู้บริสุทธิ์ เทพธิดาแห่งโชคลาภหลายๆ พันองค์รับใช้คริชณะอยู่เสมอ ฉะนั้น ไม่มีความจำเป็นที่ต้องให้สาวสังคมคนหนึ่งมาสนองประสาทสัมผัส แต่เนื่องจากคริชณะทรงมีพระเมตตาต่อทุกคนจึงตัดสินใจไปหานาง กล่าวไว้ว่าดวงจันทร์ไม่รั้งแสงอันนวลผ่องไม่ให้ไปที่สนามหญ้าของบ้านคนโกงฉันใด พระเมตตาทิพย์ของคริชณะก็ไม่ปฏิเสธผู้ถวายการรับใช้แด่พระองค์ฉันนั้น ไม่ว่าการรับใช้จะผ่านทาง ราคะ ความโกรธ ความกลัว หรือด้วยความรักที่บริสุทธิ์ ใน เชธันญะ-ชะริทามริทะ กล่าวว่า หากผู้ใดปรารถนารับใช้ คริชณะ ขณะเดียวกันก็ต้องการสนองความปรารถนาราคะของตน คริชณะจะจัดการกับสถานการณ์เพื่อให้สาวกลืมความต้องการทางราคะ และได้รับความบริสุทธิ์โดยสมบูรณ์เพื่อปฏิบัติรับใช้องค์ภควานอยู่เสมอ
เพื่อทำตามสัญญาที่ให้ไว้ คริชณะพร้อมทั้งอุดดะวะไปที่บ้านของคุบจา เมื่อมาถึง เห็นบ้านของนางประดับอย่างสวยงามเพื่อกระตุ้นความต้องการของผู้ชาย เช่นนี้บอกเป็นนัยว่ามีภาพเปลือยมากมาย ด้านบนมีผ้าสายรุ้งและธงที่ถักร้อยกับสร้อยไข่มุก พร้อมเตียงนอนโอ่อ่า ชุดรับแขกที่นุ่มนวล ตามห้องต่างๆ มีพวงมาลัยดอกไม้ มีกลิ่นหอมของธูป และพรมด้วยน้าหอม ภายในห้องสว่างไสวไปด้วยตะเกียงที่สวยงาม
พอคุบจาเห็น องค์ภควาน คริชณะ มาที่บ้านตามที่ได้สัญญาไว้ว่าจะมาเยี่ยมเยียน นางลุกขึ้นจากเก้าอี้มาต้อนรับทันที พร้อมเพื่อนสาวมากมาย คุบจาพูดคุยกับคริชณะด้วยความเคารพและให้เกียรติอย่างยิ่ง หลังจากถวายที่นั่งอย่างดีแล้ว นางบูชา องค์ภควาน คริชณะ อย่างเหมาะสมกับสถานภาพของนาง อุดดะวะได้รับการต้อนรับจากคุบจาและเพื่อนหญิงของนางในลักษณะเดียวกัน อุดดะวะมิได้อยู่ในระดับเดียวกับคริชณะจึงเพียงนั่งอยู่บนพื้น
โดยไม่ให้เสียเวลาที่บุคคลทั่วไปจะทำในสถานการณ์เช่นนี้ คริชณะเข้าไปในห้องนอนของคุบจา ขณะเดียวกันคุบจาไปอาบน้าและทาร่างกายด้วยกระแจะจันทน์ แต่งตัวอย่างสวยงาม มีอัญมณีอันลำ้ค่า เครื่องประดับต่างๆ และพวงมาลัยดอกไม้ หลังจากินหมากและของมึนเมาอื่นๆ แล้วฉีดน้าหอม นางปรากฎตัวต่อหน้าคริชณะ มองด้วยรอยยิ้มและเลิกคิ้วที่เต็มไปด้วยความอายของสตรี ขณะที่ยืนอย่างอ่อนช้อยต่อหน้า องค์ภควาน คริชณะ ผู้ทรงพระนาม มาดะวะ สวามีของเทพธิดาแห่งโชคลาภ คริชณะเห็นคุบจาลังเลที่จะเข้ามาหา ทรงคว้าข้อมือของนางที่ประดับด้วยกำไลทันที ด้วยความรักยิ่ง คริชณะดึงนางเข้ามาใกล้และให้นั่งลงข้างๆ จากการที่นางถวายกระแจะจันทน์แด่ องค์ภควาน คริชณะ ก่อนหน้านี้ คุบจาได้รับอิสรภาพหลุดพ้นจากผลบาปทั้งปวง และได้รับสิทธิ์ที่จะมีความสุขกับพระองค์ จากนั้นนางรับเอาพระบาทรูปดอกบัวของคริชณะมาไว้ที่หน้าอก ซึ่งถูกเผาไหม้ด้วยเพลิงแห่งราคะ เมื่อได้ดมกลิ่นหอมจากพระบาทรูปดอกบัวของคริชณะ ทำให้ความต้องการแห่งราคะทั้งหมดถูกปลิดทิ้งในบัดดล จากนั้น ได้รับอนุญาตให้มาโอบกอดคริชณะด้วยสองแขนของนาง และทำให้ความปรารถนาแห่งรักที่สงวนไว้ในใจเป็นเวลาเนิ่นนานที่อยากให้ คริชณะมาเยี่ยมเยียนที่บ้านสมประสงค์
กล่าวไว้ใน ภควัต-คีตา ว่า เราต้องมีอิสรภาพจากผลบาปทางวัตถุทั้งปวง ก่อนที่จะสามารถปฏิบัติรับใช้ด้วยใจรักทิพย์แด่องค์ภควาน เพียงถวายกระแจะ จันทน์แด่คริชณะ คุบจายังได้รับรางวัลถึงเพียงนี้ นางมิได้รับการฝึกฝนให้บูชาคริชณะด้วยวิธีอื่น ดังนั้น ปรารถนาจะทำให้คริชณะพึงพอใจด้วยอาชีพของนาง ยืนยันใน ภควัต-คีตา ว่า องค์ภควานสามารถได้รับการบูชาแม้ด้วยอาชีพของเรา หากถวายด้วยความจริงใจเพื่อความสุขของพระองค์ คุบจาบอกคริชณะว่า “เพื่อนรักของข้า กรุณาอยู่และมีความสุขกับข้าอย่างน้อยหลายวัน เพื่อนรักผู้มีดวงตารูปดอกบัว ข้าไม่สามารถจากเธอไปในทันที โปรดทำตามคำขอร้องนี้”
กล่าวไว้ในคำสอนพระเวทว่า องค์ภควานทรงมีพลังอำนาจมากมาย ตามความห็นของผู้เชี่ยวชาญ คุบจาแสดงให้เห็นถึงพลัง พุรุชะ-ชัคทิ ของคริชณะ ชรีมะธี ราดาณี แสดงให้เห็นถึงพลัง ชิท-ชัคทิ แม้คุบจาขอร้องให้คริชณะอยู่กับนางหลายวัน คริชณะแสดงให้เห็นอย่างสุภาพว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่กับนาง ทรงมาเยี่ยมโลกวัตถุนี้เป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ความสัมพันธ์ในโลกทิพย์เป็นอมตะ คริชณะทรงอยู่ที่ดาวเคราะห์ไวคุณธะ หรือดาวเคราะห์โกโลคะวรินดาวะนะเสมอ ภาษาทางการที่ว่าทรงอยู่ที่โลกทิพย์คือ พระคะทะ-ลีลา
หลังจากทำให้คุบจาพอใจด้วยคำพูดหวานแล้ว คริชณะกลับไปบ้านพร้อมทั้งอุดดะวะ มีคำเตือนใน ชรีมัด-ภควธัม ว่า การบูชาคริชณะมิใช่เรื่องง่าย เพราะ คริชณะทรงเป็นองค์ภควาน เป็นหัวหน้าในบรรดา วิชณุ-ทัททวะ การบูชาหรือมาคบหาสมาคมกับคริชณะจึงมิใช่เรื่องง่าย มีคำเตือนโดยเฉพาะสำหรับสาวกที่มาหลงเสน่ห์คริชณะผ่านความรักทางเพศสัมพันธ์ เป็นสิ่งไม่ดีสำหรับพวกเขาที่ปรารถนาสนองประสาทสัมผัสด้วยการคบหากับคริชณะโดยตรง ที่จริง กิจกรรมเพื่อสนองประสาทสัมผัสเป็นวัตถุ ในโลกทิพย์มีการจูบ การโอบกอดกัน แต่มิได้เป็นไปเพื่อสนองประสาทสัมผัสเหมือนในโลกวัตถุ เช่นนี้เป็นการเตือนพวกสะฮะจิยา ที่คิดว่า คริชณะเป็นปุถุชนธรรมดา โดยเฉพาะพวกสะฮะจิยา ต้องการหาความสุขในชีวิตเพศสัมพันธ์กับคริชณะในวิธีที่วิปริต ในความสัมพันธ์ทิพย์การสนองประสาทสัมผัสเป็นสิ่งที่ไม่มีสาระสำคัญอันใดเลย ผู้ใดปรารถนาความสัมพันธ์กับคริชณะเพื่อสนองประสาทสัมผัสอย่างวิปริตต้องพิจารณาว่าเป็นผู้ด้อยปัญญา ความรู้สึกนึกคิดจำเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงแก้ไข
หลังจากนั้น คริชณะปฏิบัติตามคำสัญญาโดยไปเยี่ยมอัครูระที่บ้าน อัครูระมีความสัมพันธ์กับคริชณะในฐานะเป็นผู้รับใช้ คริชณะปรารถนาให้อัครูระรับใช้บางอย่าง ทรงไปพร้อมกับ องค์ภควาน บะละรามะ และอุดดะวะ เมื่อคริชณะ บะละรามะ และอุดดะวะไปถึงบ้าน อัครูระเดินออกมาโอบกอดอุดดะวะ และถวายความเคารพโดยก้มลงกราบต่อหน้า องค์ภควาน คริชณะ และบะละรามะ, คริชณะ บะละรามะ และอุดดะวะ แสดงความเคารพตอบ ทั้งหมดได้รับการต้อนรับด้วยที่นั่งอันเหมาะสม เมื่อนั่งกันอย่างสะดวกสบายแล้ว อัครูระล้างพระบาทให้และพรมน้านี้บนศีรษะของตน จากนั้นถวายเสื้อผ้าอาภรณ์ ดอกไม้ กระแจะจันทน์ ซึ่งเป็นการบูชา โดยทั่วไป ทั้งสามท่านพอใจมากกับการปฏิบัติของอัครูระ อัครูระก้มลงกราบคริชณะโดยให้ศีรษะจรดพื้น แล้วรับเอาพระบาทรูปดอกบัวของคริชณะมาไว้ที่บนหน้าตัก ค่อยๆนวดอย่างนุ่มนวล อัครูระพอใจที่คริชณะและบะละรามะมาเยี่ยมเยียนถึงบ้าน ดวงตาเปี่ยมไปด้วยน้าตาแห่งความรักคริชณะ อัครูระเริ่มถวายบทมนต์ต่อไปนี้
“องค์ภควาน คริชณะ ที่รักของข้า เป็นพระกรุณาอย่างยิ่งที่ทรงสังหารคัมสะพร้อมพรรคพวก และจัดส่งครอบครัวแห่งราชวงศ์ยะดุทั้งหมดให้รอดพ้นจากความหายนะอันยิ่งใหญ่นี้ เหล่ายะดุจะระลึกถึงพระองค์เสมอที่ได้ช่วยราชวงศ์ยิ่งใหญ่นี้ไว้ องค์ภควาน คริชณะ และ บะละรามะ ที่รัก ทรงเป็นบุคลเดิมที่ทุกสิ่งปรากฏออกมา เป็นแหล่งกำเนิดเดิมของแหล่งกำเนิดทั้งปวง ทรงมีพลังงานที่มองไม่เห็น และแพร่กระจายไปทั่ว ไม่มีเหตุและผลทั้งหยาบหรือละเอียดนอกจากพระองค์ ทรงเป็นบระฮมันสูงสุดที่รู้แจ้งได้ด้วยการศึกษาคัมภีร์พระเวท ด้วยพลังงานที่มองไม่เห็น พระองค์ทรงปรากฏให้เราเห็นต่อหน้าจริงๆ ทรงสร้างปรากฏการณ์ในจักรวาลนี้ด้วยพลังงานของพระองค์ และเสด็จเข้าไปด้วยตัวพระองค์เองเหมือนธาตุวัตถุทั้งห้า เช่น ดิน น้า ไฟ ลม และอากาศ ที่แจกจ่ายอยู่ในทุกสิ่งที่ปรากฏในร่างกายชนิดต่างๆกัน พระองค์เพียงองค์เดียวเท่านั้นที่เสด็จเข้าไปในร่างต่างๆ ที่สร้างขึ้นมาด้วยพลังงานของพระองค์ เสด็จเข้าไปในร่างกายในฐานะที่เป็นปัจเจกวิญญาณ และในฐานะที่เป็นอภิวิญญาณโดยเสรี ร่างกายวัตถุสร้างขึ้นมาด้วยพลังงานเบื้องต่า สิ่งมีชีวิต ปัจเจกวิญญาณเป็นละอองอณูของพระองค์ อภิวิญญาณทรงเป็นผู้แทนของพระองค์ประทับอยู่ภายในหัวใจของร่างกายวัตถุนี้ สิ่งมีชีวิตและอภิวิญญาณรวมกันเป็นปัจเจกชีวิต เดิมทีทั้งคู่เป็นพลังงานที่แตกต่างกันของภควานสูงสุดองค์เดียวกัน
“ในโลกวัตถุ พระองค์ทรงสร้าง ทรงอนุรักษ์ และทรงทำลายปรากฏการณ์ทั้งหมดด้วยการประสานกันของสามระดับ คือ ความดี ตัณหา และอวิชชา แต่ทรงมิได้พัวพันอยู่ในกิจกรรมของคุณสมบัติทางวัตถุเหล่านั้น เพราะความรู้สูงสุดของพระองค์ไม่มีวันถูกครอบงำ เหมือนกับความรู้ของปัจเจกชีวิต”
องค์ภควานสูงสุดเสด็จเข้าไปในจักรวาลวัตถุ เป็นต้นเหตุแห่งการสร้างอนุรักษ์ และทำลายในเวลาต่อมา ขณะที่สิ่งมีชีวิตเป็นละอองอณูเข้าไปในธาตุวัตถุ และร่างกายวัตถุถูกสร้างขึ้นมาสำหรับตน ข้อแตกต่างระหว่างสิ่งมีชีวิตและองค์ภควานคือสิ่งมีชีวิตเป็นละอองอณูขององค์ภควานสูงสุด มีแนวโน้มที่จะถูกครอบงำด้วยปฏิกิริยาของระดับแห่งวัตถุที่มีต่อกัน คริชณะ พะรัม บระฮมัน หรือบระฮมันสูงสุด สถิตในความรู้อันสมบูรณ์เสมอ ไม่มีวันถูกครอบงำด้วยกิจกรรมเหล่านี้ ฉะนั้น คริชณะทรงพระนามว่า อัชยุทะ หมายถึงไม่มีวันตกลงต่า ความรู้แห่งบุคลิกภาพทิพย์ของคริชณะไม่มีวันถูกครอบงำด้วยปฏิกริยาทางวัตถุ ขณะที่บุคลิกภาพของสิ่งมีชีวิตซึ่งเป็นเศษเล็กๆ มีแนวโน้มที่ถูกครอบงำโดยวัตถุ ปัจเจกชีวิตเป็นละอองอณูขององค์ภควานนิรันดร เป็นประกายน้อยๆ ของไฟเดิมแท้คริชณะ แต่มีแนวโน้มที่จะถูกดับลง
อัครูระกล่าวต่อ “มนุษย์ผู้ด้อยปัญญาเข้าใจผิดว่ารูปลักษณ์ทิพย์ของพระองค์ทำด้วยพลังงานวัตถุ แนวคิดเช่นนี้ใช้ไม่ได้กับพระองค์ ที่จริงพระองค์ทรงเป็นทิพย์ไปหมด ไม่มีข้อแตกต่างระหว่างพระองค์และพระวรกายของพระองค์ ฉะนั้น จึงไม่ต้องถามว่าทรงอยู่ในพันธสภาวะหรือหลุดพ้นแล้ว พระองค์ทรงมีอิสรภาพหลุดพ้นตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะชีวิตเช่นไร ดังที่กล่าวใน ภควัต-คีตา ว่า คนโง่และสารเลวเท่านั้นที่พิจารณาว่าทรงเป็นปุถุชนคนธรรมดา การพิจารณาว่าทรงเป็นหนึ่งในพวกเราและอยู่ในสภาวะแห่งธรรมชาติวัตถุ เป็นข้อผิดพลาดเนื่องจากความรู้ที่ไม่สมบูรณ์ เมื่อผู้คนเบี่ยงเบนจากความรู้เดิมแท้ของคัมภีร์พระเวท พยายามคิดว่าสิ่งมีชีวิตธรรมดาเทียบเท่ากับองค์ภควาน ผู้ทรงปรากฏบนโลกนี้ด้วยรูปลักษณ์เดิมของพระองค์ เพื่อสถาปนาความรู้ที่แท้จริงอีกครั้งว่า สิ่งมีชีวิตมิได้เป็นหนึ่งเดียวกับองค์ภควานสูงสุด หรือเทียบเท่ากับพระองค์ องค์ภควานที่รักของข้า พระองค์สถิตในความดีที่บริสุทธิ์ (ชุดดะ-สัททวะ) อยู่เสมอ การปรากฏของพระองค์เพียงเพื่อสถาปนาความรู้พระเวทอันแท้จริงขึ้นใหม่เท่านั้น ตรงกันข้ามกับปรัชญาที่ไม่เชื่อในองค์ภควานพยายามสภาปนาว่า องค์ภควานและสิ่งมีชีวิตเป็นหนึ่งเดียวและเหมือนกัน องค์ภควาน คริชณะ ที่รักของข้า คราวนี้ทรงปรากฏในบ้านวะสุเดวะในฐานะเป็นบุตรพร้อมด้วยภาคแบ่งแยกที่บริสุทธ์ ชรี บะละรามะ ภารกิจคือสังหารครอบครัวผู้บริหารที่ไม่เชื่อในองค์ภควานทั้งหมด และทำลายกองกำลังทหารอันมากมายก่าย กองของพวกเขา ทรงเสด็จลงมาเพื่อขจัดภาระอันหนักหน่วงของโลกให้เหลือน้อยที่สุด และเพื่อให้ภารกิจนี้สำเร็จลุล่วง พระองค์ทรงสรรเสริญราชวงศ์ยะดุ ด้วยการปรากฏอยู่ในครอบครัวยะดุเสมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกของราชวงศ์
“องค์ภควานที่รัก วันนี้บ้านข้าบริสุทธิ์ขึ้นด้วยการเสด็จมาของพระองค์ ข้ากลายเป็นผู้มีโชคดีที่สุดในโลก องค์ภควานผู้ที่บรรดาเทวดาต่างๆ พิทา กษัตริย์ จักรพรรดิ์ และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เคารพบูชา เป็นอภิวิญญาณของสรรพสิ่ง ทรงเสด็จมาที่บ้านข้า น้าจากพระบาทรูปดอกบัวทำให้ทั้งสามโลกบริสุทธิ์ขึ้น บัดนี้ ทรงมีพระเมตตามาถึงบ้านข้า มีใครในสามโลกในบรรดาผู้มีความรู้จริง จะไม่มาพึ่งพระบาทรูปดอกบัวและศิโรราบต่อพระองค์? ใครที่รู้ดีว่าไม่มีผู้ใดรักสาวกเท่าคริชณะ แล้วยังโง่ปฏิเสธไม่ยอมมาเป็นสาวก? วรรณกรรมพระเวททั้งหมดประกาศว่า พระองค์ทรงเป็นเพื่อนที่น่ารักที่สุดของทุกชีวิต ยืนยันเช่นนี้ใน ภควัต-คีตา ว่า สุฮริดัม สารวะ-บูทานาม พระองค์ทรงเป็นองค์ภควาน สามารถสนองตอบความปรารถนาของสาวกโดยสมบูรณ์ ทรงเป็นมิตรแท้ของทุกชีวิต แม้ทรงให้ตัวพระองค์แด่สาวก ตัวพระองค์เองไม่เคยพร่องไปจากพลังเดิมแท้ พลังอำนาจไม่ลดและไม่เพิ่มในปริมาณ
“องค์ภควานที่รักของข้า เป็นสิ่งยากมากแม้แต่โยคีผู้มีฤทธิ์อันยิ่งใหญ่และเหล่าเทวดาที่จะสืบรู้การเคลื่อนไหวหรือเข้าพบพระองค์ ถึงกระนั้น ด้วยพระเมตตาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ พระองค์เมตตายินยอมมาที่บ้านข้า เช่นนี้เป็นฤกษ์ดีที่สุดในการเดินทางแห่งความเป็นอยู่ทางวัตถุของข้า ด้วยพระกรุณาธิคุณของพระองค์เท่านั้นที่บัดนี้ข้าสามารถเข้าใจว่าบ้านข้า ภรรยา ลูกๆ และทรัพย์สมบัติทางวัตถุของข้าทั้งหมดคือพันธนาการแห่งความเป็นอยู่ทางวัตถุ โปรดตัดปมและช่วยข้าจากสิ่งกีดขวางแห่ง สังคม มิตรภาพ และความรักที่ผิดๆนี้ด้วย”
องค์ภควาน ชรี คริชณะ ทรงดีใจกับอัครูระมากที่ถวายบทมนต์ รอยยิ้มของพระองค์ทำให้อัครูระหลงเสน่ห์มากยิ่งขึ้น องค์ภควานตอบอัครูระด้วยคำพูดที่หวานชื่นดังนี้ “อัครูระที่รักของข้า แม้ท่านอ่อนน้อมยอมจำนน ข้าพิจารณาว่า ท่านอาวุโสกว่า อยู่ในระดับพระบิดา ครู อาจารย์ และเพื่อนผู้ปรารถนาดีที่สุดของข้า ดังนั้น ท่านเป็นที่เคารพบูชาของข้า เนื่องจากเป็นเสด็จลุงของข้าจึงปกป้องคุ้มครองข้าเสมอ ข้าปรารถนาให้ท่านดูแลปกป้องข้า เพราะข้าเป็นหนึ่งในจำนวนลูกหลานของท่าน นอกจากความสัมพันธ์ฉันพ่อลูกนี้แล้ว สาวกผู้มีจิตใจสูงส่งเยี่ยงท่านจะได้รับการบูชาจากทุกคนเสมอ ผู้ใดปรารถนาความโชคดีต้องแสดงความเคารพอย่างสูงแด่บุคลิกภาพเช่นท่าน ซึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่กว่าเทวดา ผู้คนบูชาเหล่าเทวดาเมื่อมีความจำเป็นเพื่อสนองประสาทสัมผัสบางประการ และเทวดาให้พรแด่สาวกหลังจากได้รับการบูชา แต่สาวกเช่นอัครูระพร้อมให้พรอันยิ่งใหญ่ที่สุดแก่ผู้คน นักบุญหรือสาวกเป็นอิสระในการให้พรแก่ทุกคน ขณะที่เทวดาสามารถให้พรหลังจากที่ได้รับการบูชาแล้วเท่านั้น เราได้รับประโยชน์จากสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์หลังจากไป ณ ที่นั้นแล้วเท่านั้น การบูชาเทวดาเฉพาะองค์ต้องรอเป็นเวลานานเพื่อให้ความปรารถนาของตนสมประสงค์ แต่นักบุญเช่นท่าน อัครูระที่รัก สามารถตอบสนองความต้องการของสาวกได้ทันที อัครูระที่รักของข้า ท่านเป็นเพื่อนและผู้ปรารถนาดีของเราเสมอ พร้อมเสมอที่จะทำเพื่อให้ความสุขแด่พวกเรา ฉะนั้น กรุณาไปที่ฮัสทินาพุระ และดูว่าพวกเขาเตรียมการอย่างไรสำหรับพาณดะวะ”
คริชณะกระตือรือร้นจะทราบเกี่ยวกับบุตรของพาณดุเพราะตั้งแต่เด็ก พวกเขาได้สูญเสียพระบิดา ในฐานะที่มีมิตรภาพอย่างดีกับสาวก คริชณะจึงกระตือรือร้นจะรู้เกี่ยวกับพวกเขา ดังนั้น คริชณะทรงมอบหน้าที่ให้อัครูระไปฮัสทินาพุระเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์อันแท้จริง คริชณะตรัสต่อ “ข้าได้ยินมาว่า หลังจากกษัตริย์พาณดุสิ้นพระชนม์ โอรสน้อย ยุดิชทิระ บิมะ อารจุนะ นะคุละ และสะฮะเดวะ พร้อมพระมารดาม่ายได้มาอยู่ภายใต้การดูแลของดริทะราชทระ ผู้ควรดูแลพวกเขาเสมือนผู้ปกครอง แต่ข้ายังได้ยินอีกว่าดริทะราชทระไม่เพียงแต่ตาบอดโดยกำเนิดเท่านั้น แต่ยังตาบอดในความหลงกับดุรโยดะนะบุตรผู้เหี้ยมโหดของตน พาณดะวะทั้งห้าเป็นโอรสกษัตริย์พาณดุ แต่ดริทะราชทระจัดสันปันส่วนอย่างไม่เป็นธรรมแก่พวกเขา เนื่องจากแผนการณ์และเจตนาที่มุ่งร้าย กรุณาไปที่นั่นและศึกษาดูว่าดริทะราชทระปฏิบัติกับพาณดะวะอย่างไร เมื่อได้รับรายงานจากท่านแล้ว ข้าจะพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไปเพื่อประโยชน์ของพาณดะวะ” เช่นนี้ องค์ภควาน คริชณะ ทรงสั่งอัครูระให้ไปที่ฮัสทินาพุระ จากนั้น ทรงกลับบ้านพร้อมทั้งบะละรามะและ อุดดะวะ
ดังนั้น ขอจบคำอธิบายโดยบัคธิเวดันธะ หนังสือ “องค์ภควาน คริชณะ”
บทที่สี่สิบเจ็ด “คริชณะทำให้สาวกยินดี”