องค์ภควาน คริชณะ

บทที่ 51

คริชณะ ผู้เดินออกจากสนามรบ

เมื่อมุชุคุนดะผู้สืบราชวงศ์ที่มีชื่อเสียงแห่งราชวงศ์อิคชวาคุ ได้รับความชื่นชอบจากคริชณะ ท่านเดินทักษิณาวรรตรอบองค์ภควานภายในถำ้ จากนั้นก็ออกมาจากถำ้ พบว่าความสูงของเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ถดถอยลงจนมาถึงขนาดของคนตัวเตี้ยเล็กอย่างน่าประหลาดใจ และต้นไม้มีขนาดเล็กลงมาก มุชุคุนดะเข้าใจทันทีว่านี่คือคะลิ-ยุกะ ดังนั้น โดยไม่เบี่ยงเบนความตั้งใจ เริ่มเดินไปทางทิศเหนือ ในที่สุดมาถึงภูเขาชื่อ กันดะมาดะนะ สถานที่มีต้นไม้มากมาย เช่น ไม้จันทน์ และไม้ดอกอื่นๆ ที่มีกลิ่นหอม ทำให้ทุกคนที่มาถึงที่นี่มีความสดชื่น ท่านตัดสินใจอยู่ในบริเวณภูเขา กันดะมาดะนะ เพื่อปฏิบัติสมถะและบำเพ็ญเพียรตลอดชีวิต ปรากฏว่าที่นี่อยู่ทางตอนเหนือสุดของภูเขาหิมาลัย ซึ่งเป็นที่พักของ นะระ-นารายะณะ ปัจจุบันเรียกว่าบะดะริคอาชระมะ ณ ที่นี้ ท่านปฏิบัติบูชา องค์ภควาน คริชณะ จนลืมความเจ็บปวด ความสุข และสิ่งคู่ในโลกวัตถุนี้ทั้งหมด คริชณะเสด็จกลับไปบริเวณใกล้เมืองมะทุรา ไปต่อสู้และสังหารทหารของคาละยะวะนะ แล้วเก็บทรัพย์สมบัติจากทหารที่ตายแล้ว จากคำสั่งของพระองค์ได้ขนขึ้นบนเกวียนและนำกลับไปยังเมืองดวาระคา
ขณะเดียวกัน จะราสันดะมาโจมตีมะทุราอีก คราวนี้มาพร้อมกับกองทัพทหารที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมเป็นจำนวนยี่สิบสามอัคโชฮิณี
องค์ภควาน ชรี คริชณะ ปรารถนาป้องกันมะทุราจากการโจมตีครั้งที่สิบแปดจากกองทัพทหารอันยิ่งใหญ่ของกษัตริย์จะราสันดะ เพื่อเลี่ยงการเข่นฆ่าเหล่าทหารและเพื่อไปทำภารกิจสำคัญ องค์ภควาน คริชณะ ออกจากสนามรบไปโดยไม่มีการต่อสู้ ที่จริงคริชณะไร้ความกลัว ทรงแกล้งทำเหมือนมนุษย์ปุถุชนที่ตกใจในกำลังทหารและทรัพยากรอันมหาศาลของจะราสันดะ โดยปราศจากอาวุธ คริชณะทรงออกจากสนามรบ แม้พระบาทรูปดอกบัวจะนุ่มนวลละมุนละไมเหมือนกลีบดอกบัว องค์ภควาน คริชณะ ทรงเดินด้วยพระบาทของพระองค์เป็นระยะทางไกล
คราวนี้จะราสันดะคิดว่าคริชณะและบะละรามะกลัวกำลังทหารของตนมากจึงหนีจากสมรภูมิไป เริ่มติดตามคริชณะและบะละรามะ พร้อมทั้งราชรถ ม้า และกองทหารราบทั้งหมด คิดว่าคริชณะและบะละรามะเป็นคนธรรมดา จะราสันดะพยายามตรวจสอบลีลาขององค์ภควาน คริชณะทรงพระนามว่าแรนโชรจี แปลว่า “ผู้ออกจากสนามรบไป” ในประเทศอินเดียโดยเฉพาะที่กุจะรัทมีวัดคริชณะชื่อแรนโชรจีหลายวัด ทั่วไปหากกษัตริย์ออกจากสนามรบไปโดยไม่ต่อสู้จะถูกเรียกว่าคนขี้ขลาด เมื่อคริชณะแสดงลีลานี้ ออกจากสนามรบไปโดยไม่ต่อสู้คริชณะได้รับการบูชาจากสาวก มารพยายามตรวจสอบความมั่งคั่งของคริชณะ ขณะที่สาวกไม่พยายามตรวจสอบพลังและความมั่งคั่ง แต่จะศิโรราบและบูชาคริชณะเสมอ ปฏิบัติตามรอยพระบาทของสาวกผู้บริสุทธิ์ เรารู้ว่าคริชณะ แรนโชรจี ออกจากสมรภูมิไปมิใช่เนื่องมาจากความกลัว แต่ทรงมีจุดมุ่งหมายอื่น ดังจะเปิดเผยต่อมาว่า คริชณะไปเขียนจดหมายลับเพื่อส่งให้รุคมิณี ว่าที่มเหสีองค์แรก การออกจากสนามรบไปแสดงให้เห็นถึงหนึ่งในความมั่งคั่งหกประการ คริชณะทรงมีอำนาจสูงสุด ร่ารวยที่สุด มีชื่อเสียงสูงสุด ฉลาดที่สุด สง่างามที่สุด และเสียสละที่สุด ชรีมัด-ภควธัม กล่าวชัดเจนว่า คริชณะทรงจากสนามรบไป แม้ยังมีกำลังทหารอยู่มาก แม้ไม่มีกองทหารอาสา คริชณะองค์เดียวก็เอาชนะกองทัพจะราสันดะได้ ดังที่ทำมาแล้วสิบเจ็ดครั้งในอดีต ออกจากสนามรบไปเป็นตัวอย่างความมั่งคั่งสูงสุดของพระองค์ คือการเสียสละ
หลังจากเดินเป็นเวลานาน พี่น้องทั้งคู่แกล้งทำเป็นเหนื่อย เพื่อขจัดความอ่อนเพลีย สองพี่น้องปีนขึ้นไปบนภูเขาสูงเป็นระยะทางหลายไมล์เหนือระดับน้าทะเล ภูเขาลูกนี้ชื่อ พระวารชะณะ มีฝนตกชุกเป็นประจำ บนยอดเขาจึงปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆเสมอที่พระอินทร์เป็นผู้ส่งมา จะราสันดะแน่ใจว่าพี่น้องทั้งคู่กลัวกำลังทหารของตนและหนีไปแอบที่ยอดภูเขา ทีแรกจะราสันดะพยายามตามหา ค้นหาอยู่เป็นเวลานาน เมื่อไม่พบพยายามวางกับดักเพื่อสังหารด้วยการจุดไฟเผารอบๆ ยอดเขา จึงเทน้ามันไปรอบๆ ยอดเขาและจุดไฟ พอเปลวเพลิงลุกลามมากขึ้น คริชณะและบะละรามะกระโดดจากยอดเขาลงมาบนพื้น สูงประมาณแปดสิบแปดไมล์ ดังนั้น ขณะที่ยอดเขากำลังถูกไฟไหม้ คริชณะและบะละรามะหนีออกมาโดยที่จะราสันดะไม่เห็น จึงสรุปว่าพี่น้องทั้งคู่ถูกเผาเป็นจุณไปแล้ว ดังนั้น คงไม่มีการต่อสู้กันอีก คิดว่าตนเองประสบความสำเร็จในความพยายามครั้งนี้ จะราสันดะจากเมืองมะทุราและกลับไปเมืองมะกะดะ ต่อมาคริชณะและบะละรามะมาถึงเมืองดวาระคาที่มีทะเลล้อมรอบ
จากนี้ ชรี บะละรามะ อภิเษกสมรสกับ เรวะที ธิดาของกษัตริย์ ไรวะทะ ผู้ครองเมือง อานารทะ อธิบายในภาคเก้าของชรีมัด-ภควธัม ว่า หลังจากการสมรสของบะละเดวะ คริชณะอภิเษกสมรสกับรุคมิณี ผู้เป็นธิดาของกษัตริย์บีชมะคะซึ่งครองเมืองวิดารบะ ดังที่คริชณะเป็น องค์ภควาน วาสุเดวะ รุคมิณีเป็น มหา-ลัคชมี เทพธิดาแห่งโชคลาภสูงสุด ตามผู้ที่น่าเชื่อถือได้แห่ง เชธันญะ-ชะริทามริทะ กล่าวว่า ภาคแบ่งแยกของคริชณะ และ ชรีมาธี ราดาราณี เป็นไปพร้อมกัน คริชณะแบ่งภาคมาในรูป วิชณุ-ทัททวะ มากมาย และ ชรีมะธี ราดาราณี แบ่งภาคในรูป ชัคทิ-ทัททวะ ด้วยพลังงานเบื้องสูง ดังปรากฏรูปลักษณ์ต่างๆมากมายของเทพธิดาแห่งโชคลาภ
ตามธรรมเนียมพระเวท มีการสมรสอยู่แปดประเภท การสมรสชั้นหนึ่ง ผู้ปกครองเจ้าสาวและเจ้าบ่าวกำหนดวันสมรส พิธีของกษัตริย์เจ้าบ่าวไปบ้านเจ้าสาว อัญเชิญ พราหมณ์ พระ ญาติๆ และยกเจ้าสาวให้เจ้าบ่าว ยังมีระบบอื่นอีก เช่น การสมรสแบบ กานดารวะ และ ราคชะสะ รุคมิณีสมรสกับคริชณะในรูปแบบราคชะสะ เพราะคริชณะฉุดนางต่อหน้าคู่แข่งมากมาย เช่น ชิชุพาละ จะราสันดะ และชาลวะ ขณะกำลังยกรุคมิณีให้่ชิชุพาละ คริชณะฉุดนางจากปรำพิธีสมรสเหมือนพญาครุฑจิกเอาหม้อน้าทิพย์จากหมู่มาร รุคมิณีเป็นธิดาองค์เดียวของกษัตริย์บีชมะคะ ความงามเป็นเลิศ มีฉายาว่า รุชิรา-นะนา แปลว่า “ผู้ที่มีดวงหน้างดงาม เบ่งบานเหมือนดอกบัว”
สาวกคริชณะกระตือรือร้นสดับฟังเกี่ยวกับลีลาทิพย์ขององค์ภควานเสมอ ลีลาการต่อสู้ ฉุดผู้หญิง และหนีออกจากสนามรบ ทั้งหมดเป็นทิพย์อยู่ในระดับสัจธรรม สาวกสนใจแบบทิพย์ในการสดับฟังลีลาเหล่านี้ สาวกผู้บริสุทธิ์ไม่แบ่งแยกลีลาบางประเภทว่าควรฟังและบางลีลาควรหลีกเลี่ยง มีคนกลุ่มหนึ่งที่สมมุติว่าเป็นสาวกเรียกว่า พระคริทะ-สะฮะจิยา สนใจฟังเกี่ยวกับราสะ-ลีลา ของคริชณะกับพวกโกปี มาก และไม่สนใจฟังเกี่ยวกับคริชณะต่อสู้ศัตรู โดยไม่รู้ว่าลีลาดุเดือดก้าวร้าวของคริชณะ และลีลาที่เป็นมิตรของคริชณะกับโกปี อยู่ในระดับทิพย์เท่ากัน เพราะอยู่ในระดับสัจธรรม ลีลาทิพย์ของคริชณะอธิบายใน ชรีมัด-ภควธัม สาวกผู้บริสุทธิ์ได้รับรสอันชื่นใจด้วยการสดับฟังโดยดุษฎี ไม่ปฏิเสธแม้แต่หยดเดียว
เรื่องราวการสมรสของคริชณะและรุคมิณีอธิบายไว้ดังนี้ กษัตริย์แห่งเมือง วิดารบะ มะฮาราจะ บีชมะคะ ทรงเป็นผู้มีคุณสมบัติ เป็นเจ้าชายผู้อุทิศตนเสียสละ มีโอรสห้าองค์และธิดาหนึ่งองค์ โอรสองค์แรกชื่อรุคมี ที่สองรุคมะระทะ ที่สามรุคมะบาฮุ ที่สี่รุคมะเคชะ และ องค์ที่ห้ารุคมะมาลี พี่น้องทั้งห้ามีน้องสาวองค์เดียวชื่อ รุคมิณี มีความงามและบริสุทธิ์ มุ่งหมายจะสมรสกับ องค์ภควาน คริชณะ นักบุญและนักปราชญ์มากมาย เช่น นาระดะ มุนิ มาเยือนราชวังกษัตริย์บีชมะคะเสมอ โดยทั่วไป รุคมิณีมีโอกาสสนทนากับท่านเหล่านี้ จึงได้รับข้อมูลถึงความมั่งคั่งหกประการของ คริชณะ เพียงได้ฟังเกี่ยวกับคริชณะ นางปรารถนาศิโรราบแด่พระบาทรูปดอกบัว และปรารถนาเป็นมเหสี คริชณะได้ยินว่ารุคมิณีเป็นแหล่งกำเนิดแห่งคุณสมบัติทิพย์ เช่น มีปัญญา จิตใจมีเสรี ความงามล้ำเลิศ และความประพฤติมีคุณธรรม คริชณะตัดสินใจว่านางเหมาะมาเป็นมเหสี ญาติๆทั้งหมดของกษัตริย์บีชมะคะตัดสินใจว่าควรยกรุคมิณีให้สมรสกับคริชณะ แม้คนอื่นปรารถนาเช่นนี้แต่รุคมีจะจัดให้นางสมรสกับชิชุพาละศัตรูตัวฉกาจของคริชณะ เมื่อรุคมิณีคนสวยมีดวงตาดำขำได้ยินข้อตกลงนี้ เสียใจมาก ในฐานะธิดากษัตริย์ เข้าใจวิธีเจรจาแบบการเมือง ตัดสินใจว่าเสียใจไปก็ไร้ประโยชน์ ต้องลงมือทำอะไรทันที เมื่อพิจารณาพอสมควร นางตัดสินใจส่งสารให้คริชณะ เพื่ออาจไม่ถูกหลอก ทรงคัดสรรพราหมณ์ที่มีคุณวุฒิเป็นผู้ส่งสาร นางส่งพราหมณ์สาวกของพระวิชณุ ผู้ซื่อสัตย์สุจริต ไปเมืองดวาระคาโดยไม่รอช้า
พอมาถึงประตูเมืองดวาระคา พราหมณ์บอกผู้อารักขาประตูถึงการมาของตน ผู้อารักขาประตูอนุญาตให้เข้าไปที่คริชณะทรงประทับอยู่บนบังลังก์ทอง เพราะพราหมณ์ได้รับโอกาสเป็นผู้ส่งสารของรุคมิณี โชคดีมากที่ได้พบ องค์ภควาน คริชณะ แหล่งกำเนิดเดิมของแหล่งกำเนิดทั้งปวง พราหมณ์เป็นพระอาจารย์ทิพย์ของระดับต่างๆ ในสังคม เพื่อสอนทุกคนเกี่ยวกับมารยาททางพระเวทว่าควรเคารพพราหมณ์อย่างไร องค์ภควาน คริชณะ ทรงลุกขึ้นถวายให้พราหมณ์นั่งบนบัลลังก์ทองทันที แล้วคริชณะเริ่มบูชาพราหมณ์เหมือนเหล่าเทวดาบูชาคริชณะ เช่นนี้ คริชณะทรงสอนทุกคนว่า การบูชาสาวกมีคุณค่ามากกว่าการบูชาพระองค์
ต่อมา พราหมณ์ได้อาบน้า รับประทานอาหาร และไปพักผ่อนยังที่นอนซึ่งประดับไปด้วยผ้าไหมนุ่มนวล ขณะพักผ่อนอยู่ องค์ภควาน ชรี คริชณะ เข้ามาหาอย่างเงียบๆ ด้วยความเคารพยิ่ง คริชณะวางเท้าทั้งสองของพราหมณ์ไว้บนตักของพระองค์ เริ่มนวด และตรัสว่า “พราหมณ์ที่รัก ข้าหวังว่าท่านปฏิบัติตามหลักศาสนาโดยไม่ลำบาก และจิตใจสงบเสมอ” คนระดับต่างๆ ในสังคมมีอาชีพแตกต่างกัน เมื่อถามถึงความเป็นอยู่ของบุคคล ควรถามบนฐานของอาชีพ เมื่อถามถึงความเป็นอยู่ของพราหมณ์ คำถามที่ถามควรใช้คำพูดตามสภาวะชีวิตของผู้นั้น เพื่อไม่รบกวนจิตใจ ใจที่สงบเป็นพื้นฐานของความ ซื่อสัตย์ สุจริต สะอาด เที่ยงตรง ควบคุมตนเองได้ และอดทน ดังนั้น การได้รับความรู้ และรู้วิธีใช้ชีวิต จะมีความมั่นใจในสัจธรรมสูงสุด พราหมณ์รู้ว่าคริชณะทรงเป็นองค์ภควาน ตัวท่านยอมรับการรับใช้ด้วยความเคารพจากองค์ภควานบนพื้นฐานของวัฒนธรรมพระเวท องค์ภควาน คริชณะ แสดงบทบาทเหมือนมนุษย์เพราะทรงอยู่ในวรรณะคชัทริยะ ของระบบสังคม และเป็นเด็กหนุ่ม จึงเป็นหน้าที่ของพระองค์ที่ต้องแสดงความเคารพต่อพราหมณ์รูปนี้
องค์ภควาน คริชณะ ตรัสต่อ “โอ้ ผู้ยอดเยี่ยมในหมู่พราหมณ์ ท่านควรพึงพอใจเสมอ หากพราหมณ์พอใจ จะไม่เบี่ยงเบนจากหน้าที่ที่กำหนดไว้ และเพียงยึดมั่นต่อหน้าที่ที่กำหนดไว้ ทุกคนโดยเฉพาะพราหมณ์สามารถบรรลุถึงความสมบูรณ์สูงสุดแห่งความปรารถนาทั้งปวง แม้บุคคลผู้มีความมั่งคั่งเท่าพระอินทร์เจ้าแห่งสวรรค์ หากไม่พึงพอใจ เขาต้องเปลี่ยนร่างจากดาวเคราะห์ดวงหนึ่งไปสู่อีกดวงหนึ่งอย่างเลี่ยงไม่ได้ บุคคลเช่นนี้ไม่มีวันมีความสุขไม่ว่าภายใต้สถานการณ์ใดๆ แต่หากพึงพอใจ แม้ไม่เป็นเจ้าของอะไรเลย เขาสามารถมีความสุขและอยู่ที่ไหนก็ได้”
คำสอนที่คริชณะให้แก่พราหมณ์นี้สำคัญมาก คำอธิบายคือพราหมณ์ที่แท้จริงไม่ควรถูกรบกวนไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆ ในยุคปัจจุบันหรือคะลิ-ยุกะ ผู้ที่สมมุติว่าเป็นพราหมณ์ ยอมรับสถานภาพอันน่ารังเกียจของชูดระ หรือต่ากว่านั้น และยังจะบอกว่าเป็นพราหมณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่จริง พราหมณ์ผู้ทรงคุณวุฒิจะยึดมั่นต่อหน้าที่เสมอ ไม่ยอมรับหน้าที่ของชูดระ หรือต่ากว่าชูดระ คัมภีร์ที่เชื่อถือได้แนะนำว่า พราหมณ์ผู้อยู่ภายใต้สภาวะอาจรับอาชีพคชัทริยะ หรือแม้แต่ไวชยะ แต่ไม่ยอมรับอาชีพชูดระ คริชณะประกาศว่าพราหมณ์ไม่ควรถูกรบกวนไม่ว่าอยู่ในสภาวะที่ยากลำบากเพียงไร หากยึดมั่นจริงจังในหลักธรรมศาสนา คริชณะตรัสสรุปว่า “ขอแสดงความเคารพแด่พราหมณ์และไวชณะวะ เพราะพราหมณ์พึงพอใจในตนเองเสมอ และไวชณะวะ ปฏิบัติเพื่อความผาสุกของสังคมมนุษย์โดยแท้จริง เป็นเพื่อนดีที่สุดของคนโดยทั่วไป ทั้งคู่เป็นอิสระจากอหังการผิดๆ และมีสภาวะจิตที่สงบสุขเสมอ”
จากนั้น องค์ภควาน คริชณะ ปรารถนาจะรู้เกี่ยวกับผู้บริหาร คชัทริยะ ในเมืองของพราหมณ์ ถามว่าประชาชนแห่งอาณาจักรมีความสุขกันถ้วนหน้าหรือไม่ คุณสมบัติกษัตริย์ตัดสินที่อารมณ์ของผู้คนในอาณาจักร หากประชาชนมีสุขทุกด้าน แสดงว่ากษัตริย์ซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง กษัตริย์ที่ประชากรมีความสุขเป็นที่รักยิ่งของคริชณะ แน่นอนว่าคริชณะเข้าใจว่าพราหมณ์มาพร้อมสารลับ จึงตรัสว่า “หากไม่ขัดข้อง ข้าขอพูดถึงภารกิจของท่าน” พอใจในลีลาทิพย์ขององค์ภควาน พราหมณ์เล่าเรื่องราวทั้งหมดถึงภารกิจที่มาพบคริชณะ นำจดหมายที่รุคมิณีเขียนถึงคริชณะ กล่าวว่า “นี่คือคำพูดของเจ้าหญิงรุคมิณี: ‘คริชณะที่รัก โอ้ผู้ไร้ข้อผิดพลาด สง่างามที่สุด มนุษย์ที่ได้ยินถึงรูปลักษณ์และลีลาทิพย์จะซึมซาบ ในพระนาม พระบารมี และคุณสมบัติของพระองค์ผ่านเข้าไปทางหูทันที เช่นนี้ ความเจ็บปวดทางวัตถุจะบรรเทาลง และยึดเอารูปลักษณ์ทิพย์ตั้งมั่นในหัวใจด้วยใจรักทิพย์ เห็นพระองค์ภายในตนเอง ด้วยวิธีนี้ความปรารถนาทั้งหลายจะได้รับการสนองตอบ ข้าได้ยินถึงคุณสมบัติทิพย์ อาจไม่อายในการแสดงตัวโดยตรงว่าพระองค์ทำให้ข้าหลงใหลและเอาหัวใจข้าไปแล้ว อาจสงสัยว่าข้าเป็นเด็กสาวที่ยังไม่สมรส และสงสัยลักษณะความมั่นคง มุคุนดะที่รัก พระองค์คือพญาราชสีห์สูงสุดในหมู่มนุษย์ สูงสุดในหมู่คนทั้งหลาย จะมีหญิงสาวคนใดแม้ยังไม่เคยออกจากบ้าน ถือพรหมจาริณี ที่ปรารถนาสมรสพระองค์ด้วยหลงใหลในบุคลิกลักษณะ ความรู้ ความมั่งคั่ง และสถานภาพซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน ข้ารู้ว่าพระองค์คือสวามีของเทพธิดาแห่งโชคลาภ และมีความกรุณาต่อสาวกมาก ดังนั้น ข้าตัดสินใจมาเป็นผู้รับใช้นิรันดร องค์ภควานที่รัก ข้าอุทิศชีวิตและวิญญาณแด่พระบาทรูปดอกบัว ข้าเลือกพระองค์มาเป็นสวามี ดังนั้น ขอร้องให้ยอมรับข้าเป็นภรรยา พระองค์มีพลังอำนาจสูงสุด โอ้ ผู้มีดวงตาเหมือนดอกบัว บัดนี้ ข้าเป็นของพระองค์แล้ว หากสิ่งที่พญาราชสีห์กินอย่างมีความสุขแล้วสุนัขจิ้งจอกมาเอาไป จะเป็นเรื่องน่าขัน ขอร้องให้มาช่วยดูแลข้าทันทีก่อนที่ชิชุพาละและเจ้าชาย องค์อื่นๆ ในลักษณะนี้มาพาข้าไป องค์ภควานที่รัก ชาติก่อน ข้าอาจปฏิบัติงานเพื่อสังคม เช่น ขุดบ่อบาดาล ปลูกต้นไม้ หรือทำบุญอื่นๆ เช่น ปฏิบัติพิธีกรรมต่างๆ บูชายัญ และรับใช้ผู้อาวุโส เช่น พระอาจารย์ทิพย์ พราหมณ์ และไวชณะวะ จากกุศลบุญเหล่านี้บางทีข้าทำให้ องค์ภควาน พระนารายณ์ พอพระทัย หากเป็นเช่นนี้จริง ข้าปรารถนาให้ องค์คริชณะ น้องชายของ องค์บะละรามะ โปรดมาที่นี่และจูงมือข้าไปเพื่อข้าจะไม่ถูกชิชุพาละและเพื่อนๆ มาแตะต้อง’ การสมรสระหว่างรุคมิณีและชิชุพาละได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น นางแนะนำให้คริชณะมาฉุดนางไป เพื่อข้อตกลงนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ การสมรสเช่นนี้ การที่หญิงสาวถูกลักพาตัวหรือฉุดไปโดยใช้พละกำลังเรียกว่าราคชะสะ ปฏิบัติกันในหมู่คชัทริยะ หรือในหมู่นักบริหารผู้มีวิญญาณนักรบ เนื่องจากการสมรสของเธอได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วในวันพรุ่งนี้ รุคมิณีจึงแนะนำให้คริชณะปลอมตัวมาฉุดนางไปและต่อสู้กับชิชุพาละและพันธมิตรเช่นกษัตริย์แห่งมะกะดะ ด้วยรู้ดีว่าไม่มีผู้ใดเอาชนะคริชณะได้ คริชณะจะได้รับชัยชนะแน่นอน นางเรียกคริชณะว่า อจิทะ แปลว่า ผู้ไม่มีใครเอาชนะได้ รุคมิณีบอกคริชณะว่าอย่าเป็นห่วงสมาชิกในครอบครัวรวมทั้งหญิงอื่นที่อาจได้รับบาดเจ็บหรือแม้ถูกสังหาร หากมีการต่อสู้เกิดขึ้นภายในราชวัง เหมือนเหล่ากษัตริย์ที่คิดวิธีการเจรจาทางการทูตเพื่อบรรลุจุดมุ่งหมาย รุคมิณีเป็นธิดากษัตริย์ จึงมีชั้นเชิงทางการทูตโดยแนะนำว่าการสังหารกันโดยไม่จำเป็นและไม่พึงปรารถนานี้สามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างไร
นางอธิบายว่าเป็นประเพณีของครอบครัวจะไปเยี่ยมวัดเทพธิดาดุรกา ซึ่งเป็นพระปฏิมาของครอบครัวก่อนวันสมรส (กษัตริย์ คชัทริยะ โดยทั่วไปเป็นไวชณะวะที่มีความภักดี ซื่อสัตย์ บูชาพระวิชณุ ไม่ว่าในรูปลักษณ์ของ ราดา-คริชณะ หรือ ลัคชมี-นารายะณะ แต่เพื่อความผาสุกทางวัตถุ จึงบูชาเทพธิดาดุรกา อย่างไรก็ดี พวกเขาไม่ทำผิดพลาดในการยอมรับว่า เหล่าเทวดาอยู่ในระดับเดียวกับองค์ภควานแห่งวิชณุ-ทัททวะ เหมือนผู้ด้อยปัญญาบางคน) เพื่อหลีกเลี่ยงการเข่นฆ่ากันในหมู่ญาติๆรุคมิณีแนะนำว่า หากคริชณะลักพาตัวนางขณะเดินทางจากราชวังไปวัด หรือขณะที่นางเดินทางกลับบ้านจะง่ายที่สุด
นางอธิบายด้วยว่า ทำไมจึงกระตือรือร้นมาสมรสกับคริชณะ แม้การสมรสของนางจะมีขึ้นกับชิชุพาละ ซึ่งเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกัน ในฐานะเป็นโอรสของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ รุคมิณีกล่าวว่า มิได้คิดว่ามีผู้ใดยิ่งใหญ่ไปกว่าคริชณะ แม้แต่พระศิวะผู้มีชื่อว่ามหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในมวลเทวดา พระศิวะยังแสวงหาความสุขจาก องค์ภควาน คริชณะ เช่นเดียวกัน เพื่อได้รับการจัดส่งตัวจากพันธนาการในคุณสมบัติแห่งอวิชชาภายในโลกวัตถุ แม้พระศิวะทรงเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่มะฮาทมา ทั้งปวง พระองค์ยังให้น้าคงคาบริสุทธิ์ไว้บนพระเศียร น้าคงคาบริสุทธิ์ไหลลงมาจากช่องโหว่ของจักรวาลวัตถุ ซึ่งถูกหัวแม่เท้าของพระวิชณุเจาะ พระศิวะทรงดูแลคุณสมบัติอวิชชาทางวัตถุ เพื่อรักษาตัวพระองค์ให้อยู่ในสถานภาพทิพย์ จึงทำสมาธิอยู่ที่พระวิชณุเสมอ ดังนั้น รุคมิณีทราบดีว่า การทำให้คริชณะชื่นชอบไม่ใช่เรื่องง่าย หากแม้แต่พระศิวะยังต้องทำให้ตัวพระองค์เองบริสุทธิ์เพื่อจุดมุ่งหมายนี้ แน่นอนว่าต้องยากลำบากสำหรับรุคมิณีผู้ซึ่งเป็นเพียงธิดาของกษัตริย์คชัทริยะ ดังนั้น นางปรารถนาอุทิศชีวิตเพื่อปฏิบัติสมถะและบำเพ็ญเพียรอย่างจริงจัง เช่น อดอาหาร และมีชีวิตอยู่โดยไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกทางร่างกาย หากในชีวิตนี้ไม่สามารถทำให้คริชณะชื่นชอบด้วยกิจกรรมเหล่านี้ นางเตรียมพร้อมปฏิบัติสมถะเช่นนี้ทุกๆ ชาติไป ใน ภควัต-คีตา กล่าวว่า สาวกผู้บริสุทธิ์ขององค์ภควานปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้ด้วยความมั่นใจยิ่ง ความมั่นใจเช่นนี้ รุคมิณี-เดวี แสดงให้เห็น จึงเป็นราคาเดียวที่จะซื้อความชื่นชอบจากคริชณะได้ เราจึงควรมีความมั่นใจอย่างมั่นคงในคริชณะจิตสำนึก นั่นคือวิถีแห่งความสำเร็จขั้นสูงสุดในคริชณะจิตสำนึก
หลังจากอธิบายคำพูดของ รุคมิณี-เดวี แด่คริชณะแล้ว พราหมณ์กล่าวว่า “คริชณะที่รัก ผู้นำแห่งราชวงศ์ยะดุ ข้าได้นำสารลับนี้จากรุคมิณีถึงพระองค์ บัดนี้ได้อยู่ต่อหน้าเพื่อให้พิจารณา หลังจากทรงพิจารณาแล้ว ควรมิควรแล้วแต่พระกรุณาธิคุณ หากพระองค์ทรงปรารถนาจะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ต้องลงมือทันที เพราะเวลาเหลือน้อยมาก”
ดังนั้น ขอจบคำอธิบายโดยบัคธิเวดันธะ หนังสือ “องค์ภควาน คริชณะ”
บทที่ห้าสิบเอ็ด “คริชณะ ผู้เดินออกจากสนามรบ”