องค์ภควาน คริชณะ

บทที่ 59

การสนทนาระหว่างคริชณะและรุคมิณี

กาลครั้งหนึ่ง องค์ภควาน ชรี คริชณะ ผู้ประทานความรู้ทั้งหมดแด่มวลชีวิต เริ่มจากพระพรหมลงไปจนถึงมดตัวเล็กๆ ทรงประทับอยู่ในห้องนอนของรุคมิณีผู้ปรนนิบัติรับใช้พระองค์ พร้อมทั้งผู้รับใช้คนอื่นๆ คริชณะทรงประทับอยู่บนเตียงของรุคมิณี และนางสนมอื่นๆ พัดพระองค์ด้วยแส้จามรี (ชามะระ)
สัมพันธภาพระหว่างคริชณะและรุคมิณี ในฐานะเป็นสวามีที่สมบูรณ์เป็นปรากฏการณ์ที่บริบูรณ์แห่งความสมบูรณ์สูงสุดขององค์ภควาน มีนักปราชญ์มากมายที่เสนอแนวคิดว่าสัจธรรมที่สมบูรณ์ องค์ภควานไม่สามารถทำสิ่งนี้หรือสิ่งนั้น พวกเขาปฏิเสธอวตารขององค์ภควานหรือสัจธรรมสูงสุดในรูปลักษณ์มนุษย์ แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น องค์ภควานทรงไม่ขึ้นอยู่กับกิจกรรมของประสาทสัมผัสอันไม่สมบูรณ์ของพวกเรา พระองค์ทรงมีพลังอำนาจทั้งปวงและทรงปรากฏอยู่ทุกหนทุกแห่ง ด้วยความปรารถนาสูงสุด พระองค์ไม่เพียงแต่สร้าง อนุรักษ์ และทำลายปรากฏการณ์ในจักรวาลทั้งหมดเท่านั้น แต่ยังเสด็จลงมาเป็นมนุษย์ธรรมดาเพื่อปฏิบัติภารกิจสูงสุด ดังที่ได้กล่าวไว้ใน ภควัต-คีตา ว่า เมื่อใดที่มีข้อขัดแย้งในการปฏิบัติตามหน้าที่อาชีพการงานของมนุษย์ พระองค์จะเสด็จลงมา ทรงมิได้ถูกบังคับให้ปรากฏด้วยพลังงานเบื้องต่ำ แต่เสด็จลงมาด้วยพลังงานเบื้องสูงเพื่อสถาปนาหน้าที่อันเป็นมาตรฐานแห่งกิจกรรมของมนุษย์ พร้อมทั้งทำลายปัจจัยรบกวนความเจริญก้าวหน้าแห่งอารยธรรมมนุษย์ ตามหลักแห่งลีลาทิพย์ขององค์ภควานนี้ พระองค์เสด็จลงมาในรูปลักษณ์นิรันดร ชรี คริชณะ ซึ่งอยู่ในราชวงศ์ยะดุ
ราชวังของรุคมิณีตกแต่งอย่างสวยงาม มีโคมระย้าแขวนอยู่บนเพดานพร้อมทั้งบัวที่ประดับด้วยพวงมาลัยไข่มุก ทั่วทั้งราชวังเจิดจรัสไปด้วยรัศมีของอัญมณีอันล้าค่า มีสวนดอกไม้มากมาย เช่น เบละ และ ชาเมลิ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมที่สุดในประเทศอินเดีย มีพุ่มดอกไม้เหล่านี้มากมายที่ออกดอกเบ่งบาน ทำให้ราชวังมีความงดงามมากยิ่งขึ้น เนื่องจากกลิ่นหอมพิเศษของดอกไม้เหล่านี้ ทำให้ฝูงผึ้งเล็กๆมาตอมอยู่รอบๆต้นไม้ ตอนกลางคืนแสงจันทร์สาดส่องผ่านเข้ามาทางช่องหน้าต่าง รวมทั้งต้นปาริชาตที่ออกดอกมากมาย ลมอ่อนๆพัดพาเอากลิ่นหอมของดอกไม้เหล่านี้ทำให้หอมอบอวลไปทั่วบริเวณราชวัง กลิ่นธูปจากภายในกำแพงราชวังเล็ดลอดผ่านทางประตูหน้าต่างออกมา ภายในห้องมีผ้าปูเตียงปกคลุมด้วยผ้าสีขาวคล้ายฟองน้านม เตียงมีความนุ่มนวลและมีสีขาวเหมือนกับฟองน้านมเช่นกัน ในสภาวะเช่นนี้ องค์ ชรี คริชณะ ประทับอยู่อย่างสะดวกสบายมาก และทรงเพลิดเพลินอยู่กับการปรนนิบัติของรุคมิณีจีที่มีนางสนมมากมายคอยช่วยเหลือ
รุคมิณีมีความกระตือรือร้นคอยหาโอกาสปรนนิบัติรับใช้องค์ภควานในฐานะสวามี ดังนั้น ปรารถนารับใช้พระองค์ด้วยตนเอง จึงเอาแส้จามรีมาจากมือของนางสนมและเริ่มพัดให้พระองค์ ด้ามแส้ทำมาจากทองคำและประดับด้วยอัญมณีอันล้าค่า พอมาอยู่ในพระหัตถ์ของรุคมิณีแส้จามรีดูสวยงามมากยิ่งขึ้น นิ้วพระหัตถ์ทั้งหมดของรุคมิณีประดับไปด้วยแหวนอัญมณีที่งดงาม พระบาทประดับด้วยกำไลข้อเท้าที่เป็นกระดิ่งและอัญมณีส่งเสียงกระทบกันเบาๆ ระหว่างรอยจีบของส่าหรี หน้าอกอันเต่งตึงของรุคมิณีทาด้วยคุงคุมะและหญ้าฝรั่นสีส้ม แสงสะท้อนจากสีแดงออกมาจากหน้าอกที่ถูกปกคลุม ทำให้รุคมิณีดูงดงามมากยิ่งขึ้น สะโพกส่วนล่างของนางยกสูงขึ้นและประดับไปด้วยอัญมณีคาดโดยรอบ จี้ที่คอส่องรัศมีเจิดจรัส นอกเหนือไปจากนี้ เนื่องจากปรนนิบัติรับใช้ องค์ภควาน คริชณะ แม้ขณะนั้นจะมีอายุมากเพราะมีบุตรโตเป็นหนุ่มแล้ว ความงามบนเรือนร่างของนางยังไม่มีผู้ใดเทียบได้ในสามโลก เมื่อพูดถึงความงามของใบหน้า ปรากฏว่าผมหยักศกบนศีรษะ ต่างหูที่งดงาม รอยยิ้มที่ริมฝีปาก และสร้อยคอทองคำรวมกันเข้าได้โปรยฝนแห่งน้าทิพย์ซึ่งพิสูจน์อย่างแน่นอนว่า รุคมิณีมิใช่ใครอื่นนอกจากเทพธิดาแห่งโชคลาภองค์เดิมผู้ที่คอยปรนนิบัติรับใช้พระบาทรูปดอกบัวของพระนารายณ์ตลอดเวลา
ลีลาของคริชณะและรุคมิณีที่ดวาระคา ผู้น่าเชื่อถือได้ยอมรับว่าเป็นปรากฏการณ์ของพระนารายณ์และเทพธิดาลัคชมี ซึ่งแสดงถึงความมั่งคั่งอันสูงส่ง ลีลาของราดาและคริชณะที่วรินดาวะนะเรียบง่ายแบบชนบทซึ่งแตกต่างจากลักษณะในเมืองหลวงเช่นดวาระคาที่ขัดเกลาแล้ว บุคลิกลักษณะของรุคมิณีมีความเจิดจรัสเป็นพิเศษ คริชณะทรงพึงพอใจมากในความประพฤติของนาง
คริชณะทรงมีประสบการณ์ ครั้งหนึ่ง นาระดะ มุนิ ถวายดอกปาริชาตแด่รุคมิณี สัทยะบามารู้สึกอิจฉามเหสีร่วมสวามี จึงเรียกร้องดอกปาริชาตจากคริชณะทันที อันที่จริง จิตใจของนางไม่สงบจนกว่าคริชณะสัญญาว่าจะให้ปาริชาตทั้งต้น คริชณะทรงทำเช่นนั้นจริง ต้นปาริชาตถูกนำมาบนโลกนี้จากอาณาจักรสวรรค์ หลังจากเหตุการณ์นี้ คริชณะทรงคาดหวังว่าเนื่องจากสัทยะบามาได้ปาริชาตทั้งต้น รุคมิณีคงเรียกร้องบางสิ่งบางอย่าง แต่รุคมิณีมิได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางเงียบขรึมและพึงพอใจในการปรนนิรับใช้เท่านั้น คริชณะทรงปรารถนาเห็นรุคมิณีมีอาการหงุดหงิด ดังนั้น พระองค์ทรงตะโกนเพื่อจะได้เห็นความงามบนใบหน้าของรุคมิณีในสภาพที่หงุดหงิด แม้คริชณะทรงมีมเหสีมากกว่า 16,100 องค์ ทรงปฏิิบัติต่อทุกองค์ด้วยความรักเยี่ยงคนในครอบครัว ทรงสร้างสถานการณ์โดยเฉพาะระหว่างตัวพระองค์และมเหสี ซึ่งทำให้มเหสีวิจารณ์พระองค์ด้วยความหงุดหงิดอันเนื่องมาจากความรัก เช่นนี้ทำให้คริชณะรู้สึกมีความรื่นรมย์ ในกรณีนี้ เนื่องจากคริชณะไม่สามารถจับผิดรุคมิณี เพราะนางปรนนิบัติรับใช้พระองค์อย่างดีตลอดเวลา คริชณะทรงยิ้มและพูดกับนางด้วยความรัก รุคมิณีเป็นธิดาของกษัตริย์ผู้ทรงพลังอำนาจบีชมะคะ ดังนั้น คริชณะไม่เรียกนางว่ารุคมิณี แต่ทรงเรียกว่าเจ้าหญิง “เจ้าหญิงที่รักของข้า น่าแปลกใจมาก เพราะมีบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ในราชวงศ์กษัตริย์มากมายที่ปรารถนาสมรสกับเธอ แม้มิใช่ทุกคนเป็นกษัตริย์ แต่ทั้งหมดมีความมั่งคั่งร่ำรวยเยี่ยงกษัตริย์ มีนิสัยดี การศึกษาสูง มีชื่อเสียงในหมู่กษัตริย์ มีรูปร่างลักษณะสง่างาม และมีคุณสมบัติส่วนตัวดี มีเสรี มีพลังอำนาจมาก และมีความเจริญในทุกๆด้าน พวกเขาเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ยิ่งไปกว่านั้น บิดาและพี่ชายของเธอไม่ปฏิเสธการสมรส ตรงกันข้ามทั้งสองให้คำมั่นสัญญาว่าเธอจะสมรสกับชิชุพาละ ผู้ปกครองของเธอได้อนุญาตแล้ว ชิชุพาละเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ทะเยอทะยานอยาก และคลั่งไคล้กับความงามของเธอมาก หากสมรสกัน ข้าคิดว่าเขาจะเป็บทาสรับใช้ที่ซื่อสัตย์ต่อเธอตลอดกาล
“เมื่อเปรียบเทียบกับคุณสมบัติส่วนตัวของชิชุพาละ ข้าไม่มีอะไรดีเลย และเธอคงรู้แจ้งแล้ว ข้าแปลกใจที่เธอปฏิเสธการสมรสกับชิชุพาละ และมารักข้าผู้ต่ำต้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับชิชุพาละ คิดว่าตัวข้าไม่เหมาะสมมาเป็นสวามีของเธอ เพราะว่าเธอทั้งสวยงามมาก สุขุม เอาจริงเอาจัง และมีจริยธรรมสูงส่ง ข้าขอถามเหตุผลว่าทำไมเธอจึงมารับข้าเป็นสวามี? แน่นอนว่าตอนนี้สามารถเรียกเธอว่ามเหสีคนสวย แต่อยากบอกเธอถึงสถานภาพที่แท้จริงว่า ข้านั้นต่ำต้อยกว่าเจ้าชายทั้งหมดผู้ปรารถนาจะสมรสกับเธอ
“ก่อนอื่น เธออาจรู้ว่าข้ากลัวจะราสันดะมากจนไม่กล้าอยู่บนแผ่นดิน จึงได้ไปสร้างบ้านอยู่ในน้ำใต้ทะเล มิใช่ภารกิจที่ข้าต้องเปิดเผยความลับนี้ต่อผู้ใด แต่เธอต้องรู้ว่าข้าไม่ใช่วีรบุรุษ เป็นคนขลาดและกลัวพวกเขา และข้ายังไม่ปลอดภัยเพราะกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดบนแผ่นดินเป็นปรปักษ์กับข้า ข้าได้สร้างความรู้สึกเป็นศัตรูด้วยการต่อสู้กับพวกเขาหลายด้าน ข้อผิดพลาดอีกอย่างหนึ่งคือ แม้ข้านั่งอยูบนบัลลังก์ที่ดวาระคา แต่อ้างสิทธิ์ไม่ได้ แม้ข้าได้อาณาจักรมาด้วยการสังหารเสด็จลุงคัมสะ อาณาจักรควรตกเป็นของพระอัยกา ดังนั้น ที่จริงข้ามิได้เป็นเจ้าของอาณาจักร นอกจากนั้น ข้ายังไม่มีจุดมุ่งหมายของชีวิตที่แน่นอน ผู้คนไม่สามารถเข้าใจข้าเท่าใดนักว่าอะไรคือจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต? พวกเขารู้ดีว่าข้าคือเด็กเลี้ยงโคที่วรินดาวะนะ ผู้คนคาดหวังว่า ข้าจะเจริญรอยตามพระบาทของพ่อเลี้ยง นันดะ มะฮาราจะ และซื่อสัตย์ต่อ ชรีมะธี ราดาราณี พร้อมทั้งเพื่อนๆของเธอทั้งหมดที่หมู่บ้านวรินดาวะนะ แต่ข้าอำลาจากทั้งหมดมาโดยฉับพลัน ข้าต้องการเป็นเจ้าชายที่มีชื่อเสียง แต่ไม่มีอาณาจักร และข้าไม่สามารถปกครองเหมือนกับเจ้าชาย ผู้คนสับสนเกี่ยวกับจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต พวกเขาไม่รู้ว่าข้าเป็นเด็กเลี้ยงวัวหรือเป็นเจ้าชาย และเป็นบุตรของ นันดะ มะฮาราจะ หรือเป็นบุตรของ วะสุเดวะ เนื่องจากข้าไม่มีจุดมุ่งหมายในชีวิตที่แน่นอน ผู้คนอาจเรียกว่าเป็นคนจรจัด ฉะนั้น ข้าแปลกใจว่าเธอมาเลือกสวามีคนจรจัดผู้นี้ได้อย่างไร
“นอกจากนี้ ข้าไม่พัฒนาเท่าไรแม้แต่มารยาททางสังคม บุคคลควรมีความพึงพอใจอยู่กับภรรยาคนเดียว แต่เธอเห็นว่าข้าได้สมรสหลายครั้ง และมีมเหสีมากกว่า 16,000 องค์ ข้าไม่สามารถทำให้ทั้งหมดพึงพอใจในฐานะที่เป็นสวามีที่ดี ความประพฤติของข้าที่มีต่อพวกนางไม่ค่อยดีนัก และข้ารู้ว่าเธอก็รู้ เช่นนี้ ข้าสร้างสถานการณ์กับเหล่ามเหสี ทำให้ไม่ค่อยได้รับความสุข เพราะตอนเป็นเด็กข้าได้รับการฝึกฝนอยู่ในชนบท ไม่คุ้นเคยกับมารยาทของชีวิตในเมือง ข้าไม่รู้วิธีที่ทำให้ภรรยามีความสุขได้อย่างไร ด้วยการปรนนิบัติหรือด้วยคำพูดที่ไพเราะ และจากประสบการณ์พบว่าผู้หญิงคนไหนที่ปฏิบัติตามวิธีของข้า หรือมาหลงเสน่ห์ข้า ในที่สุดจะถูกปล่อยให้ร้องไห้ตลอดชีวิต ที่วรินดาวะนะมีพวก โกปี มากมายที่หลงรักข้า และบัดนี้ข้าได้จากพวกนางมา แม้ยังมีชีวิตอยู่ แต่ต้องร้องไห้หาข้าจากการที่แยกจากกัน ข้าได้ยินจากอัครูระและอุดดะวะว่า ตั้งแต่ข้าจากวรินดาวะนะมาพวกเพื่อนเด็กชายเลี้ยงวัว พวกโกปี และราดาราณี พร้อมทั้งพ่อเลี้ยง นันดะ มะฮาราจะ ได้แต่ร้องไห้ตลอดเวลาเพราะคิดถึงข้า ข้าได้จากวรินดาวะนะมาอย่างไม่หวนคืนกลับ และบัดนี้มาอยู่กับบรรดาราชินีที่ดวาระคา แต่ข้าปฏิบัติตัวกับพวกเธอไม่เหมาะ ดังนั้น เธอสามารถเข้าใจได้โดยง่ายว่าข้ามีบุคลิกที่ไม่เสมอต้นเสมอปลาย ข้าเป็นสวามีที่เชื่อไม่ได้ ผลแห่งการหลงรักข้าคือจะได้รับชีวิตแห่งความทุกข์ระทมเท่านั้น
“เจ้าหญิงคนสวยที่รัก เธออาจรู้ว่าข้าไม่มีเงินทองติดตัวเลย หลังจากเกิดมาก็ถูกอุ้มให้ไปอยู่ที่บ้านของ นันดะ มะฮาราจะ โดยไม่มีเงิน และถูกเลี้ยงดูเหมือนเด็กเลี้ยงวัว ถึงแม้พ่อเลี้ยงของข้ามีวัวเป็นร้อยๆ พันๆ ตัว ข้ามิได้เป็นเจ้าของแม้แต่ตัวเดียว เพียงแต่ได้รับหน้าที่ให้ดูแลและเลี้ยงดูวัวเท่านั้น แต่มิใช่เจ้าของ ที่นี่ก็เหมือนกัน ข้าไม่ใช่เจ้าของสิ่งใด และไม่มีเงินทองเลย ไม่มีเหตุผลที่ต้องเสียใจในสภาพที่ไม่มีเงินเช่นนี้ ข้าไม่เคยเป็นเจ้าของสิ่งใดในอดีต ฉะนั้น ทำไมจึงต้องเสียใจที่ไม่ได้เป็นเจ้าของสิ่งใดในปัจจุบัน? เธออาจสังเกตได้ว่าสาวกของข้าเป็นคนที่ไม่มีความมั่งคั่งมากนัก พวกเขายากจนมากกับสิ่งของทางโลกด้วยเช่นกัน พวกที่รวยและเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางโลกมาก จะไม่สนใจในการอุทิศตนเสียสละรับใช้ต่อข้า หรือในคริชณะจิตสำนึก ในทางตรงกันข้าม เมื่อผู้ใดยากจนไม่ว่าด้วยถูกบังคับหรือด้วยสถานการณ์ ผู้นั้นอาจสนใจในตัวข้าหากมีโอกาสดี บุคคลที่ภูมิใจในความร่ำรวยของตนแม้ได้รับเชิญให้มาคบหาสมาคมกับสาวก จะไม่ฉวยโอกาสในจิตสำนึกแห่งข้านี้ อีกนัยหนึ่ง ชนชั้นที่ยากจนกว่าอาจมีความสนใจในตัวข้าบ้าง แต่ชนชั้นที่ร่ำรวยจะไม่สนใจ ดังนั้น ข้าคิดว่าไม่ฉลาดเลยที่มาเลือกข้า เธอดูเหมือนว่าเป็นคนฉลาดมาก ได้รับการฝึกฝนจากบิดาและพี่ชายมาอย่างดี แต่ในที่สุดเธอทำผิดอย่างใหญ่หลวงในการเลือกคู่ชีวิต
“แต่ไม่เสียหายอะไร เพราะทำสายดีกว่าไม่ทำ เธอมีเสรีภาพในการเลือกสวามีที่เหมาะสม ผู้มีความทัดเทียมกับเธอในความมั่งคั่ง ประเพณี ครอบครัว ทรัพย์สมบัติ ความสง่างาม การศึกษา ในทุกๆด้านจริงๆ สิ่งที่เธอทำผิดพลาดอาจลืมมันไปได้ บัดนี้อาจเลือกทางเดินแห่งชีวิตที่ดีงามสำหรับตัวเธอ โดยทั่วไป ผู้คนจะไม่มีความสัมพันธ์ทางวัตถุกับบุคคลที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าสถานภาพของตน โอ้ ธิดาสาวของกษัตริย์แห่งวิดารบะที่รัก ข้าคิดว่าเธอมิได้พิจารณาอย่างฉลาดหลักแหลมก่อนสมรส ดังนั้น จึงเลือกคู่ผิดที่ได้ข้ามาเป็นสวามี เธอได้ยินมาอย่างผิดๆ ว่าข้ามีบุคลิกที่สูงส่งแม้อันที่จริง ข้าไม่ดีไปกว่าขอทาน โดยไม่เคยเห็นข้าและสถานภาพอันแท้จริงของข้า เพียงแต่ได้ยินเกี่ยวกับข้า เธอก็เลือกมาเป็นสวามี เช่นนี้เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ฉะนั้น ข้าขอแนะนำเธอว่าทำสายดีกว่าไม่ทำ บัดนี้เธอสามารถเลือกหนึ่งในเจ้าชาย คชัทริยะ ผู้ยิ่งใหญ่ ยอมรับเขาให้เป็นคู่ชีวิต และปฏิเสธข้าได้เลย”
คริชณะเสนอให้รุคมิณีหย่าร้างกับพระองค์ในขณะที่มีบุตรโตเป็นหนุ่มหลายคนแล้ว ดังนั้น ข้อเสนอของคริชณะเป็นสิ่งที่คิดไม่ถึง ตามวัฒนธรรมพระเวทไม่มีการแยกทางกันด้วยการหย่าร้างระหว่างสามีภรรยา แล้วรุคมิณีทำไม่ได้เมื่อมีอายุมากปานนี้ หลังจากที่มีบุตรชายสมรสไปแล้วหลายคน ข้อเสนอของคริชณะทุกข้อ สำหรับรุคมิณีดูเหมือนเป็นข้อเสนอบ้าๆ นางแปลกใจที่คริชณะพูดออกมาเช่นนี้ได้อย่างไร ด้วยความเป็นคนเรียบง่าย ความวิตกของนางจึงเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ กับความคิดที่ต้องแยกทางกับคริชณะ
คริชณะตรัสต่อ “ในที่สุดเธอต้องเตรียมตัวสำหรับชาติหน้า ดังนั้น ข้าขอแนะนำให้เธอเลือกคนที่สามารถช่วยเธอได้ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า เพราะข้าไม่สามารถช่วยเธอได้เลย เจ้าหญิงคนสวยที่รัก เธอรู้ว่าสมาชิกเจ้าชายในราชวงศ์ทั้งหมดรวมทั้ง ชิชุพาละ ชาลวะ จะราสันดะ ดันทะวะคระ และแม้แต่รุคมีพี่ชายของเธอเอง ทั้งหมดเป็นศัตรู พวกเขาไม่ชอบข้าแม้แต่น้อย เกลียดข้าเข้ากระดูก เจ้าชายเหล่านี้ผยองมากกับความเป็นเจ้าของวัตถุ และไม่มีเยื่อใยแม้แต่นิดเดียวกับผู้ที่มาหาเขา เพื่อเป็นการสั่งสอนบทเรียนให้ ข้าจึงตกลงลักพาตัวเธอตามที่เธอปรารถนา อันที่จริง ข้าไม่มีความรักต่อเธอเลย แม้เธอจะรักข้าก่อนแต่งงาน
“ดังที่ได้อธิบายไว้แล้วว่าข้าไม่สนใจในชีวิตครอบครัวหรือความรักระหว่างสามีภรรยา โดยธรรมชาติข้าไม่ชอบชีวิตครอบครัว ภรรยา ลูก หลาน บ้าน และความมั่งคั่ง เหมือนกับสาวกของข้าที่ไม่สนใจเป็นเจ้าของสิ่งของวัตถุทั้งหลาย ข้าก็เช่นเดียวกัน อันที่จริง ข้าสนใจในความรู้แจ้งแห่งตน เพราะจะให้ความสุขแก่ข้าซึ่งไม่ใช่ชีวิตครอบครัวแบบนี้” หลังจากกล่าวเช่นนี้แล้ว คริชณะทรงหยุดทันที
ผู้ที่น่าเชื่อถือได้ ชุคะเดวะ โกสวามี สังเกตุเห็นว่าคริชณะทรงใช้เวลาอยู่กับรุคมิณีเสมอ และรุคมิณีรู้สึกภูมิใจว่าโชคดีมากที่คริชณะไม่เคยจากนางไปแม้แต่นาทีเดียว อย่างไรก็ดี คริชณะทรงไม่ชอบสาวกที่มีความภาคภูมิใจ ทันทีที่เป็นเช่นนั้นด้วยกุศโลบายทรงตัดความภูมิใจนั้นเสีย ในกรณีนี้เช่นกัน คริชณะทรงกล่าวหลายสิ่งหลายอย่างซึ่งทำให้รุคมิณีไม่สามารถรับฟังได้ นางสรุปได้ว่าถึงแม้ภูมิใจในตำแหน่งอยู่ขณะนี้ แต่คริชณะอาจจากนางไปเมื่อไรก็ได้
รุคมิณีรู้ว่าสวามีของนางไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่เป็น องค์ภควาน พระผู้เป็นเจ้าของทั้งสามโลก วิธีที่พระองค์ตรัส นางรู้สึกกลัวว่าจะต้องแยกจากพระองค์ไป เพราะไม่เคยได้ยินคำพูดที่รุนแรงจากคริชณะเช่นนี้มาก่อน ดังนั้น นางจึงสับสนด้วยความกลัวที่ต้องแยกจากกัน หัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้น ไม่ตอบโต้คริชณะแม้แต่เพียงคำเดียว ได้แต่ร้องไห้ด้วยความวิตกกังวลมาก ประหนึ่งถูกลากลงไปสู่มหาสมุทรแห่งความโศกเศร้า นางใช้เล็บเท้าข่วนพื้นอย่างเงียบๆทำให้สะท้อนสีแดงบนพื้น น้าตาสีชมพูจากดวงตาผสมกับเครื่องสำอางสีดำจากขอบตา และน้าที่หยดลงมาล้างคุงคุมะและหญ้าฝรั่นจากหน้าอก นางกล้ากลืนด้วยความวิตกมากเกินไป จนไม่สามารถเอ่ยปากแม้เพียงคำเดียว ก้มศีรษะลงและยืนตัวแข็งทื่อเหมือนกับท่อนไม้ เนื่องจากกลัวความเจ็บปวดและความเศร้าโศกเสียใจอย่างสุดขีดนี้ รุคมิณีสูญเสียพลังแห่งเหตุผลทั้งหมด รู้สึกอ่อนเพลียมาก บัดดลนั้นร่างกายของนางน้ำหนักลดลงไปมาก จนกำไลมือหลวมและแส้จามรีที่นางใช้พัดให้คริชณะหลุดออกไปจากมือทันที สมองและความจำสับสน นางหมดสติ ผมที่แต่งไว้อย่างงดงามกระจัดกระจาย นางล้มลง ตัวแข็งทื่อเหมือนต้นกล้วยที่ถูกตัดให้ล้มลงด้วยแรงพายุ
คริชณะรู้ทันทีว่ารุคมิณีมิได้คิดว่าพระองค์ทรงพูดเล่น นางรู้สึกจริงจังต่อคำพูดของคริชณะมาก ด้วยความวิตกกังวลอย่างสุดขีดที่ต้องจากพระองค์ไปในทันที จึงทำให้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ องค์ภควาน ชรี คริชณะ โดยธรรมชาติมีความรักต่อสาวกมาก เมื่อเห็นสภาพของรุคมิณีเช่นนี้ ทรงใจอ่อนทันที รู้สึกเมตตาสงสารนาง ความสัมพันธ์ระหว่างรุคมิณีและคริชณะเหมือนกับลัคชมีและพระนารายณ์ ดังนั้น ทรงปรากฏในรูปพระนารายณ์สี่กรต่อหน้ารุคมิณี ทรงลงมาจากเตียงใช้แขนอุ้มนางและวางพระหัตถ์อันเยือกเย็นลงบนใบหน้าของนาง จัดผมที่กระจัดกระจาย คริชณะทรงเช็ดหน้าอกที่เปียกชุ่มของรุคมิณีด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ เข้าใจถึงความจริงจังในความรักที่รุคมิณีมีต่อพระองค์ คริชณะทรงโอบนางไว้ที่ทรวงอก
องค์ภควานทรงมีความชำนาญในการเรียบเรียงคำพูดที่ทำให้บุคคลมีความเข้าใจอย่างมีเหตุผล ทรงพยายามถอนคำพูดที่ได้กล่าวแก่นางทั้งหมด คริชณะทรงเป็นที่พึ่งเดียวของสาวก ดังนั้น ทรงทราบดีว่าจะทำให้สาวกผู้บริสุทธิ์พึงพอใจได้อย่างไร คริชณะทรงเข้าใจว่ารุคมิณีไม่สามารถทำตามคำพูดเล่นของพระองค์ได้ เพื่อปัดเป่าความสับสน ทรงเริ่มตรัสอีกครั้งดังนี้
“ธิดาแห่งกษัตริย์วิดารบะที่รัก รุคมิณีที่รักของข้า กรุณาอย่าเข้าใจข้าผิด โปรดอย่าทำกับข้าอย่างไร้เมตตาเช่นนี้ ข้ารู้ว่าเธอยึดมั่นต่อข้าด้วยความจริงใจและจริงจัง เธอเป็นคู่ชีวิตนิรันดรของข้า คำพูดที่มีผลกระทบต่อเธออย่างมากนั้นไม่เป็นความจริง ข้าต้องการทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และหวังว่าเธอจะโต้ตอบกับคำพูดเล่นเหล่านี้ แต่โชคไม่ดีที่เธอถือเป็นเรื่องจริงจัง ข้ารู้สึกเสียใจมาก คาดว่าริมฝีปากสีแดงของเธอจะสั่นด้วยความโกรธเมื่อได้ยินคำพูดของข้า แล้วเธอจะต้องต่อว่าข้ามากมาย โอ้ ผู้มีความสมบูรณ์ในความรัก ข้าไม่เคยคิดว่าเธอจะมาอยู่ในสภาวะเช่นนี้ หวังว่าเธอจะมองข้าด้วยตากระพริบเพื่อแก้เผ็ด เช่นนี้ ข้าจะได้เห็นดวงหน้าอันสวยงามของเธอในอารมณ์โกรธ
“ภรรยาคนสวยที่รัก เธอรู้ว่าเราเป็นคฤหัสถ์ และมีภารกิจมากอยู่ในบ้านเสมอ ดังนั้น จึงอยากมีเวลาหาความสุขด้วยการพูดเล่นกัน นั่นคือเกมสูงสุดของเราในชีวิตคฤหัสถ์ อันที่จริง คฤหัสถ์ทำงานหนักมากทั้งวันทั้งคืน แต่ความเหนื่อยล้าทั้งหมดที่ทำงานมาทั้งวันจะหายไปสิ้น ทันทีที่สามีภรรยามาอยู่ด้วยกันและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในหลายๆด้าน” คริชณะทรงปรารถนาแสดงตัวของพระองค์เองให้เหมือนกับคฤหัสถ์ธรรมดาทั่วไปที่หาความสุขด้วยการพูดเล่นกับภรรยา ดังนั้น ทรงขอร้องหลายครั้งให้รุคมิณีอย่าถือสากับคำพูดเล่นของพระองค์
เช่นนี้ เมื่อคริชณะทรงทำให้รุคมิณีผ่อนคลายด้วยคำพูดที่หวานชื่น นางเข้าใจว่าที่คริชณะตรัสก่อนหน้านี้มิได้หมายความเช่นนั้นจริง แต่พูดเล่นเพื่อทำให้เกิดความสุขระหว่างสามีภรรยา นางมีความรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของคริชณะ ค่อยๆผ่อนคลายจากความกลัวทั้งหมดที่ต้องแยกจากกัน เริ่มมองไปที่ใบหน้าของคริชณะด้วยความดีใจอย่างยิ่ง ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มตามธรรมชาติ รุคมิณีกล่าวว่า “องค์ภควานผู้มีดวงตารูปดอกบัวที่รัก ที่พระองค์ตรัสว่าเราไม่ใช่คู่สร้างคู่สมกันนั้นถูกต้องแน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะเสมอภาคกับพระองค์ เพราะพระองค์ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของคุณสมบัติทั้งหมด เป็นองค์ภควานผู้ไร้ขีดจำกัด แล้วข้าจะเหมาะสมเป็นคู่ของพระองค์ได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้ที่เปรียบเทียบกับพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าแห่งความยิ่งใหญ่ทั้งหมด ผู้ควบคุมสามระดับแห่งธรรมชาติวัตถุ ทรงเป็นผู้ที่เทวดาผู้ยิ่งใหญ่เช่นพระพรหมและพระศิวะบูชา สำหรับตัวข้าคือผลผลิตของสามระดับแห่งธรรมชาติวัตถุ สามระดับแห่งธรรมชาติวัตถุเป็นอุปสรรคแห่งความเจริญก้าวหน้าในการอุทิศตนเสียสละรับใช้ เมื่อไดและที่ไหนข้าจะเหมาะสมเป็นคู่ครองของพระองค์? สวามีที่รัก พระองค์กล่าวอย่างถูกต้องแล้วเช่นกันว่า ทรงกลัวเหล่ากษัตริย์จึงมาพึ่งอยู่ในน้ำใต้ทะเล แต่ผู้ใดคือเจ้าหรือกษัตริย์แห่งโลกวัตถุนี้? ข้าไม่คิดว่าพวกที่สมมุติว่าอยู่ในครอบครัวราชวงศ์เหล่านี้เป็นเจ้าแห่งโลกวัตถุ เจ้าแห่งโลกวัตถุคือสามระดับแห่งธรรมชาติวัตถุ เพราะเป็นผู้ควบคุมโลกวัตถุนี้โดยแท้จริง พระองค์ทรงสถิตที่ขั้วหัวใจของทุกๆชีวิต ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระองค์ทรงอยู่เหนือการสัมผัสของสามระดับแห่งธรรมชาติวัตถุอย่างสมบูรณ์ โดยไม่ต้องสงสัย
“พระองค์ตรัสว่าทรงเป็นศัตรูกับเหล่ากษัตริย์ในโลกวัตถุเสมอ แต่ใครคือกษัตริย์ในโลกวัตถุ? ข้าคิดว่ากษัตริย์หรือเจ้าแห่งโลกวัตถุคือประสาทสัมผัสซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวมากที่สุด ประสาทสัมผัสควบคุมทุกๆ ชีวิต แน่นอนว่าพระองค์ทรงเป็นศัตรูกับประสาทสัมผัสวัตถุเหล่านี้ พระองค์ทรงไม่เคยมาอยู่ภายใต้การควบคุมของประสาทสัมผัส แต่ทรงเป็นผู้ควบคุมประสาทสัมผัสฮริชีเคชะ องค์ภควาน ที่รัก พระองค์ตรัสว่าทรงปราศจากพระราชอำนาจทั้งหลาย นั่นถูกต้องเช่นเดียวกัน ไม่เพียงแต่พระองค์เท่านั้นที่ปราศจากความยิ่งใหญ่ทางวัตถุ แม้แต่ผู้รับใช้ที่มายึดมั่นอยู่ที่พระบาทรูปดอกบัวของพระองค์ ก็ยกเลิกความทะเยอทะยานทางโลกวัตถุเช่นเดียวกัน เพราะพิจารณาว่า ตำแหน่งหรือสถานภาพทางวัตถุเหมือนกับดินแดนที่มืดสนิทซึ่งเป็นสิ่งกีดขวางความก้าวหน้าในการรู้แจ้งทิพย์ แม้แต่ผู้รับใช้ยังไม่ชอบความยิ่งใหญ่ทางวัตถุ แล้วตัวพระองค์เองจะชอบได้อย่างไร? องค์ภควานที่รัก ที่ตรัสว่า พระองค์ไม่ปฏิบัติตนเหมือนบุคคลธรรมดาที่มีจุดมุ่งหมายของชีวิตโดยเฉพาะ ถูกต้องอย่างสมบูรณ์เช่นเดียวกัน แม้แต่สาวกหรือผู้รับใช้ยอดเยี่ยมผู้เป็นนักบวชและนักบุญ อยู่ในสภาพที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ถึงจุดมุ่งหมายของชีวิต สังคมมนุษย์พิจารณาว่าท่านเหล่านี้เป็นคนบ้าและถากถางสังคม จุดมุ่งหมายชีวิตของพวกท่านยังเป็นสิ่งเร้นลับสำหรับมนุษย์ธรรมดาทั่วไป มนุษย์ในระดับต่ำสุดจะไม่สามารถรู้ถึงพระองค์หรือรู้ถึงผู้รับใช้ของพระองค์ มนุษย์ผู้มีมลทินไม่สามารถแม้แต่จะจินตนาการถึงลีลาของพระองค์และสาวก โอ้ ผู้ไร้ขอบเขตจำกัด เมื่อกิจกรรมและความพยายามของสาวกยังเป็นเรื่องเร้นลับของมนุษย์ธรรมดา แล้วจะเข้าใจแรงกระตุ้นและความพยายามของพระองค์ได้อย่างไร? พลังงานและความมั่งคั่งทั้งหมดถูกใช้ไปในการรับใช้พระองค์ แต่พวกท่านยังมีพระองค์เป็นที่พึ่ง
“ทรงอธิบายว่าตัวพระองค์ไม่มีเงิน แต่สภาพเช่นนี้ไม่ใช่ความจน เพราะทุกสิ่งที่ปรากฏอยู่ทั้งหมดคือตัวพระองค์ ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสิ่งใด พระองค์เองคือทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งไม่เหมือนกับคนอื่น ไม่จำเป็นต้องซื้อสิ่งใดที่ไม่พึงประสงค์ สิ่งที่ตรงข้ามทั้งหมดสามารถปรับได้เพราะพระองค์ทรงสมบูรณ์ ไม่เป็นเจ้าของสิ่งใดแต่ไม่มีผู้ใดรวยไปกว่าพระองค์ ในโลกวัตถุไม่มีผู้ใดเป็นคนรวยโดยไม่เป็นเจ้าของ เนื่องจากพระองค์ทรงสมบูรณ์ ทรงสามารถปรับสิ่งที่ตรงกันข้ามในการไม่เป็นเจ้าของสิ่งใด แต่ในขณะเดียวกันเป็นคนรวยที่สุด คัมภีร์พระเวทกล่าวว่า ถึงแม้พระองค์ไม่มีพระหัตถ์ไม่มีพระบาทที่เป็นวัตถุ แต่ทรงสามารถรับทุกสิ่งทุกอย่างที่สาวกถวายให้ด้วยการอุทิศตนเสียสละได้ ทรงไม่มีพระเนตรและไม่มีพระกรรณที่เป็นวัตถุ แต่พระองค์สามารถเห็นและได้ยินทุกสิ่งทุกอย่างทั่วทุกหนแห่ง แม้ทรงไม่เป็นเจ้าของสิ่งใด เหล่าเทวดาผู้ยิ่งใหญ่ที่ผู้อื่นถวายบทมนต์และบูชา ยังมาบูชาพระองค์เพื่อขอพระเมตตา แล้วจะจัดว่าทรงอยู่ในกลุ่มคนยากจนได้อย่างไร?
“องค์ภควานที่รักของข้า พระองค์ตรัสว่า พวกที่รวยที่สุดในสังคมมนุษย์จะไม่บูชาพระองค์ ถูกต้องเช่นเดียวกัน เพราะบุคคลผู้ผยองกับความเป็นเจ้าของวัตถุคิดใช้ทรัพย์สมบัติเพื่อสนองประสาทสัมผัส เมื่อคนจนกลายมาเป็นคนรวยจะจัดหาวิธีเพื่อสนองประสาทสัมผัส เช่นนี้เนื่องจากไม่รู้ว่าเงินที่หามาได้โดยยากลำบากควรใช้ไปอย่างไร อยู่ภายใต้มนต์สะกดของพลังงานเบื้องต่ำ คิดว่าเงินทองควรใช้ไปอย่างเหมาะสมเพื่อสนองประสาทสัมผัส ดังนั้น จึงปฏิเสธถวายการรับใช้ทิพย์ องค์ภควานที่รัก พระองค์ตรัสว่าบุคคลผู้ไม่เป็นเจ้าของสิ่งใดเป็นที่รักยิ่งของพระองค์ สละทุกสิ่งทุกอย่าง สาวกปรารถนาจะได้พระองค์เท่านั้น ข้าเห็นว่านักบวชผู้ยิ่งใหญ่เช่น นาระดะ มุนิ ไม่เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติทางวัตถุ แต่เป็นที่รักยิ่งของพระองค์ บุคคลเช่นนี้ไม่สนใจสิ่งใดนอกจากตัวพระองค์
“องค์ภควานที่รัก พระองค์ตรัสว่าการสมรสระหว่างบุคคลที่มีสถานภาพทางสังคมทัดเทียมกัน เช่น ความงาม ความร่ำรวย อำนาจ อิทธิพล และการเสียสละควรให้เหมาะสมกัน แต่สภาวะชีวิตเช่นนี้เป็นไปได้ด้วยพระกรุณาธิคุณของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นแหล่งกำเนิดที่สมบูรณ์สูงสุดของความมั่งคั่งทั้งปวง ไม่ว่าผู้ใดที่มีสถานภาพชีวิตมั่งคั่งแค่ไหน ทั้งหมดได้รับมาจากพระองค์ อธิบายไว้ใน เวดานธะ-สูทระ ว่า จันมาดยัสยะ ยะทะฮ พระองค์ทรงเป็นแหล่งกำเนิดสูงสุดที่ทุกสิ่งทุกอย่างออกมา ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของความสุขทั้งปวง ดังนั้น บุคคลผู้มีปัญญาจะปรารถนาบรรลุถึงพระองค์เท่านั้น ไม่ปรารถนาสิ่งอื่นใด เพื่อให้พระองค์ชื่นชอบ จึงยกเลิกทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ความรู้แจ้งทิพย์แห่งบระฮมัน พระองค์ทรงเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของผลประโยชน์ทั้งหมดของสิ่งมีชีวิต พวกที่มีแรงบันดาลใจที่ดีโดยแท้จริงปรารถนาเพียงพระองค์เท่านั้น ด้วยเหตุผลนี้ จึงยอมยกเลิกทุกสิ่งทุกอย่างและประสบความสำเร็จ ดังนั้น พวกเขาควรได้มาอยู่ใกล้ชิดกับพระองค์ในสังคมของผู้รับใช้และผู้รับการรับใช้ในคริชณะจิตสำนึก มาเป็นผู้ที่ไม่อยู่ภายใต้ความเจ็บปวดและความสุขแห่งสังคมวัตถุ ซึ่งดำเนินไปในความหลงใหลอยู่ในเพศสัมพันธ์ ฉะนั้น ทุกๆคนทั้งชายและหญิงควรแสวงหาที่จะอยู่ใกล้ชิดกับสังคมของผู้รับใช้และผู้รับการรับใช้ พระองค์ทรงเป็นองค์ภควาน ไม่มีผู้ใดยิ่งใหญ่ไปกว่าและไม่มีผู้ใดสามารถมาอยู่ในระดับเดียวกันกับพระองค์ ระบบสังคมที่สมบูรณ์คือมีองค์ภควานเป็นศูนย์กลาง เป็นผู้รับการรับใช้ในฐานะบุคคลสูงสุด และคนอื่นๆทั้งหมดปฏิบัติในฐานะเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ ในสังคมที่มีโครงสร้างสมบูรณ์เช่นนี้ ทุกๆชีวิตจะอยู่อย่างมีความสุขและปลื้มปีตินิรันดร
“โอ้ องค์ภควาน พระองค์ตรัสว่าขอทานเท่านั้นที่สรรเสริญพระบารมีของพระองค์ ถูกต้องอย่างสมบูรณ์เช่นเดียวกัน แต่ใครคือขอทานเหล่านั้น? ขอทานเหล่านั้นคือสาวกผู้สูงส่งทั้งหมด บุคลิกภาพผู้มีอิสระภาพ พวกอยู่ในระดับชีวิตสละโลกทั้งหมดเป็นดวงวิญญาณยิ่งใหญ่ สาวกผู้ไม่มีภารกิจอื่นใดนอกจากสรรเสริญพระองค์ ดวงวิญญาณยิ่งใหญ่เหล่านี้ให้อภัยแม้แต่ผู้กระทำผิดที่เลวร้ายที่สุด พวกที่สมมุติว่าเป็นขอทานเหล่านี้ ปฏิบัติเพื่อความเจริญก้าวหน้าในชีวิตทิพย์ อดทนต่อความยากลำบากทั้งปวงในโลกวัตถุ สวามีที่รัก อย่าคิดว่าเนื่องจากข้าไม่มีประสบการณ์จึงรับพระองค์มาเป็นสวามี อันที่จริง ข้าได้ปฏิบัติตามดวงวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายเหล่านี้ ข้าปฏิบัติตามวิถีทางของพวกขอทานผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ และได้ตัดสินใจที่จะศิโรราบชีวิตใต้เบื้องพระบาทรูปดอกบัวของพระองค์
“พระองค์ตรัสว่า ทรงไม่มีเงิน นั่นก็ถูกต้อง พระองค์ทรงแจกจ่ายตัวพระองค์เองอย่างสมบูรณ์แด่ดวงวิญญาณและสาวกผู้ยอดเยี่ยมเหล่านี้ เมื่อรู้ความจริงเช่นนี้ ข้าจึงปฏิเสธแม้แต่บุคลิกภาพผู้ยิ่งใหญ่ เช่น พระพรหม และพระอินทร์ องค์ภควานที่รัก กาลเวลาที่ยิ่งใหญ่ดำเนินไปภายใต้คำสั่งของพระองค์เท่านั้น กาลเวลานั้นยิ่งใหญ่และมีพลังมากจนเพียงไม่กี่นาทีสามารถมีผลกระทบในการทำลายล้างที่ใดก็ได้ภายในการสร้าง เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยทั้งหลายเหล่านี้ ข้าคิดว่า จะราสันดะ ชิชุพาละ และเจ้าชายองค์อื่นๆ ในลักษณะเดียวกันนี้ที่ปรารถนาสมรสกับข้า ทั้งหมดไม่มีความสำคัญมากไปกว่าแมลงธรรมดา
“โอ้ บุตรวะสุเดวะผู้ทรงพลังทั้งปวง พระองค์ตรัสว่า ทรงมาพักพิงอยู่ในน้ำใต้มหาสมุทร ด้วยความกลัวเจ้าชายผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายก็เหมาะสม แต่ประสบการณ์ของข้าที่มีกับพระองค์นั้นตรงกันข้าม ความจริงข้าได้เห็นพระองค์ฉุดตัวข้าด้วยการใช้กำลังต่อหน้าเจ้าชายทั้งหลายเหล่านั้นในพิธีสมรส เพียงแต่ดึงสายธนูเท่านั้น พระองค์สามารถขับไล่พวกเขาไปโดยง่ายดาย และได้กรุณาให้ข้ามาพึ่งพระบาทรูปดอกบัว ข้ายังจำได้อย่างชัดเจนว่าพระองค์ทรงฉุดตัวข้าเหมือนกับพญาราชสีห์มาเอาส่วนแบ่งเหยื่อ โดยใช้กำลังขับไล่สัตว์น้อยตัวอื่นๆทั้งหมดไป ภายในพริบตา
“องค์ภควานผู้มีดวงตารูปดอกบัวที่รัก ข้าไม่เข้าใจคำพูดที่พระองค์ตรัสว่าผู้หญิงและบุคคลอื่นๆ ที่มาพึ่งพิงอยู่ภายใต้พระบาทรูปดอกบัวของพระองค์จะใช้เวลาไปวันๆ ด้วยความทุกข์ระทมเท่านั้น จากประวัติศาสตร์โลกเราพบว่าเจ้าชายเช่น อังกะ พริทุ บะระทะ ยะยาทิ และ กะยะ ทั้งหมดเป็นจักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลก และมีสถานภาพสูงส่งจนไร้คู่แข่ง แต่เพื่อให้พระบาทรูปดอกบัวของพระองค์ทรงชื่นชอบ พวกท่านได้สละสถานภาพอันสูงส่งและเข้าไปในป่าเพื่อฝึกปฏิบัติความเพียรและสมถะ เมื่อยินดีเต็มใจอาสามารับสถานภาพเช่นนี้ ด้วยการรับเอาพระบาทรูปดอกบัวของพระองค์มาเป็นที่พึ่งสูงสุด หมายความว่า พวกท่านมาอยู่ในสภาพที่มีแต่ความเศร้าโศกและทุกข์ระทมเช่นนั้นหรือ?
“องค์ภควานที่รักของข้า พระองค์ทรงแนะนำว่า ข้าสามารถเลือกเจ้าชายอีกองค์หนึ่งและหย่าร้างจากพระองค์ แต่คริชณะที่รัก ข้ารู้ดีว่าพระองค์ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของคุณสมบัติที่ดีทั้งปวง นักบุญผู้ยิ่งใหญ่เช่น นาระดะ มุนิ ปฏิบัติในการสรรเสริญบุคลิกลักษณะทิพย์ของพระองค์เสมอ หากผู้ใดเพียงแต่มาพึ่งนักบุญเช่นนี้ ผู้นั้นจะเป็นอิสระจากมลทินทางวัตถุทั้งหมดทันที และจากการมาสัมผัสกับการรับใช้พระองค์โดยตรง เทพธิดาแห่งโชคลาภทรงตกลงว่าจะประทานพรทั้งหมดให้ ภายใต้สถานการณ์ที่ผู้หญิงคนหนึ่งได้ยินเกี่ยวกับพระบารมีของพระองค์จากแหล่งที่เชื่อถือได้ และมีโอกาสได้รับรสน้ำทิพย์จากพระบาทรูปดอกบัวของพระองค์ แล้วยังโง่พอที่จะไปตกลงแต่งงานกับบุคคลในโลกวัตถุผู้ที่กลัวความตาย โรคภัยไข้เจ็บ ความแก่ชรา และการเกิดใหม่อยู่เสมอ ดังนั้น ข้ายอมรับพระบาทรูปดอกบัวของพระองค์ มิใช่ปราศจากวิจารณญาณ แต่เป็นการตัดสินใจที่มีการพินิจพิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน องค์ภควานที่รัก พระองค์ทรงเป็นปรมาจารย์ของทั้งสามโลก ทรงสามารถสนองตอบความปรารถนาทั้งปวงของสาวก ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า เพราะทรงเป็นดวงวิญญาณสูงสุดของทุกชีวิต ดังนั้น ข้าจึงเลือกพระองค์มาเป็นสวามี พิจารณาแล้วว่าทรงเป็นบุคคลผู้เหมาะสมที่สุด ทรงอาจโยนข้าไปในเผ่าพันธุ์ชีวิตอะไรก็ได้ตามผลกรรมทางวัตถุ ข้าไม่สนใจแม้แต่น้อย ความใฝ่ฝันเพียงอย่างเดียวคือ ขอให้ข้าคงความมั่นคงอยู่ภายใต้พระบาทรูปดอกบัวของพระองค์ เพราะทรงสามารถจัดส่งสาวกจากความหลงใหลในความเป็นอยู่ทางวัตถุ และทรงพร้อมเสมอที่จะแจกจ่ายตัวพระองค์แด่สาวก
“องค์ภควานที่รักของข้า พระองค์ทรงแนะนำให้ข้าเลือกหนึ่งในบรรดาเจ้าชาย เช่น ชิชุพาละ จะราสันดะ หรือ ดันทะวะคระ แต่พวกเขามีสถานภาพเช่นไรในโลก? ต้องทำงานหนักอยู่ตลอดเวลาเพื่อรักษาสถานภาพชีวิตคฤหัสถ์ เหมือนกับวัวลากเครื่องจักรทั้งวันทั้งคืน เปรียบเทียบเหมือนกับลา สัตว์ที่มีภาระหนักมาก พวกนี้ไร้ศักดิ์ศรีเหมือนสุนัข น่าสังเวชเหมือนแมว และขายตัวไปเป็นทาสของภรรยา หญิงใดอับโชคที่ไม่เคยได้ยินพระบารมีของพระองค์อาจยอมรับบุคคลเช่นนี้มาเป็นสวามี แต่ผู้หญิงที่ได้รู้เกี่ยวกับพระองค์ผู้ไม่เพียงได้รับการสรรเสริญในโลกนี้เท่านั้น แต่ยังได้รับการสรรเสริญในสภาแห่งเทพผู้ยิ่งใหญ่ เช่น พระพรหม และ พระศิวะ ผู้หญิงคนนี้จะไม่ยอมรับผู้ใดอื่นมาเป็นสวามีนอกจากพระองค์ ผู้ชายในโลกวัตถุนี้เหมือนกับร่างที่ตายซาก อันที่จริง โดยผิวเผินสิ่งมีชีวิตถูกปกคลุมด้วยร่างกายนี้ ซึ่งมิใช่สิ่งใดอื่นนอกจากเป็นถุงผิวหนังประดับไปด้วยเคราและหนวดขนบนร่างกาย เล็บบนนิ้ว และผมบนศีรษะ ภายในถุงที่ได้รับการประดับประดานี้มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ กองกระดูก และบ่อเลือดที่ผสมกับอุจจาระ ปัสสวะ เสมหะ น้าดี และลมเน่าเหม็นอยู่เสมอ ซึ่งแมลงและจุลินทรีย์รื่นเริงอยู่ในถุงผิวหนังนี้ หญิงโง่เท่านั้นที่ยอมรับร่างกายที่ตายซากนี้มาเป็นสวามีของตน และด้วยความเข้าใจผิดเท่านั้นก็รักเขาในฐานะเป็นสุดที่รัก เป็นเช่นนี้ได้เพราะผู้หญิงคนนั้น ไม่เคยได้รับรสแห่งความปลื้มปีติสุขจากพระบาทรูปดอกบัวของพระองค์
“สวามีผู้มีดวงตารูปดอกบัวที่รัก พระองค์ทรงมีความพึงพอใจในตัว ไม่สนใจว่าข้าจะมีความงามและมีคุณสมบัติหรือไม่ พระองค์ไม่สนใจเลย ดังนั้น การไม่ยึดติดต่อข้าไม่ใช่เป็นสิ่งที่แปลก เป็นธรรมชาติของพระองค์ที่ไม่ยึดติดอยู่กับหญิงใด ไม่ว่ามีสถานภาพสูงส่งหรือมีความงามมากเพียงใด ไม่ว่ายึดติดต่อข้าหรือไม่ ขอให้การอุทิศตนเสียสละและสมาธิของข้ามาอยู่ที่พระบาทรูปดอกบัวของพระองค์ ตลอดเวลา ระดับตัณหาทางวัตถุเป็นการสร้างของพระองค์ และเมื่อทรงมองมาที่ข้าอย่างมีตัณหา ข้ายอมรับว่าเป็นคุณประโยชน์อันใหญ่หลวงสำหรับชีวิตข้า และข้าใฝ่ฝันเพื่อให้มีโอกาสอันเป็นสิริมงคลเช่นนี้เท่านั้น”
หลังจากได้ยินคำพูดของรุคมิณี และการอธิบายแต่ละคำพูดที่คริชณะทรงใช้เพื่อปลุกเร้าอารมณ์โกรธแห่งความรักที่มีต่อพระองค์ คริชณะตรัสต่อรุคมิณีดังนี้ “มเหสีผู้บริสุทธิ์ที่รัก เจ้าหญิงที่รักของข้า ข้าคาดหวังคำอธิบายเช่นนี้จากเธอ ด้วยจุดมุ่งหมายนี้เท่านั้นที่ข้าได้พูดล้อเล่นกับเธอทั้งหมด เพื่อเธอจะได้ถูกหลอกจากความเป็นจริง บัดนี้ ข้าได้ทำสำเร็จแล้ว คำอธิบายอย่างดีเยี่ยมที่เธอได้ให้ในแต่ละคำพูดของข้าเป็นความจริงโดยสมบูรณ์ ข้ารับรองเช่นนี้ โอ้ รุคมิณีคนสวยที่สุด เธอเป็นมเหสีสุดที่รัก ข้ามีความยินดียิ่งที่เข้าใจว่าเธอรักข้ามากเพียงใด โปรดมั่นใจได้เลยว่า ไม่ว่าเธอใฝ่ฝันและปรารถนาสิ่งใดหรือคาดหวังสิ่งใดจากข้า ข้าพร้อมรับใช้เธอเสมอ และเป็นความจริงอีกด้วยว่า สาวก เพื่อนรัก และผู้รับใช้ของข้าจะเป็นอิสระจากมลทินทางวัตถุ แม้ไม่มีแนวโน้มที่จะขอความหลุดพ้นเช่นนี้จากข้า สาวกไม่เคยปรารถนาสิ่งใดจากข้านอกจากปฏิบัติตนรับใช้ เพราะขึ้นอยู่กับข้าโดยสมบูรณ์ แม้พบว่าพวกเขาขอบางสิ่งบางอย่างจากข้า นั่นไม่ใช่วัตถุ ความใฝ่ฝันและความปรารถนาเช่นนี้แทนที่จะเป็นต้นเหตุแห่งพันธนาการทางวัตถุ แต่กลับกลายมาเป็นจุดกำเนิดเพื่อความหลุดพ้นจากโลกวัตถุนี้
“มเหสีผู้บริสุทธิ์และมีใจบุญที่รัก ข้าได้ทดสอบบนฐานแห่งความบริสุทธิ์ในความรักที่เธอมีต่อสวามี เธอสอบผ่านอย่างยอดเยี่ยมที่สุด ข้าตั้งใจล้อเธอเล่นด้วยการใช้คำพูดมากมายที่ไม่เหมาะสมกับบุคลิกลักษณะของเธอ แต่แปลกใจที่เห็นว่าการอุทิศตนเสียสละที่เธอมีต่อข้าไม่หวั่นไหวจากสถานะภาพอันมั่นคงแม้แต่เพียงนิดเดียว มเหสีที่รัก ข้าคือผู้ประทานพรทั้งหมด แม้จนกระทั่งถึงมาตรฐานแห่งความหลุดพ้นจากโลกวัตถุนี้ และข้าเพียงผู้เดียวที่สามารถหยุดสภาวะความเป็นอยู่ทางวัตถุที่ซ้าซากนี้ได้ และเรียกให้เขากลับคืนสู่เหย้าคืนสู่องค์ภควาน ผู้ที่อุทิศตนเสียสละต่อข้าอย่างไม่บริสุทธิ์ บูชาข้าเพื่อผลประโยชน์ทางวัตถุบางอย่างเพื่อรักษาตัวเขาให้อยู่ในโลกแห่งความสุขทางวัตถุ ซึ่งมาจบลงที่ความสุขในชีวิตเพศสัมพันธ์ ผู้ที่ปฏิบัติความเพียรและสมถะอย่างเคร่งครัดเพื่อบรรลุถึงความสุขทางวัตถุนี้ แน่นอนว่าอยู่ภายใต้ความหลงแห่งพลังงานเบื้องต่ำของข้า บุคคลผู้ปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้ต่อข้าเพียงเพื่อได้ผลกำไรทางวัตถุและสนองประสาทสัมผัส เป็นคนโง่มากแน่นอน ความสุขทางวัตถุที่มีพื้นฐานในชีวิตเพศสัมพันธ์มีเกลื่อนกลาดแม้ในเผ่าพันธุ์ชีวิตที่น่ารังเกียจที่สุด เช่น สุกรและสุนัข ไม่ควรมีผู้ใดพยายามเข้าพบข้าเพื่อหาความสุขเช่นนี้ เพราะจะหาได้แม้ถูกจับให้ไปมีชีวิตอยู่ในนรก ดังนั้น สำหรับผู้ที่เพียงแสวงหาความสุขทางวัตถุ ไม่แสวงหาข้า การอยู่ในสภาวะนรกเช่นนี้จะดีกว่า”
มลทินทางวัตถุแข็งแกร่งมากที่ทำให้ทุกคนทำงานหนักมากทั้งวันทั้งคืนเพื่อความสุขทางวัตถุ การแสดงออกว่ามีศาสนา ปฏิบัติความเพียร สมถะ มีใจบุญ รักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน การเมือง วิทยาศาสตร์ ทุกสิ่งทุกอย่างมีเป้าหมายอยู่ที่ผลประโยชน์ทางวัตถุบางอย่าง เพื่อผลประโยชน์ทางวัตถุโดยรวดเร็วนักวัตถุนิยมทั่วไปบูชาเทวดาต่างๆ และภายใต้มนต์สะกดที่ชื่นชอบวัตถุ บางครั้งมาปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้ต่อองค์ภควาน บางครั้งหากบุคคลรับใช้พระองค์ด้วยความจริงใจ แต่ในขณะเดียวกันยังใฝ่ฝันทางวัตถุอยู่ องค์ภควานผู้มีพระเมตตาทรงขจัดแหล่งกำเนิดแห่งความสุขทางวัตถุ เมื่อหาความสุขทางวัตถุไม่ได้ สาวกจะปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้ด้วยความบริสุทธิ์ใจโดยสมบูรณ์
องค์ภควาน คริชณะ ตรัสต่อ “โอ้ ผู้เลอเลิศในบรรดาราชินีที่รัก ข้าเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเธอไม่มีความใฝ่ฝันทางวัตถุ มีจุดมุ่งหมายเดียวคือรับใช้ข้า และเธอปฏิบัติการรับใช้ด้วยความบริสุทธิ์ใจเป็นเวลายาวนาน การอุทิศตนเสียสละรับใช้ด้วยความบริสุทธิ์ใจที่เป็นแบบอย่างเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้สาวกหลุดพ้นจากโลกวัตถุนี้เท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้ไปถึงโลกทิพย์เพื่อปฏิบัติรับใช้ข้านิรันดร บุคคลผู้ยึดติดกับความสุขทางวัตถุมาก ไม่สามารถถวายการรับใช้เช่นนี้ สตรีที่หัวใจมีมลทินและเต็มไปด้วยความปรารถนาทางวัตถุ คิดหาอุบายต่างๆ เพื่อสนองประสาทสัมผัส ขณะที่ภายนอกแสดงออกว่าตนเองเป็นสาวกชั้นเยี่ยม
“มเหสีผู้ทรงเกียรติที่รัก ถึงแม้ข้ามีมเหสีเป็นพันๆองค์ ข้าไม่คิดว่าผู้ใดจะรักข้ามากไปกว่าเธอ ข้อพิสูจน์ที่เห็นได้ชัดเจนในสภาวะพิเศษคือ เธอไม่เคยเห็นข้าก่อนการสมรส เพียงแต่ได้ยินเกี่ยวกับข้าจากบุคคลที่สาม ถึงกระนั้น ด้วยความศรัทธาที่มีต่อข้าอย่างมั่นคง แม้ท่ามกลางเจ้าชายแห่งราชวงศ์ต่างๆมากมายที่มีคุณสมบัติความร่ารวย และสง่างาม เธอมิได้เลือกผู้ใดมาเป็นสวามี แต่ยืนยันจะสมรสกับข้า โดยปฏิเสธเจ้าชายที่อยู่ ณ ที่นั้นทั้งหมด ด้วยความสุภาพเธอแอบส่งจดหมายนัดแนะข้าให้มาฉุดเธอ ขณะที่กำลังฉุดตัวเธออยู่ รุคมีพี่ชายของเธอได้มาขัดขวางและต่อสู้กับข้าอย่างรุนแรง ผลจากการต่อสู้ข้าได้รับชัยชนะและทำให้เขาเสียโฉมอย่างไร้ความปราณี ตอนที่อนิรุดดะแต่งงาน ขณะที่เล่นหมากรุกกันได้มีการทะเลาะวิวาทและต่อสู้กับรุคมีพี่ชายของเธออีกครั้ง ในที่สุดบะละรามะพี่ชายข้าสังหารเขา ข้าแปลกใจที่เห็นว่าเธอมิได้เอ่ยแม้แต่คำเดียวเพื่อต่อต้านเหตุการณ์ในครั้งนั้น เพราะเธอกลัวว่าอาจต้องแยกทางกับข้า เธอได้รับทุกข์จากผลที่ตามมาโดยไม่เอ่ยแม้แต่เพียงคำเดียว จากผลที่เธอเงียบสนิทเช่นนี้ มเหสีทีรัก เธอได้ซื้อตัวข้าไปเรียบร้อยแล้วนิรันดร ข้าได้มาอยู่ภายใต้การควบคุมของเธอชั่วกัลปวสาน เธอส่งคนส่งสารมาเชิญข้าให้ไปฉุดเธอ เมื่อรู้ว่าข้าจะมาถึงล่าช้าไปบ้างเธอเริ่มเห็นว่าโลกทั้งใบนี้ว่างเปล่าไปหมด ขณะนั้นเธอสรุปว่าร่างกายอันงดงามนี้ไม่เหมาะให้ผู้อื่นแตะต้อง ดังนั้น เมื่อคิดว่าข้าไม่มา เธอจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายและจบร่างนี้ลงทันที รุคมิณีที่รัก ความรักอันยิ่งใหญ่และสูงส่งที่มีต่อข้าเช่นนี้ จะคงอยู่ภายในจิตวิญญาณของข้าตลอดไป สำหรับตัวข้า ไม่มีอำนาจจะชดเชยการอุทิศตนเสียสละที่เธอมีต่อข้าด้วยความบริสุทธิ์ใจได้”
แน่นอนว่า องค์ภควาน คริชณะ ทรงไม่มีภารกิจที่ต้องมาเป็นสวามี เป็นบุตร หรือบิดาของผู้ใด เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของพระองค์ และทุกชีวิตอยู่ภายใต้การควบคุมของพระองค์ ทรงไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใดช่วยเพื่อความพึงพอใจ พระองค์ทรงเป็นอาทมารามะ มีความพึงพอใจอยู่ในตัวเอง ทรงสามารถได้รับความสุขทั้งหมดด้วยตัวพระองค์เองโดยไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้ใด เมื่อองค์ภควานเสด็จลงมาแสดงลีลาเป็นมนุษย์ พระองค์ทรงเล่นบทเป็น สวามี บุตร เพื่อน หรือ ศัตรูอย่างสมบูรณ์บริบูรณ์ เช่นนี้ เมื่อทรงแสดงบทเป็นสวามีที่สมบูรณ์ของบรรดาราชินี โดยเฉพาะรุคมิณีจี พระองค์ทรงรื่นรมย์กับความรักฉันสามีภรรยาอย่างสมบูรณ์บริบูรณ์
ตามวัฒนธรรมพระเวท แม้อนุญาตให้มีภรรยาได้หลายคน แต่ภรรยาทุกคนควรได้รับการปรนนิบัติอย่างดี อีกนัยหนึ่ง เราอาจมีภรรยาหลายคนได้หากสามารถทำให้ภรรยาทั้งหมดพึงพอใจอย่างเสมอภาคกัน ในฐานะเป็นคฤหัสถ์ที่ดีเลิศ มิฉะนั้น ไม่ได้รับอนุญาต องค์ภควาน คริชณะ ทรงเป็นครูของโลก ดังนั้น แม้ทรงไม่จำเป็นต้องมีมเหสี พระองค์ทรงแบ่งภาคมาเป็นหลายๆรูปเท่ากับจำนวนมเหสี และอยู่กับพวกนางในฐานะคฤหัสถ์ที่ดีเลิศ ปฏิบัติตามหลักธรรม กฎเกณฑ์ และข้อผูกพันธ์ตามคำสอนพระเวท รวมทั้งกฎหมายและประเพณีทางสังคม สำหรับมเหสี 16,108 องค์ พระองค์ทรงรักษาราชวังต่างๆ สถานที่ และบรรยากาศที่แตกต่างกันไปพร้อมๆกัน ฉะนั้น องค์ภควานถึงแม้จะเป็นหนึ่ง แต่ทรงแบ่งภาคของพระองค์ให้มาเป็นคฤหัสถ์ที่ดีเลิศ 16,108 รูป
ดังนั้น ขอจบคำอธิบายโดยบัคธิเวดันธะ หนังสือ “องค์ภควาน คริชณะ”
บทที่ห้าสิบเก้า “การสนทนาระหว่างคริชณะและรุคมิณี”