องค์ภควาน คริชณะ

บทที่ 6

พูทะนาถูกสังหาร

ขณะที่ นันดะ มะฮาราจะ กลับบ้าน ท่านทบทวนคำเตือนของวะสุเดวะที่ว่าอาจมีสิ่งรบกวนบางอย่างที่โกคุละ คำแนะนำนี้มาจากมิตรแน่นอนว่าคงไม่ผิดพลาด ดังนั้น นันดะคิดว่า “มีความจริงอยู่บ้าง” ด้วยความกลัว จึงยึดองค์ภควานเป็นที่พึ่ง เป็นธรรมชาติของสาวกพออยู่ในอันตรายจะคิดถึงคริชณะ เพราะไม่มีที่พึ่งอื่น พอเด็กน้อยอยู่ในอันตรายจะยึดเอามารดาหรือบิดาเป็นที่พึ่ง เช่นเดียวกัน สาวกยึดเอาองค์ภควานเป็นที่พึ่งเสมอ พอมีอันตรายอยู่ต่อหน้าสาวกระลึกถึงคริชณะได้รวดเร็วมาก
หลังจากปรึกษากับเสนาบดีมารแล้ว คัมสะสั่งให้แม่มดชื่อพูทะนา ผู้รู้ศิลปะมืดในการฆ่าเด็กเล็กด้วยวิธีที่บาปน่ากลัว เพื่อฆ่าเด็กทั้งหมดตามเมือง หมู่บ้าน และสนามเด็กเล่นต่างๆ แม่มดเหล่านี้สามารถใช้ศิลปะมืดในสถานที่ที่ไม่มีการสวดมนต์ภาวนาหรือสดับฟังพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของคริชณะ กล่าวว่า ที่ใดมีการสวดมนต์ภาวนาพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของคริชณะ แม้ไม่ตั้งใจจริง สิ่งเลวร้ายทั้งหลาย เช่น แม่มด ภูตผี และความอันตรายหายนะอื่นๆ อันตรธานโดยฉับพลัน และเป็นจริงแน่นอนกับสถานที่ที่มีการสวดมนต์ภาวนาพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของคริชณะอย่างจริงจัง โดยเฉพาะที่วรินดาวะนะ ขณะที่องค์ภควานทรงปรากฏด้วยพระองค์เอง ฉะนั้น ข้อสงสัยของ นันดะ มะฮาราจะ แน่นอนว่าอยู่บนพื้นฐานแห่งความรักที่มีต่อคริชณะ อันที่จริง ไม่มีอันตรายจากการกระทำของพูทะนา แม้นางมีพลังอำนาจมาก แม่มดเหล่านี้เรียกว่าเคชะรี หมายความว่าสามารถบินไปในอากาศได้ เวทมนตร์ดำเช่นนี้ผู้หญิงที่อยู่ห่างไกลทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอินเดียยังใช้กันอยู่ พวกนางสามารถย้ายจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งบนกิ่งไม้ที่ถูกถอนราก พูทะนารู้เวทมนตร์ดำนี้ ฉะนั้น ใน ภควธัม อธิบายว่านางเป็น เคชะรี
พูทะนาเข้าไปในมณฑลโกคุละ ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของ นันดะ มะฮาราจะ โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่งตัวเหมือนหญิงงาม เข้าไปในบ้านของพระมารดายะโชดา ดูแล้วสวยสดงดงามมากกับสะโพกที่โยกย้ายและหน้าอกอันเต่งตึงสวยงาม พร้อมต่างหูและดอกไม้บนเรือนผม ดูแล้วสวยงามมากโดยเฉพาะเอวที่อรชร นางชำเลืองไปที่ทุกคนด้วยสายตาอันมีเสน่ห์และใบหน้ายิ้มระรื่น ชาววรินดาวะนะทั้งหมดถูกทำให้หลงรัก หญิงเลี้ยงโคไม่เดียงสาคิดว่านางคือเทพธิดาแห่งโชคลาภ ปรากฏกายที่วรินดาวะนะพร้อมดอกบัวในมือ ดูเหมือนนางมาเพื่อพบคริชณะผู้เป็นสวามีของนางโดยเฉพาะ เนื่องจาก ความงามเป็นพิเศษ ไม่มีใครตรวจสอบการกระทำของนาง จึงเข้าไปในบ้าน ของ นันดะ มะฮาราจะ โดยเสรี พูทะนาผู้ฆ่าเด็กมามาก พบทารกน้อยคริชณะนอนอยู่บนเตียงเล็กๆ สำเหนียกได้ทันทีว่าทารกน้อยนี้ซ่อนพลังอำนาจที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ คิดว่า “เด็กคนนี้มีพลังอำนาจมากจนสามารถทำลายทั้งจักรวาลลงได้ในพริบตา”
ความเข้าใจของพูทะนานี้สำคัญมาก องค์ภควาน คริชณะ สถิตในหัวใจของทุกชีวิต กล่าวใน ภควัต-คีตา ว่า องค์ภควานทรงให้ปัญญาที่จำเป็นแก่เรา และทรงเป็นต้นเหตุแห่งการลืมของเรา พูทะนารู้ทันทีว่าทารกน้อยที่นางสังเกตดูอยู่ในบ้านของ นันดะ มะฮาราจะ นี้ คือองค์ภควาน ทรงบรรทมอยู่เหมือนทารกน้อยแต่มิได้หมายความว่าพลังอำนาจลดน้อยลงไป ทฤษฎีวัตถุนิยมที่ว่าบูชาองค์ภควานเหมือนบูชามนุษย์ ไม่ถูกต้อง ไม่มีชีวิตใดสามารถกลายมาเป็นองค์ภควานได้ด้วยการทำสมาธิหรือปฏิบัติสมถะ องค์ภควานทรงเป็นองค์ภควานอยู่เสมอ คริชณะในรูปของทารกน้อยทรงมีความสมบูรณ์เหมือนขณะที่ทรงเป็นหนุ่มแน่น ทฤษฎีมายาวาดะกล่าวว่า สิ่งมีชีวิตในอดีตเป็นองค์ภควาน บัดนี้ถูกอิทธิพลของมายา ครอบงำ ปัจจุบันจึงไม่ใช่ภควาน แต่เมื่ออิทธิพลของมายา หลุดออกไปหมดแล้วจะกลายมาเป็นองค์ภควานอีกครั้ง ทฤษฎีนี้ใช้ไม่ได้กับดวงชีวิตเล็กๆ สิ่งมีชีวิตเป็นละอองอณูขององค์ภควาน เป็นสะเก็ดเล็กๆ ของไฟสูงสุด แต่มิใช่ไฟเดิมแท้หรือคริชณะ คริชณะคือองค์ภควานแม้จากตอนเริ่มต้นที่ทรงปรากฏพระวรกายที่บ้านของวะสุเดวะและเดวะคี
คริชณะทรงแสดงธรรมชาติของทารกน้อยและทรงปิดพระเนตร ประหนึ่งว่าทรงหลีกเลี่ยงใบหน้าของพูทะนา การปิดพระเนตรนี้ถูกแปลความหมายและวิเคราะห์ศึกษาแง่มุมต่างๆ โดยสาวก บ้างกล่าวว่าคริชณะทรงปิดพระเนตรเพราะไม่ปรารถนาเห็นหน้าพูทะนาผู้ฆ่าเด็กมามากมาย และบัดนี้จะมาสังหารพระองค์ บ้างกล่าวว่ามีบางสิ่งพิเศษบอกนางทำให้นางมั่นใจ คริชณะทรงปิดพระเนตรเพื่อให้นางไม่ตกใจกลัว และบ้างแปลความหมายดังนี้ คริชณะทรงปรากฏเพื่อฆ่ามารและปกป้องสาวก ดังที่กล่าวใน ภควัต-คีต ว่า พระริทราณายะ สาดูนาม วินาชายะ ชะ ดุชคริทาม มารตนแรกที่ถูกสังหารเป็นผู้หญิง ตามกฎพระเวทการฆ่าผู้หญิง ฆ่าพราหมณ์ ฆ่าวัว และฆ่าเด็กเป็นสิ่งต้องห้าม คริชณะทรงมีความจำเป็นต้องสังหารมารพูทะนา เพราะการสังหารผู้หญิงเป็นสิ่งต้องห้ามตามคัมภีร์พระเวท จึงจำเป็นต้องปิดพระเนตร บ้างแปลความหมายว่าคริชณะทรงปิดพระเนตรเพราะถือว่าพูทะนาเป็นนางพยาบาล พูทะนามาหาคริชณะเพื่อถวายนมให้พระองค์ดื่ม คริชณะทรงมีพระกรุณาธิคุณล้นเหลือแม้รู้ดีว่าพูทะนามาเพื่อฆ่าพระองค์ ยังถือว่านางคือพยาบาล หรือพระมารดาของพระองค์
มีมารดาเจ็ดประเภทตามคำสอนพระเวท คือ มารดาจริง ภรรยาอาจารย์หรือพระอาจารย์ทิพย์ มเหสีกษัตริย์ ภรรยาพราหมณ์ วัว พยาบาล และพระแม่ภูมิหรือพระแม่ธรณี เพราะพูทะนามาอุ้มคริชณะให้อยู่บนตักและให้ดื่มนม คริชณะทรงยอมรับว่านางเป็นหนึ่งในมารดา นี่เป็นอีกเหตุผลที่ทรงปิดพระเนตร จำเป็นต้องสังหารพยาบาลหรือมารดา แต่การสังหารมารดาหรือพยาบาลไม่แตกต่างไปจากความรักที่ทรงมีต่อมารดาจริงหรือมารดาบุญธรรมยะโชดา เราเข้าใจข้อมูลจากคัมภีร์พระเวทอีกว่าพูทะนาได้รับการปฏิบัติเสมือนมารดา และได้รับสิ่งต่างๆเหมือนยะโชดาที่ได้รับความหลุดพ้นจากโลกวัตถุ พูทะนาก็ได้รับความหลุดพ้นเช่นเดียวกันขณะทารกน้อยทรงปิดพระเนตร พูทะนาอุ้มคริชณะอยู่บนตัก นางไม่ทราบว่ากำลังอุ้มพญามัจจุราช หากใครหลงผิดคิดว่างูเป็นเชือก ต้องตาย ทำนองเดียวกัน พูทะนาฆ่าทารกน้อยมามากมายก่อนพบคริชณะ บัดนี้ นางยอมรับงูที่จะสังหารนางทันที ขณะพูทะนาอุ้มทารกอยู่บนตักทั้งยะโชดาและโรฮิณีปรากฏอยู่ตรงนั้นด้วย แต่ทั้งสองมิได้ห้ามเพราะนางแต่งตัวสวยงามมาก และแสดงความรักคริชณะเสมือนมารดา ทั้งสองไม่รู้ว่านางมีดาบคมกริบอยู่ภายในฝักอันสวยงาม พูทะนาทายาพิษร้ายแรงมากที่หน้าอกของนาง ทันทีที่อุ้มเด็กน้อยมาบนตักนางเอาหัวนมใส่ปาก คริชณะ หวังว่าพอคริชณะดูดนมจะตายทันที ทารกน้อยคริชณะรับเอานมของนางด้วยความโกรธ ทรงดูดนมที่ทาด้วยยาพิษพร้อมลมปราณชีวิตของนางมาร อีกนัยหนึ่ง คริชณะทรงดูดนมจากอก และสังหารนางโดยดูดเอาชีวิตของนางด้วย คริชณะทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ นางมารพูทะนามาถวายนม ทรงสนองตอบความต้องการและยอมรับการกระทำของนางดุจมารดา แต่เพื่อหยุดการกระทำชั่วร้ายได้สังหารมารทันที เพราะนางมารถูกคริชณะสังหารจึงได้รับความหลุดพ้น เมื่อคริชณะดูดเอาลมปราณ พูทะนาล้มลงที่พื้นขยายแขนขาออกไปและส่งเสียงร้อง “โอ้ เด็กน้อย ปล่อยข้า ปล่อยข้า!” นางร้องด้วยเสียงอันดัง เหงื่อแตก และทั่วทั้งตัวเปียกชุ่ม
ขณะตาย นางตะโกนร้องดังลั่น เสียงสะท้อนกึกก้องไปทั่วทั้งในโลกและบนท้องฟ้า ทุกสารทิศ ผู้คนคิดว่าฟ้าผ่าลงมา เช่นนี้ ฝันร้ายของแม่มดพูทะนาจบลง ร่างเปลี่ยนกลายมาเป็นตัวจริงคือนางมารที่ใหญ่โตมโหฬาร อ้าปากอันดุร้าย แยกแขนขาไปทั่ว ล้มลงเหมือนกับวริทราสุระที่ถูกสายฟ้าของพระอินทร์ฟาด ผมยาวบนศีรษะกระจัดกระจายไปทั่ว ร่างล้มลงมาขยายไปถึงสิบสองไมล์และฟาดลงมาทับต้นไม้มากมายหักเป็นชิ้นๆ ทุกคนตกใจและรู้สึกอัศจรรย์ที่ได้เห็นร่างอันยิ่งใหญ่มโหฬารนี้ ฟันของนางเหมือนถนนหลายสายที่ถูกไถ โพรงจมูกเหมือนถำ้ในภูเขา หน้าอกเหมือนกับภูเขาลูกเล็กๆ ผมเหมือนพุ่มไม้แดงที่กว้างใหญ่ เบ้าตาเหมือนแอ่งตัน และขาอ่อนสองข้างเหมือนริมฝั่งแม่น้าสองฝั่ง มือทั้งสองเหมือนสะพานที่สร้างขึ้นอย่างแข็งแรง ท้องเหมือนกับทะเลสาบที่เหือดแห้ง ชายและหญิงเลี้ยงโคทั้งหมดตะลึงด้วยความตกใจกลัวและประหลาดใจที่ได้เห็น เสียงจากที่นางล้มลงดังสนั่นหวั่นไหวทำให้สมองและหูสะเทือน หัวใจเต้นแรงขึ้น
เมื่อ โกปี เห็นทารกน้อยคริชณะเล่นอยู่บนตักของพูทะนาอย่างไม่กลัว พวกนางรีบไปอุ้มคริชณะขึ้นมา พระมารดายะโชดา โรฮิณี และ โกปี อาวุโสอื่นๆ ทำพิธีมงคลทันทีโดยเอาหางวัวไปวนรอบกายคริชณะ ใช้ปัสสาวะโคชะล้างทารกน้อยทั่วทั้งตัวอย่างสะอาด และใช้ฝุ่นที่รอยเท้าโคปะไปทั่วร่าง ทั้งหมดนี้เพื่อช่วยให้ทารกน้อยคริชณะพ้นจากเหตุการณ์ที่ไม่เป็นมงคลในอนาคต เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นชัดเจนถึงความสำคัญของโคที่มีต่อครอบครัว สังคม และสิ่งมีชีวิตโดยทั่วไป ร่างทิพย์ของคริชณะไม่จำเป็นต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองใดๆ แต่เพื่อสอนเราถึงความสำคัญของโค คริชณะทรงถูกละเลงไปด้วยมูลโคทั่วร่างกายและล้างออกด้วยฉี่โค และปะพรมด้วยฝุ่นจากรอยเท้าโค
หลังเสร็จพิธีเพื่อทำให้บริสุทธิ์แล้ว โกปี ซึ่งนำโดยพระมารดายะโชดาและโรฮิณีสวดภาวนาสิบสองพระนามของพระวิชณุ เพื่อปกป้องร่างกายของคริชณะจากอิทธิพลชั่วร้ายทั้งหลาย พวกนางล้างมือล้างเท้าและจิบน้ำสามครั้งซึ่งเป็นประเพณีก่อนสวดมันทระ และสวดภาวนาดังนี้ “คริชณะที่รัก ขอให้องค์ภควานในนามมะณิมามปกป้องขาอ่อนของเธอ ขอให้พระวิชณุในนามยะกยะปกป้องขา ขอให้องค์ ภควานอัชยุทะปกป้องแขน ขอให้องค์ภควานฮะยะกรีวะปกป้องท้อง ขอให้องค์ ภควานเคชะวะปกป้องหัวใจ ขอให้องค์ภควานวิชณุปกป้องแขน ขอให้องค์ภควานอุรุคระมะปกป้องหน้า ขอให้องค์ภควานอีชวะระปกป้องศีรษะ ขอให้องค์ภควานชะคระดะระปกป้องส่วนหน้า ขอให้องค์ภควานกะดาดะระปกป้องส่วนหลัง ขอให้องค์ภควานมะดุสูดะนะผู้ทรงคันธนูในมือปกป้องด้านขวา ขอให้องค์ภควานวิชณุพร้อมหอยสังข์ปกป้องด้านซ้าย ขอให้องค์ภควานอุเพนดระปกป้องจากด้านบน และขอให้องค์ภควานทารคชยะปกป้องเธอจากส่วนล่างของโลก ขอให้องค์ภควานฮะระดะระปกป้องเธอจากทุกด้าน ขอให้องค์ภควานในะนามฮริชีเคชะปกป้องประสาทสัมผัสทั้งหมด ขอให้พระนารายณ์ปกป้องลมปราณชีวิต ขอให้พระเจ้าแห่งชเวทะดวีพะพระนารายณ์ปกป้องหัวใจ ขอให้องค์ภควานโยเกชวะระปกป้องจิตใจ ขอให้องค์ภควานพริชนิการบะปกป้องปัญญา และขอให้บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าปกป้องดวงวิญญาณ ขณะที่เธอเล่นขอให้องค์ภควานโกวินดะปกป้องเธอจากทุกด้าน ขณะที่เธอนอนหลับขอให้องค์ภควานมาดะวะปกป้องเธอจากภยันตรายทั้งปวง ขณะที่เธอเดินขอให้พระเจ้าแห่งไวคุณธะปกป้องเธอไม่ให้ล้มลง ขณะที่เธอนั่งขอให้พระเจ้าแห่งไวคุณธะปกป้องเธอจากภัยอันตรายทั้งปวง และขณะที่เธอกำลังกินขอให้พระเจ้าแห่งการบูชาทั้งหลายปกป้องเธอทั้งหมด”
เช่นนี้ พระมารดายะโชดาเริ่มสวดภาวนาพระนามต่างๆ ของพระวิชณุ เพื่อปกป้องส่วนต่างๆ ของร่างกายทารกน้อยคริชณะ พระมารดายะโชดามีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่านางควรปกป้องทารกน้อยจากวิญญาณร้าย และภูติผีทั้งหลายที่มีชื่อว่า ดาคีนี ยาทุดานี คูชมาณดา ยัคชะ ราคชะสะ วินายะคะ โคทะรา เรวะที จเยชทา พูทะนา มาทริคา อุนมาดะ และวิญญาณชั่วร้ายอื่นๆ ในลักษณะนี้ ที่ทำให้ผู้คนลืมความเป็นอยู่ของตนเอง สร้างปัญหาให้กับลมปราณชีวิตและประสาทสัมผัส บางครั้งพวกนี้ปรากฏมาในความฝัน สร้างความเดือดร้อนมาก บางครั้งปรากฏมาในร่างหญิงชราและดูดเลือดจากเด็กเล็กๆ แต่ภูติผีและวิญญาณร้ายเหล่านี้ไม่สามารถอยู่ได้ในสถานที่ที่มีการสวดมนต์ภาวนาร้องเพลงพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์พระมารดายะโชดามีความมั่นใจแน่วแน่ในคำสอนพระเวทเกี่ยวกับความสำคัญของโคและพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระวิชณุ ฉะนั้น นางจึงยึดเอาโคและพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระวิชณุเป็นที่พึ่งเพื่อปกป้องทารกน้อยคริชณะ นางภาวนาพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายของพระวิชณุเพื่อให้ทรงช่วยทารกน้อย วัฒนธรรมพระเวทถือเอาประโยชน์ในการเลี้ยงโคและสวดภาวนาพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระวิชณุตั้งแต่ตอนเริ่มต้นประวัติศาสตร์ บุคคลผู้ยังปฏิบัติตามวิถีพระเวท โดยเฉพาะคฤหัสถ์จะมีโคไว้อย่างน้อยสิบสองตัว และบูชาพระปฏิมาวิชณุที่สถาปนาอยู่ในบ้าน
โกปี อาวุโสแห่งวรินดาวะนะ ซึมซาบอย่างลึกซึ้งในความรักต่อคริชณะ จึงปรารถนาช่วยพระองค์ แม้ไม่มีความจำเป็นเพราะทรงปกป้องพระองค์เองได้อยู่แล้ว พวกนางไม่รู้ว่าคริชณะคือองค์ภควานแสดงบททารกน้อย หลังจากทำพิธีกรรมเพื่อปกป้องทารกน้อย พระมารดายะโชดาอุ้มคริชณะและให้ดูดนม เมื่อทารกน้อยถูกปกป้องด้วยวิชณุมันทระ พระมารดายะโชดารู้สึกว่าทารกน้อยมีความปลอดภัยแล้ว ขณะเดียวกัน ชายเลี้ยงโคทั้งหลายที่ไปมะทุราเพื่อเสียภาษี พอกลับมาบ้านรู้สึกตกตะลึงที่ได้เห็นร่างอันมหึมาของพูทะนา
นันดะ มะฮาราจะ นึกถึงคำทำนายของวะสุเดวะและพิจารณาว่า วะสุเดวะเป็นนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่และโยคีผู้มีฤทธิ์ มิฉะนั้น ทำไมสามารถทำนายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ขณะที่ท่านไม่อยู่วรินดาวะนะ? หลังจากนี้ชาววระจะตัดศพอันมหึมาของพูทะนาเป็นชิ้นๆ และวางบนกองฟืนเพื่อเผา ขณะที่ส่วนต่างๆ ของศพพูทะนาถูกเผา ควันออกมาจากไฟมีกลิ่นหอม กลิ่นนี้เนื่องมาจากนางถูกคริชณะสังหาร หมายความว่าผลจากบาปกรรมของนางมารพูทะนาถูกชะล้างจนหมดสิ้นและได้รับร่างสวรรค์ นี่คือตัวอย่างที่ว่าองค์ภควานดีไปหมด พูทะนามาเพื่อฆ่าคริชณะ เพราะทรงดูดนมนาง นางจึงได้รับความบริสุทธิ์ทันที และศพของนางได้รับคุณสมบัติทิพย์ ภารกิจของนางคือมาฆ่าเด็กเล็กๆ นางมารชอบเลือดเท่านั้น ถึงแม้อิจฉาคริชณะนางได้รับความหลุดพ้นเพราะมาให้นมแด่คริชณะดื่ม จึงไม่จำเป็นต้องพูดถึงผู้อื่นที่มีใจรักคริชณะในความสัมพันธ์เยี่ยงมารดาหรือบิดา
สาวกผู้บริสุทธิ์รับใช้คริชณะเสมอด้วยความรักและเสน่หาอันยิ่งใหญ่ เนื่องจากทรงเป็นองค์ภควาน อภิวิญญาณของทุกชีวิต ฉะนั้น สรุปได้ว่าแม้พลังงานเพียงเล็กน้อยที่ใช้ไปในการรับใช้องค์ภควาน จะให้ผลกำไรทิพย์มหาศาล อธิบายใน ภควัต-คีตา ว่า สวัลพัม อพิ อัสยะ ดารมัสยะ การอุทิศตนเสียสละรับใช้ในคริชณะจิตสำนึกประเสริฐมาก แม้รับใช้คริชณะเพียงเล็กน้อยจะด้วยรู้หรือไม่รู้ก็ตาม จะได้ผลประโยชน์ยิ่งใหญ่ที่สุด ระบบการบูชาคริชณะด้วยการถวายดอกไม้จากต้นไม้เป็นประโยชน์เช่นกัน สำหรับชีวิตผู้ถูกกักขังอยู่ในร่างต้นไม้ เมื่อดอกไม้และผลไม้ถวายให้คริชณะ ต้นไม้ที่ให้ดอกให้ผลนั้นจะได้รับผลประโยชน์มากมายในทางอ้อม พิธี อาร ชะนะ หรือขั้นตอนการบูชาจึงเป็นประโยชน์ต่อทุกชีวิต คริชณะเป็นที่สักการะบูชา แม้จากเทวดาผู้ยิ่งใหญ่ เช่น พระพรหม พระศิวะ และพูทะนา โชคดีมากที่คริชณะมาเล่นบนตักนางโดยเป็นทารกน้อย พระบาทรูปดอกบัวของคริชณะซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของปราชญ์ผู้ยอดเยี่ยมและสาวกได้วางลงบนร่างของพูทะนา ผู้คนบูชาคริชณะและถวายอาหาร แต่พระองค์ทรงดูดนมจากร่างของพูทะนาโดยปริยาย ฉะนั้น สาวกสวดภาวนาว่า หากด้วยการถวายบางสิ่งในฐานะศัตรู พูทะนาได้รับผลประโยชน์มากเพียงนี้ แล้วจะวัดประโยชน์ที่ได้รับจากการบูชาคริชณะด้วยใจรักและเสน่หาได้อย่างไร?
เราควรบูชาคริชณะเท่านั้น หากไม่มีเหตุผลอื่น ผลประโยชน์มากมายรอผู้ปฏิบัติบูชาอยู่ แม้พูทะนาเป็นวิญญาณร้าย นางพัฒนาขึ้นมาเหมือนพระมารดาขององค์ภควาน ชัดเจนว่าโคและ โกปี อาวุโสที่ถวายนมให้คริชณะจะพัฒนาไปถึงสถานภาพทิพย์เช่นกัน คริชณะทรงสามารถให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่ทุกคน จากความหลุดพ้นไปจนถึงวัตถุทั้งหลายที่สำเหนียกได้ ฉะนั้น ไม่มีข้อข้องใจในความหลุดพ้นของพูทะนา ผู้ที่นมจากเต้าของนางได้ถูกคริชณะดูดเป็นเวลานาน แล้วจะมีข้อข้องใจอันใดเกี่ยวกับความหลุดพ้นของบรรดาโกปี ผู้มีใจรักคริชณะเป็นอย่างยิ่ง? ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบรรดาโกปี เด็กเลี้ยงโค และโคทั้งหลายที่รับใช้คริชณะอยู่ที่วรินดาวะนะด้วยใจรักและเอ็นดู จะหลุดพ้นจากสภาวะความทุกข์แห่งความเป็นอยู่ทางวัตถุ
ชาววรินดาวะนะได้กลิ่นหอมหวนอบอวลจากควันที่เผาพูทะนา ถามกันเองว่า “กลิ่นอันหอมอบอวลนี้มาจากที่ใด?” ขณะกำลังสนทนากันเข้าใจว่าเป็นกลิ่นจากการเผาพูทะนา พวกนางรักคริชณะมาก ทันทีที่ได้ยินว่านางมารพูทะนาถูกคริชณะสังหาร ได้อวยพรแก่เด็กน้อยด้วยความรัก หลังจากเผาพูทะนาแล้ว นันดะ มะฮาราจะ กลับมาบ้านอุ้มทารกน้อยขึ้นมาบนตักทันที เริ่มหอมศีรษะคริชณะ เช่นนี้ นันดะ พึงพอใจที่ทารกน้อยปลอดภัยจากภัยอันตรายอันยิ่งใหญ่นี้ ชรีละ ชุคะเดวะ โกสวามี ให้พรแก่ทุกคนที่สดับฟังเรื่องราวการสังหารพูทะนาโดยคริชณะ ว่าพวกเขาจะได้รับความชื่นชอบจาก องค์ภควาน โกวินดะ อย่างแน่นอน
ดังนั้น ขอจบคำอธิบายโดยบัคธิเวดันธะ หนังสือ “องค์ภควาน คริชณะ”
บทที่หก “พูทะนาถูกสังหาร”