องค์ภควาน คริชณะ

บทที่ 70

องค์ภควานคริชณะที่เมืองอินดระพรัสทะ

ต่อหน้าปราชญ์ผู้ยอดเยี่ยมนาระดะ รวมทั้งเพื่อนๆ ของคริชณะทั้งหมด อุดดะวะใคร่ครวญถึงสถานการณ์แล้วกล่าวดังนี้ “องค์ภควานที่รัก ก่อนอื่นขอให้ข้ากล่าวว่า ปราชญ์ผู้ยอดเยี่ยม นาระดะ มุนิ ขอร้องให้พระองค์ไปฮัสทินาพุระเพื่อเอาใจกษัตริย์ยุดิชทิระ พระญาติของพระองค์ที่กำลังเตรียมทำพิธีบูชาราจะสูยะอันยิ่งใหญ่ ข้าคิดว่าควรไปที่นั่นทันทีเพื่อช่วยกษัตริย์ยุดิชทิระในการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ อย่างไรก็ดี แม้รับคำเชิญจากนักปราชญ์นาระดะในเบื้องต้นนั้นเหมาะสมดี ขณะเดียวกัน โอ้ องค์ภควาน เป็นหน้าที่ของพระองค์ที่ให้การปกป้องแก่ดวงวิญญาณผู้ศิโรราบ จุดมุ่งหมายทั้งสองจะสัมฤทธิ์ผลหากเราเข้าใจสถานการณ์อย่างถ่องแท้ คือต้องได้รับชัยชนะจากกษัตริย์ทั้งหมด มิฉะนั้น จะทำพิธีบูชาราจะสูยะไม่ได้ อีกนัยหนึ่ง เป็นที่เข้าใจว่ากษัตริย์ยุดิชทิระไม่สามารถทำพิธีบูชาอันยิ่งใหญ่นี้ได้ หากไม่ได้รับชัยชนะจากกษัตริย์จะราสันดะคู่ปรปักษ์ พิธีบูชาราจะสูยะทำได้โดยผู้ที่ได้รับชัยชนะทั่วทุกสารทิศเท่านั้น ฉะนั้น เพื่อบรรลุถึงจุดมุ่งหมายทั้งสอง ก่อนอื่นเราต้องสังหารจะราสันดะ ข้าคิดว่าหากชนะจะราสันดะ จุดมุ่งหมายอื่นๆทั้งหมดจะบรรลุผลโดยปริยาย เหล่ากษัตริย์ที่ถูกคุมขังอยู่จะได้รับการปลดปล่อย และเราจะมีความสุขที่ได้รื่นเริงกับการเผยแพร่ชื่อเสียงทิพย์ของพระองค์ที่ได้ช่วยเหล่ากษัตริย์ผู้ไร้ความผิดจากที่คุมขังของจะราสันดะ
“แต่กษัตริย์จะราสันดะไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา พิสูจน์แล้วว่าเขาเป็นอุปสรรคแม้แต่นักรบผู้ยิ่งใหญ่ เพราะมีพลังเทียบเท่าช้าง 10,000 เชือก หากมีผู้ใดที่สามารถเอาชนะกษัตริย์องค์นี้ได้ต้องเป็นบีมะเสนะ เพราะมีพลังเทียบเท่าช้าง 10,000 เชือก เช่นกัน สิ่งดีที่สุดคือให้บีมะเสนะต่อสู้กับเขาตัวต่อตัวเพื่อทหารอีกมากมายจะได้ไม่ต้องล้มตายโดยไม่จำเป็น อันที่จริง เป็นเรื่องยากมากที่จะเอาชนะจะราสันดะเมื่อเขายืนเคียงข้างอยู่กับกองทัพทหาร อัคโชฮิณี เราอาจใช้นโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อสถานการณ์ โดยรู้ว่ากษัตริย์จะราสันดะอุทิศตนเสียสละต่อพราหมณ์มาก เขาชอบให้ทานโดยไม่เคยปฏิเสธคำขอจากพราหมณ์เลย ดังนั้น ข้าคิดว่าบีมะเสนะควรแต่งตัวเป็นพราหมณ์ไปพบจะราสันดะ ให้เขาทำบุญและขอต่อสู้กันตัวต่อตัว เพื่อให้ความมั่นใจในชัยชนะของบีมะเสนะ ข้าคิดว่าพระองค์ควรร่วมไปด้วย หากการต่อสู้ดำเนินไปในขณะที่พระองค์ทรงปรากฏ ข้ามั่นใจว่าบีมะเสนะจะได้รับชัยชนะ เพราะเพียงแต่พระองค์ทรงปรากฏ จะทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้ ดังที่พระพรหมทรงสร้างจักรวาลและพระศิวะทรงทำลาย ก็ด้วยอิทธิพลของพระองค์เท่านั้น
“อันที่จริง พระองค์ทรงสร้างและทรงทำลายปรากฏการณ์ในจักรวาลทั้งหมด พระพรหมและพระศิวะทรงเป็นเพียงต้นเหตุที่เห็นได้โดยผิวเผินเท่านั้น การสร้างและการทำลายที่แท้จริง กาลเวลาที่มองไม่เห็นซึ่งเป็นตัวแทนอันไร้รูปลักษณ์ของพระองค์เป็นผู้กระทำ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของกาลเวลา หากกาลเวลาที่มองไม่เห็นของพระองค์สามารถทำสิ่งอัศจรรย์เช่นนี้ โดยผ่านทางพระพรหมและพระศิวะ แล้วการปรากฏของพระองค์จะไม่ช่วยให้บีมะเสนะได้รับชัยชนะจากจะราสันดะ ได้อย่างไร? องค์ภควานที่รักของข้า เมื่อจะราสันดะถูกสังหาร เหล่าราชินีของกษัตริย์ที่ถูกคุมขังทั้งหมดจะดีใจที่สวามีของตนได้รับอิสระภาพ ด้วยพระเมตตาธิคุณของพระองค์ แล้วจะร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีของพระองค์ พวกนางจะมีความยินดีเหมือนกับพวก โกปี ที่ได้รับอิสรภาพจากเงื้อมมือของชังคาสุระ นักปราชญ์ผู้ยอดเยี่ยมทั้งหมด กะเจนดระเจ้าแห่งพญาช้างสาร สีดาเทพธิดาแห่งโชคลาภ และแม้แต่พระบิดาและพระมารดาของพระองค์ ทั้งหมดได้รับการจัดส่งด้วยพระเมตตาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ พวกเราก็เช่นกัน เราจึงร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและกิจกรรมทิพย์ของพระองค์เสมอ
“ดังนั้น ข้าคิดว่าหากสังหารจะราสันดะก่อน ปัญหาอื่นๆอีกมากมายจะได้รับการแก้ไขโดยปริยาย พิธีบูชาราจะสูยะซึ่งได้ตระเตรียมกันที่ฮัสทินาพุระจะดำเนินต่อไปได้ หากมิใช่เนื่องมาจากกรรมดีของเหล่ากษัตริย์ที่ถูกคุมขัง ก็จากกรรมชั่วของจะราสันดะ องค์ภควานของข้า ดูเหมือนว่าพระองค์ควรเสด็จไปที่ฮัสทินาพุระด้วยตัวพระองค์เอง เพื่อทำพิธีบูชาอันยิ่งใหญ่นี้ โดยจัดการให้กษัตริย์มารเช่น จะราสันดะ และ ชิชุพาละ ถูกพิชิตก่อน และปล่อยเหล่ากษัตริย์ผู้ไร้ความผิดให้ได้รับอิสรภาพจากที่คุมขัง ขณะเดียวกันพิธีบูชาอันยิ่งใหญ่ราจะสูยะจะดำเนินไปได้ เมื่อพิจารณาทั้งหมดนี้ ข้าคิดว่าพระองค์ทรงควรเดินทางไปฮัสทินาพุระทันที”
คำแนะนำของอุดดะวะนี้ทุกคนในที่ประชุมรู้สึกชื่นชมยินดี พิจารณาว่าการที่คริชณะไปฮัสทินาพุระเป็นประโยชน์ด้วยประการทั้งปวง นักปราชญ์ผู้ยอดเยี่ยม นาระดะ ผู้อาวุโสแห่งราชวงศ์ยะดุ รวมทั้งองค์ภควานคริชณะ ทั้งหมดสนับสนุนข้อเสนอของอุดดะวะ จากนั้น คริชณะทรงขออนุญาตจากพระบิดาวะสุเดวะและพระอัยกา อุกระเสนะ แล้วสั่งให้ผู้รับใช้ดารุคะและไจทระตระเตรียมเพื่อเดินทางไปฮัสทินาพุระทันที เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อย คริชณะทรงกล่าวคำอำลาโดยเฉพาะกับบะละรามะและกษัตริย์อุกระเสนะแห่งยะดุ หลังจากจัดส่งบรรดาราชินีของพระองค์พร้อมบุตรธิดาและส่งสัมภาระที่จำเป็นไปล่วงหน้า พระองค์ทรงขึ้นราชรถที่มีธงรูปพญาครุฑ ก่อนเริ่มเดินทาง คริชณะทรงเอาใจนาระดะปราชญ์ผู้ยอดเยี่ยมด้วยการถวายเครื่องบูชา นาระดะจีปรารถนาจะก้มลงกราบที่พระบาทรูปดอกบัวของคริชณะ แต่เนื่องจากพระองค์ทรงแสดงบทมนุษย์ธรรมดา ท่านจึงเพียงแต่ถวายความเคารพภายในใจ และระลึกถึงรูปลักษณ์ทิพย์ของคริชณะอยู่ภายในใจ จากนั้นออกเดินทางจากรัฐสภาไปทางอวกาศ โดยทั่วไปนักปราชญ์นาระดะไม่เดินบนผิวโลกแต่ไปทางอวกาศ หลังจากนาระดะจากไปแล้ว คริชณะตรัสกับผู้ส่งสารให้ไปบอกเหล่ากษัตริย์ที่ถูกคุมขังว่าไม่ต้องเป็นห่วง ในไม่ช้าพระองค์จะจัดการสังหารกษัตริย์แห่งมะกะดะ จะราสันดะ เช่นนี้ พระองค์ทรงปรารถนาความโชคดีแด่กษัตริย์ที่ถูกคุมขังทั้งหมดพร้อมทั้งคนส่งสาร เมื่อได้รับความมั่นใจจากคริชณะ คนส่งสารกลับไปหาเหล่ากษัตริย์ และบอกเกี่ยวกับข่าวดีที่องค์ภควานจะเสด็จมาเยี่ยม กษัตริย์ทั้งหมดยินดีปรีดากับข่าวนี้และตั้งหน้าตั้งตารอคอยอย่างใจจดใจจ่อในการเสด็จมาของคริชณะ
ราชรถของ องค์ภควาน คริชณะ พร้อมทั้งราชรถคันอื่นๆอีกมากมายเริ่มเคลื่อนที่มุ่งหน้าไปยังฮัสทินาพุระ พร้อมทั้งช้าง ทหารม้า ทหารราบ และสิ่งของต่างๆจากราชวัง มีการประสานเสียงของเขาวัว กลอง แตร หอยสังข์ เขาสัตว์ และโคโรเนท ซึ่งเป็นมงคลอย่างยิ่ง ส่งเสียงดังกึกก้องไปทั่วทุกทิศทาง ราชินี 16,000 องค์ที่นำโดยเทพธิดาแห่งโชคลาภ รุคมิณีเดวี มเหสีเอกของคริชณะ บุตรของพวกนางร่วมไปด้วย ทั้งหมดตามหลังคริชณะ แต่งตัวกันด้วยเสื้อผ้าราคาแพง พร้อมเครื่องประดับ ทาร่างกายด้วยกระแจะจันทน์ คล้องพวงมาลัยดอกไม้หอมที่คอ นั่งบนเสลี่ยงประดับด้วยผ้าไหม ธง และลูกไม้ขลิบทองอย่างดี ทั้งหมดตามเสด็จคริชณะสวามีผู้สูงส่ง ในมือของทหารราบมี โล่ห์ ดาบ และหอก เป็นทหารรักษาพระองค์ของราชินี ท้ายขบวนมีพวกภรรยาและเด็กๆของผู้ติดตาม ยังมีสาวสังคมตามไปอีกมากมาย มีสัตว์ที่ใช้บรรทุกของ เช่น โค กระบือ ล่อ และลาที่แบกขนเต็นท์ ที่นอน และพรม ผู้หญิงที่ตามไป นั่งบนเสลี่ยงอยู่บนหลังอูฐแยกออกไป ขบวนอันยาวเหยียดนี้ส่งเสียงร้องกันกึกก้อง ตระการตาไปด้วย ธง ร่ม และแส้ สีต่างๆกัน รวมทั้งอาวุธ ชุดแต่งกาย เครื่องประดับ หมวก และยุทธภัณท์จำนวนมาก แสงอาทิตย์สะท้อนทำให้ขบวนดูเหมือนกับคลื่นลูกใหญ่ในมหาสมุทรที่มีปลาฉลามมากมาย
เช่นนี้ ขบวนของ องค์ภควาน คริชณะ มุ่งหน้าสู่ฮัสทินาพุระ (นิวเดลฮี) และค่อยๆผ่านอาณาจักรอานารทะ(จังหวัดกุจะรัท) โสวีระ(สุเรท) ทะเลทรายอันกว้างใหญ่ของราจะสทาน มาถึงคุรุคเชทระ ระหว่างอาณาจักรเหล่านี้มีภูเขา แม่น้า เมือง หมู่บ้าน ทุ่งหญ้า และเหมืองมากมาย ขบวนผ่านสถานที่ต่างๆเหล่านี้ ระหว่างเดินทางไปฮัสทินาพุระ ทรงข้ามแม่น้าใหญ่สองสายคือดริชวะทีและสะรัสวะที จากนั้นทรงผ่านจังหวัดพานชาละ และจังหวัดมัทสยะ ในที่สุดทรงมาถึง อินดระพรัสทะ
การได้เห็น องค์ภควาน คริชณะ ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ดังนั้น เมื่อกษัตริย์ยุดิชทิระได้ข่าวว่าคริชณะเสด็จมาถึงเมืองหลวงฮัสทินาพุระแล้ว ยุดิชทิระทรงรู้สึกดีใจมากจนขนลุกด้วยความปลื้มปีติสุข ทรงออกมานอกเมืองเพื่อต้อนรับองค์ภควาน อย่างเหมาะสมทันที รับสั่งให้บรรเลงดนตรีและขับร้องเพลงไพเราะ บรรดาพราหมณ์ผู้ทรงคุณวุฒิในเมืองเริ่มสวดภาวนาบทมนต์จากพระเวทด้วยเสียงอันดัง คริชณะทรงพระนามว่าฮริชิเคชะ เจ้านายแห่งประสาทสัมผัส กษัตริย์ยุดิชทิระทรงไปต้อนรับพระองค์เหมือนกับประสาทสัมผัสที่ได้พบจิตสำนึกแห่งชีวิต ยุดิชทิระทรงเป็นญาติผู้ใหญ่ของคริชณะ โดยธรรมชาติทรงรักพระองค์มาก ทันทีที่ได้เห็น จิตใจของยุดิชทิระเปี่ยมไปด้วยความรักและชื่นชมยินดีอย่างล้นพ้น ไม่ได้เห็นองค์ภควานมาหลายวันแล้ว ดังนั้น จึงคิดว่าโชคดีที่สุดที่ได้เห็นพระองค์ซึ่งๆ หน้า ยุดิชทิระทรงโอบกอด คริชณะหลายต่อหลายครั้งด้วยความรักอันยิ่งใหญ่
รูปลักษณ์อมตะของ องค์ภควาน คริชณะ เป็นที่พักพิงนิรันดรของเทพธิดาแห่งโชคลาภ ทันทีที่กษัตริย์ยุดิชทิระโอบกอดพระองค์ ทรงเป็นอิสระจากมลทินแห่งความเป็นอยู่ทางวัตถุทั้งปวง รู้สึกมีความปลื้มปีติสุขทิพย์ และกลืนเข้าไปในมหาสมุทรแห่งความสุข น้าตาไหลพรากออกมาจากดวงตา ร่างกายสั่นเนื่องจากความปลื้มปีติสุข ลืมไปหมดว่ายังอยู่ในโลกวัตถุ หลังจากนี้ บีมะเสนะ น้องชายคนที่สองของพาณดะวะยิ้มและโอบกอดคริชณะ คิดว่าพระองค์ทรงเป็นญาติฝ่ายมารดา ดังนั้น บีมะเสนะ กลืนเข้าไปในความปลื้มปีติสุขอันยิ่งใหญ่ เปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอมเปรมปรีดิ์จนกระทั่งลืมความเป็นอยู่ทางวัตถุ จากนั้น องค์ภควาน ชรี คริชณะทรงโอบกอดพี่น้องพาณดะวะทั้งสามคือ อารจุนะ นะคุละ สะหะเดวะ ดวงตาของพี่น้องทั้งสามท่วมท้นไปด้วยน้าตา อารจุนะเริ่มโอบกอดคริชณะครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน น้องชายพาณดะวะคนเล็กทั้งสองหลังจากได้รับการโอบกอดจากคริชณะแล้ว ก้มลงกราบเพื่อแสดงความเคารพที่พระบาทรูปดอกบัวของพระองค์ จากนั้น คริชณะทรงถวายความเคารพแด่พราหมณ์ที่อยู่ ณ ที่นั้น รวมทั้งสมาชิกผู้อาวุโสแห่งราชวงศ์คุรุ เช่น บีชมะ โดรนะ และดริทะราชทระ มีกษัตริย์หลายองค์จากจังหวัดต่างๆ เช่น คุรุ สริงจะยะ และเคคะยะ คริชณะทรงรับการต้อนรับและแสดงความเคารพต่อพวกเขาตามความเหมาะสมกับสถานภาพ นักสวดมนต์อาชีพเช่น สูทะ มากะดะ และวันดีนะ มีพราหมณ์ร่วมด้วย ถวายบทมนต์แสดงความเคารพต่อองค์ภควาน ศิลปินและนักดนตรีเช่น กานดารวะ พร้อมทั้งดาวตลกในราชวังเริ่มเล่นเครื่องดนตรีต่างๆ เช่น กลองพะณะวะ หอยสังข์ กลองหน้าเดียว วีนา มริดังกะ และเขาสัตว์ แสดงศิลปะการเต้นรำเพื่อให้พระองค์ทรงยินดีปรีดา คริชณะผู้มีชื่อเสียงมากที่สุด เสด็จเข้าไปในมหานครฮัสทินาพุระ ที่มีความมั่งคั่งในทุกๆด้าน ขณะที่องค์ภควานเสด็จเข้าไปในเมือง ทุกคนพูดคุยกันเองเกี่ยวกับพระบารมีของคริชณะ และสรรเสริญพระนามทิพย์ คุณสมบัติทิพย์ รูปลักษณ์ทิพย์ ฯลฯ ของพระองค์
โขลงช้างใช้งวงฉีดน้าหอมกันอย่างเมามันตามถนนหนทางและตรอกซอกซอยของเมืองฮัสทินาพุระ บางที่มีพู่ระย้าและธงสีสันต่างๆ ประดับตามบ้านและถนนหนทาง ตามสี่แยกสำคัญๆ มีประตูตกแต่งด้วยทองคำ สองข้างประตูมีคนโทน้ำทองคำ ตกแต่งอย่างสวยงามเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่ง เพื่อมีส่วนร่วมในพิธีอันยิ่งใหญ่ ประชากรเมืองทั้งหมดชุมนุมกันไปทั่ว แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ที่มีสีสันสวยงาม มีเครื่องประดับ พวงมาลัยดอกไม้ และน้าหอม แต่ละบ้านสว่างไสวไปด้วยตะเกียงเป็นร้อยๆพันๆดวงตามมุมต่างๆ ของตัวกำแพง เสา ฐาน และตามสถาปัตยกรรมอันหลากหลาย มองจากระยะไกล แสงของตะเกียงเหมือนกับการเฉลิมฉลองดีพาวะลี (วันฉลองปีใหม่ตามปฏิทินฮินดู) จุดธูปหอมภายในกำแพงบ้าน ควันธูปลอยคลุ้งไปตามช่องหน้าต่าง ทำให้บรรยากาศน่ารื่นรมย์เป็นอย่างยิ่ง บนหลังคาบ้านมีธงโบกสะบัดมากมาย หม้อน้าทองคำที่อยู่บนหลังคาส่องแสงสว่างไสว
องค์ภควาน ชรี คริชณะ ได้เสด็จเข้าไปในเมืองของพาณดะวะ รื่นรมย์กับบรรยากาศที่สวยสดงดงาม ทรงค่อยๆดำเนินไปอย่างช้าๆ พอหญิงสาวในแต่ละบ้านได้ยินว่า คริชณะซึ่งเป็นผู้เดียวที่ควรค่าในการมอง กำลังเดินผ่านมาบนถนน พวกนางกระตือรือร้นมากที่จะได้เห็นบุคลิกภาพผู้มีชื่อเสียงมากที่สุด เรือนผมของพวกนางกระจัดกระจาย ส่าหรีที่พันอยู่แน่นหลุดหลวมลง เนื่องมาจากเร่งรีบเพื่อได้เห็นคริชณะ พวกนางละทิ้งภารกิจภายในบ้าน ที่กำลังนอนอยู่บนเตียงกับสามีรีบลุกขึ้นและวิ่งจากไปในทันที กุลีกุจอมาที่ถนนเพื่อดูคริชณะ
ขบวนช้าง ม้า ราชรถ และทหารราบเนืองเเน่นไปหมด บางคนไม่สามารถเห็นได้ชัดเจน เนื่องจากความแน่นของขบวน จึงขึ้นไปมองบนหลังคาบ้าน หรือดาดฟ้า พวกนางดีใจที่ได้เห็น องค์ภควาน ชรี คริชณะ ผ่านมาพร้อมทั้งราชินีของพระองค์เป็นพันๆองค์ โปรยดอกไม้ลงมาที่ขบวน โอบกอดคริชณะภายในใจ และต้อนรับพระองค์ด้วยหัวใจ เมื่อเห็นคริชณะอยู่ท่ามกลางราชินีมากมาย เหมือนกับเดือนเพ็ญที่รายล้อมไปด้วยหมู่ดารามากมาย พวกนางเริ่มพูดกันเอง
เด็กหญิงคนหนึ่งพูดกับเพื่อนว่า “เพื่อนรัก เป็นเรื่องยากมากที่จะเดาว่าบรรดาราชินีเหล่านี้ได้ทำบุญไว้ด้วยอะไร จึงมีโอกาสมารื่นรมย์์กับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และการชำเลืองมองด้วยความรักจากคริชณะเสมอ” ขณะที่คริชณะเดินผ่านไปบนถนน ตามจุดต่างๆ มีประชาชนผู้มั่งคั่งร่ารวย เป็นที่เคารพ และไม่ทำบาป มาถวายสิ่งของอันเป็นมงคลแด่พระองค์ เพื่อถวายการต้อนรับคริชณะที่มาในเมือง เช่นนี้ พวกเขาบูชาพระองค์ในฐานะผู้รับใช้ที่ถ่อมตน
พอ องค์ภควาน คริชณะ เสด็จเข้าราชวัง สตรีในวังทั้งหมดรู้สึกตื้นตันใจด้วยความรักที่ได้เห็นคริชณะ ต้อนรับพระองค์ทันทีด้วยสายตาเปล่งประกาย แสดงถึงความรักและเสน่หา คริชณะทรงยิ้มและรับเอาความรู้สึกและท่าทีแห่งการต้อนรับของพวกนาง เมื่อคุนทีมารดาของพาณดะวะเห็นหลานชาย องค์ภควาน คริชณะ รู้สึกเต็มตื้นไปด้วยความรักและชื่นชมยินดี นางลุกขึ้นจากเตียงทันที รีบมาพร้อมกับลูกสะใภ้โดรพะดีเพื่อพบคริชณะ ด้วยความรักและชื่นชมฉันแม่โอบกอดคริชณะ ขณะที่กษัตริย์ยุดิชทิระทรงนำคริชณะเข้ามาในวัง รู้สึกสับสนมากเนื่องจากความยินดีปรีดา จนลืมตัวว่าควรทำอะไรในขณะนั้นเพื่อต้อนรับและบูชาให้เหมาะสม คริชณะทรงแสดงความเคารพต่อคุนทีและสตรีผู้อาวุโสอื่นๆภายในวัง สุบะดราน้องสาวของคริชณะยืนอยู่กับโดรพะดีด้วย ทั้งคู่ถวายความเคารพอย่างสูงที่พระบาทรูปดอกบัวของคริชณะ เมื่อได้รับสัญญาณจากมารดาสวามี โดรพะดีนำเอาเสื้อผ้าอาภรณ์ เครื่องประดับ พร้อมพวงมาลัย ทั้งหมดนี้มาต้อนรับราชินีรุคมิณี สัทยะบามา บะดรา จามบะวะที คาลินดี มิทระวินดา ลัคชมะณา และผู้อุทิศตนสัทยา ราชินีองค์สำคัญๆของคริชณะเหล่านี้ได้รับการต้อนรับก่อน แล้วค่อยไปต้อนรับราชินีทุกองค์อย่างเหมาะสม กษัตริย์ยุดิชทิระจัดให้คริชณะได้รับการพักผ่อน และดูแลว่าทุกคนที่มาด้วยเช่น บรรดาราชินี ทหาร รัฐมนตรี และเลขานุการของพระองค์ มีที่พักอย่างสะดวกสบาย พร้อมจัดการต้อนรับทุกวันให้ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ขณะพักอยู่ในฐานะที่เป็นอาคันตุกะของพาณดะวะ
ช่วงเวลานี้ พร้อมด้วยการช่วยเหลือจากอารจุนะ คริชณะทรงปรารถนาทำให้อัคนี (อักนิ) เทพเจ้าแห่งไฟพึงพอใจ ทรงอนุญาตให้อัคนีกลืนป่าคาณดะวะ ระหว่างที่ไฟป่ากำลังโหมหนัก คริชณะทรงช่วยมารมะยาสุระที่ซ่อนตัวอยู่ในป่า พอได้รับการช่วยเหลือ มะยาสุระรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณต่อพาณดะวะและคริชณะ จึงสร้างรัฐสภาอันอัศจรรย์ภายในเมืองฮัสทินาพุระเพื่อให้กษัตริย์ยุดิชทิระทรงชื่นชมยินดี คริชณะทรงประทับอยู่ที่เมืองฮัสทินาพุระเป็นเวลาหลายเดือน ระหว่างพักอยู่ที่นี่ พระองค์ทรงรื่นเริงไปกับการเดินเที่ยวเล่นตามสถานที่ต่างๆ ทรงขับราชรถไปพร้อมกับอารจุนะโดยมีนักรบและทหารอีกมากมายตามไปด้วย
ดังนั้น ขอจบคำอธิบายโดยบัคธิเวดันธะ หนังสือ “องค์ภควาน คริชณะ”
บทที่เจ็ดสิบ “องค์ภควานคริชณะที่เมืองอินดระพรัสทะ”