องค์ภควาน คริชณะ
บทที่ 73
การจัดส่งชิชุพาละ
กษัตริย์ยุดิชทิระทรงมีความสุขมากหลังจากได้ยินรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องราวของจะราสันดะ จึงตรัสดังต่อไปนี้ “คริชณะที่รักของข้า โอ้ รูปลักษณ์อมตะแห่งความสุขเกษมสำราญและความรู้ ผู้กำกับภารกิจโลกวัตถุที่สูงส่งทั้งหมด รวมทั้งพระพรหม พระศิวะ และพระอินทร์ มีความกระตือรือร้นเสมอที่จะรับและปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ เมื่อใดโชคดีพอได้รับคำสั่งเช่นนี้ เทวดารับไว้ทันที และเก็บคำสั่งนี้ไว้ในความทรงจำ โอ้ คริชณะ พระองค์ทรงไร้ขอบเขตไม่มีที่สิ้นสุด แม้บางครั้งพวกเราคิดว่าเป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์และเป็นผู้ปกครองโลก รู้สึกผยองกับตำแหน่งทำให้ใจแคบมาก อันที่จริง เราควรได้รับการลงโทษจากพระองค์ แต่น่าอัศจรรย์แทนที่จะลงโทษ กลับทรงเมตตากรุณายอมรับคำสั่งของพวกเราและปฏิบัติอย่างดี บุคคลอื่นๆ แปลกใจมากที่พระองค์ทรงมาเล่นบทมนุษย์ปุถุชนธรรมดา แต่เราสามารถเข้าใจว่าพระองค์ทรงแสดงลีลาเหล่านี้เหมือนกับศิลปินนักแสดงละคร สถานภาพอันแท้จริงของพระองค์สูงส่งเสมอ เหมือนกับดวงอาทิตย์ที่รักษาอุณหภูมิไว้เหมือนเดิม ทั้งระหว่างที่กำลังขึ้นและกำลังตก แม้พวกเรารู้สึกว่าอุณหภูมิแตกต่างกันระหว่างดวงอาทิตย์ขึ้นและตก อุณหภูมิของดวงอาทิตย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง พระองค์ทรงรักษาความเที่ยงตรงทิพย์เสมอ ดังนั้น ทรงไม่ยินดีหรือถูกรบกวนจากสภาวะเหตุการณ์ทางวัตถุใดๆ พระองค์ทรงเป็นบระฮมันสูงสุด องค์ภควาน สำหรับพระองค์ไม่มีการเทียบเคียง มาดะวะที่รัก พระองค์ทรงไม่เคยพ่ายแพ้ผู้ใด การแบ่งแยกทางวัตถุว่า ‘นี่คือข้า’ ‘นี่คือท่าน’ ‘นี่คือของข้า’ ‘นี่คือของท่าน’ ทั้งหมดนี้โดดเด่นช่วงที่พระองค์ไม่อยู่ การแบ่งแยกเช่นนี้ปรากฏในทุกชีวิตแม้แต่ในสัตว์ แต่สาวกผู้บริสุทธิ์จะเป็นอิสระจากการแบ่งแยกที่ผิดๆ เหล่านี้ เพราะการแบ่งแยกเหล่านี้ไม่มีอยู่ในสาวกของพระองค์ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีอยู่ในพระองค์”
หลังจากทำให้คริชณะทรงพอพระทัยเช่นนี้ กษัตริย์ยุดิชทิระทรงตระเตรียมทำพิธีบวงสรวงราจะสูยะ ทรงเชิญพราหมณ์ และนักปราชญ์ผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมด้วย จัดให้อยู่ในตำแหน่งต่างๆ ในฐานะพระผู้ดูแลบริเวณพิธีบูชา ทรงเชิญพราหมณ์ และนักปราชญ์ผู้มีความชำนาญสูงสุดดังรายนามต่อไปนี้ คริชณะ-ดไวพายะนะ วิยาสะเดวะ, บะระดวาจะ, สุมันทุ, โกทะมะ, อสิทะ, วะสิชทะ, ชยะวะนะ, คัณวะ, ไมเทรยะ, คะวะชะ, ทริทะ, วิชวามิทระ, วามะเดวะ, สุมะทิ, ไจมินิ, คระทุ, ไพละ, พะราชะระ, การกะ, ไวชัมพายะนะ, อทารวา, คัชยะพะ, ดะอุมยะ, พะระชุรามะ, ชุคราชารยะ, อาสุริ, วิทิโฮทระ, มะดุชชันดา, วีระเสนะ, และ อคริทะวระณะ นอกจากพราหมณ์ และนักปราชญ์ทั้งหมดนี้แล้ว ยังทรงเชิญผู้อาวุโสที่ควรเคารพเช่น โดรณาชารยะ, บีชมะ เสด็จปู่ของคุรุ, คริพาชารยะ, และ ดริทะราชทระ และทรงเชิญบุตรของดริทะราชทระทั้งหมดที่นำโดยดุรโยดะนะ, วิดุระ สาวกผู้ยอดเยี่ยมของคริชณะก็ได้รับเชิญ กษัตริย์ต่างๆทั่วโลก รวมทั้งรัฐมนตรีและเลขาได้รับเชิญให้มาดูพิธีบูชาอันยิ่งใหญ่ที่กษัตริย์ยุดิชทิระทรงทำ ประชาชนประกอบด้วย พราหมณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ คชัทริยะผู้กล้าหาญ ไวชยะผู้มั่งคั่ง และชูดระผู้ซื่อสัตย์ ทั้งหมดได้รับเชิญให้มาในพิธีบูชา
พระ บราฮมะณะ และนักปราชญ์ผู้ดูแลพิธีบูชาได้สร้างปรัมพิธีบูชาตามปรกติด้วยทองคำ สถาปนากษัตริย์ยุดิชทิระให้เป็นผู้ทำพิธีบูชาอันยิ่งใหญ่ตามพิธี กรรมพระเวท เป็นเวลานานมาแล้วที่วะรุณะได้ทำพิธีบูชาคล้ายกันนี้ อุปกรณ์เครื่องใช้ในพิธีทั้งหมดทำมาจากทองคำ เช่นเดียวกันในพิธีบูชาราจะสูยะของกษัตริย์ยุดิชทิระ อุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับพิธีบูชาทำมาจากทองคำ
เพื่อมีส่วนร่วมในการปฏิบัติพิธีบูชาอันยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ยุดิชทิระ เทวดาองค์สำคัญทั้งหมดเช่น พระพรหม พระศิวะ และพระอินทร์เจ้าแห่งสวรรรค์ รวมทั้งผู้ร่วมมาด้วย และพระปฏิมาผู้ควบคุมระบบดาวเคราะห์เบื้องสูง เช่น กันดารวะโลคะ, สิดดะโลคะ, จะนะโลคะ, ทะโพโลคะ, นากะโลคะ, ยัคชะโลคะ, ราคชะสะโลคะ, พัคชิโลคะ, และ ชาระณะโลคะ รวมทั้งพระราชาและราชินีที่มีชื่อเสียง ทั้งหมดทรงปรากฏจากการเชิญของกษัตริย์ยุดิชทิระ นักปราชญ์ กษัตริย์ และเทวดาผู้ควรเคารพทั้งหมดที่มาชุมนุมกัน ณ ที่นี้ ตกลงเป็นเอกฉันว่ากษัตริย์ยุดิชทิระทรงมีความสามารถเหมาะสมรับผิดชอบในการทำพิธีบูชาราจะสูยะ ไม่ควรมีผู้ใดขัดแย้งในเรื่องนี้ ทั้งหมดทราบสถานภาพของกษัตริย์ยุดิชทิระเป็นอย่างดี เพราะเป็นสาวกยอดเยี่ยมของคริชณะ ความสำเร็จใดๆ ทั้งหมดจึงไม่มีอะไรเป็นพิเศษ พราหมณ์และพระผู้ทรงคุณวุฒิคอยดูแลว่าพิธีบูชาโดย มะฮาราจะ ยุดิชทิระ ดำเนินไปเหมือนกับที่ทำกันในยุคก่อนโดยเทพวะรุณะ ตามระบบพระเวท เมื่อใดที่มีการจัดพิธีบูชา สมาชิกผู้ร่วมด้วยในพิธีจะได้รับน้าจากต้นโสมะ น้าโสมะนี้เป็นเครื่องดื่มที่ให้ชีวิตชนิดหนึ่ง วันที่สกัดน้าโสมะ กษัตริย์ยุดิชทิระทรงต้อนรับพระโดยเฉพาะผู้คอยดูแลข้อผิดพลาดในพิธีกรรมด้วยความเคารพอย่างยิ่ง จุดมุ่งหมายคือ มันทระ พระเวทจะต้องออกเสียงอย่างสมบูรณ์ และภาวนาด้วยการเน้นเสียงอย่างถูกต้อง หากพระผู้ทำพิธีนี้ทำผิด พระผู้ตรวจหรือพระกรรมการต้องแก้ไขทันที เช่นนี้การปฏิบัติพิธีจึงดำเนินไปอย่างสมบูรณ์ นอกจากจะดำเนินไปอย่างสมบูรณ์ มิฉะนั้นพิธีบูชาจะไม่สัมฤทธิผลตามที่ปรารถนา ในคะลิยุคนี้ไม่มีพราหมณ์หรือพระผู้ทรงคุณวุฒิเหลืออยู่ ฉะนั้น พิธีบูชาเช่นนี้ทั้งหมดจึงถูกห้าม เหลืออยู่พิธีเดียวที่แนะนำไว้ในพระคัมภีร์คือ การสวดภาวนา บทมนต์ ฮะเร คริชณะ
อีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญคือ บุคลิกภาพผู้สูงสุด ณ ที่ชุมนุมของพิธีบูชานี้ จะได้รับการบูชาก่อน หลังจากยุดิชทิระได้ตระเตรียมพิธีบูชาเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ ใครควรได้รับการบูชาก่อนในพิธี พิธีโดยเฉพาะนี้เรียกว่าอกระพูจา, อกระแปลว่าที่หนึ่ง และ พูจา แปลว่าบูชา อกระพูจานี้คล้ายกับการเลือกประธาน ในที่ชุมนุมพิธีบูชา สมาชิกทั้งหมดเป็นผู้สูงส่งมาก บางคนเสนอให้เลือกคนหนึ่งว่าเป็นผู้ที่สมบูรณ์ในการรับอกระพูจา และคนอื่นๆ เสนออีกคนหนึ่ง
เมื่อตกลงกันไม่ได้ สะหะเดวะเริ่มตรัสสรรเสริญ องค์ภควาน คริชณะ โดยกล่าวว่า “องค์ภควาน คริชณะ ดีที่สุดในบรรดาสมาชิกแห่งราชวงศ์ยะดุ ทรงเป็นผู้ปกป้องสาวก และเป็นบุคลิกภาพสูงส่งที่สุด ณ ที่ชุมนุมนี้ ฉะนั้น ข้าพเจ้าคิดว่าคริชณะควรได้รับเกียรติให้ได้รับการบูชาก่อน โดยไม่มีการคัดค้าน แม้เทวดาเช่น พระพรหม พระศิวะ พระอินทร์เจ้าแห่งสวรรค์ และบุคลิกภาพผู้สูงส่งอีกมากมายปรากฏอยู่ ณ ที่ชุมนุมนี้ ไม่มีผู้ใดสามารถเทียบเท่าหรือยิ่งใหญ่ไปกว่าคริชณะ เกี่ยวกับเรื่องกาลเวลา อวกาศ ความร่ารวย อำนาจ ชื่อเสียง ปัญญา ความเสียสละ หรือข้อพิจารณาอื่นใด สิ่งใดที่พิจารณาว่าเป็นความมั่งคั่ง จะมีอยู่ในคริชณะอย่างสมบูรณ์เหมือนกับปัจเจกวิญญาณเป็นหลักพื้นฐานแห่งการเจริญเติบโตของร่างกายวัตถุ ลักษณะเดียวกัน คริชณะทรงเป็นอภิวิญญาณของปรากฏการณ์ทางจักรวาลนี้ พิธีกรรมพระเวททั้งหมดเช่น การปฏิบัติพิธีบูชา การถวายบวงสรวงในไฟ การสวดภาวนาบทมนต์พระเวท และการฝึกปฏิบัติโยคะเพื่ออิทธิฤทธิ์ ทั้งหมดหมายไว้เพื่อให้รู้แจ้งคริชณะ ไม่ว่าจะปฏิบัติตามวิถีทางเพื่อผลทางวัตถุ หรือวิถีทางแห่งการคาดคะเนทางปรัชญา จุดมุ่งหมายสุดท้ายคือคริชณะ วิธีที่เชื่อถือได้ทั้งหมดในการรู้แจ้งแห่งตน หมายไว้เพื่อให้เข้าใจคริชณะ ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษไม่จำเป็นต้องพูดเกี่ยวกับคริชณะ เพราะบุคลิกภาพสูงส่งเช่นท่านทุกคนรู้ว่าบระฮมันสูงสุดคือองค์ภควาน คริชณะ ผู้ไม่มีข้อแตกต่างระหว่างพระวรกายและดวงวิญญาณ ระหว่างพลังงานและต้นกำเนิดของพลังงาน หรือระหว่างส่วนหนึ่งส่วนใดของพระวรกายและส่วนอื่นๆ ของพระวรกายทั้งหมด เนื่องจากทุกชีวิตเป็นละอองอณูของคริชณะ จึงไม่มีข้อแตกต่างในคุณภาพระหว่างคริชณะและสิ่งมีชีวิต สรรพสิ่งออกมาจากพลังงานของคริชณะ ทั้งพลังงานวัตถุและพลังงานทิพย์ พลังงานของคริชณะเหมือนกับแสงและความร้อนของไฟ ไม่มีข้อแตกต่างระหว่างคุณสมบัติของความร้อน แสง และตัวไฟเอง
“คริชณะทรงสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรารถนาด้วยส่วนใดของพระวรกายก็ได้ เราสามารถทำบางอย่างด้วยการช่วยเหลือจากส่วนของร่างกายนั้นๆ โดยเฉพาะ แต่คริชณะทรงทำอะไรก็ได้ด้วยส่วนใดของพระวรกายก็ได้ และเนื่องจากพระวรกายทิพย์ของพระองค์ทรงเปี่ยมไปด้วยความรู้และความปลื้มปีติสุขในความเป็นอมตะ ทรงไม่ต้องผ่านหกขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลงทางวัตถุเช่น การเกิด เป็นอยู่ เจริญเติบโต สืบพันธุ์ หดตัวลง และสูญสลาย ทรงมิได้ถูกบังคับด้วยพลังงานเบื้องต่า พระองค์ทรงเป็นแหล่งกำเนิดสูงสุดแห่งการสร้าง การอนุรักษ์ และการทำลายของทุกสิ่งที่มีอยู่ ด้วยพระกรุณาธิคุณของคริชณะเท่านั้น ทุกคนจึงมีการปฏิบัติทางศาสนา พัฒนาสภาวะทางเศรษฐกิจ สนองประสาทสัมผัส และในที่สุดบรรลุถึงความหลุดพ้นจากพันธนาการทางวัตถุ หลักสี่ประการแห่งความก้าวหน้าของชีวิต ปฏิบัติได้ด้วยพระเมตตาธิคุณจากคริชณะเท่านั้น ฉะนั้น พระองค์ทรงควรได้รับการถวายบูชาเป็นบุคคลแรกในพิธีบูชาอันยิ่งใหญ่นี้ และไม่ควรมีผู้ใดไม่เห็นด้วย เหมือนกับการรดน้าไปที่รากของต้นไม้จะส่งผลไปถึง กิ่ง ก้าน สาขา ใบ และดอกของต้นไม้ทั้งหมดโดยปริยาย หรือเหมือนกับการส่งอาหารไปที่ท้อง การบำรุงเลี้ยงและการเปลี่ยนแปลงส่วนต่างๆ ของร่างกายทั้งหมดจะบรรลุผลโดยปริยาย ดังนั้น จากการถวายความเคารพต่อคริชณะเป็นบุคคลแรก ทุกคนที่ปรากฏอยู่ ณ ที่ประชุมนี้ รวมทั้งเทวดาผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดจะทรงพึงพอใจ หากผู้ใดชอบทำบุญเป็นการดีมากถ้าทำบุญให้คริชณะผู้ทรงเป็นอภิวิญญาณของทุกชีวิต โดยไม่ต้องคำนึงถึงร่างกายหรือบุคลิกภาพส่วนตัวโดยเฉพาะ คริชณะทรงปรากฏในฐานะอภิวิญญาณในทุกชีวิต หากเราสามารถทำให้พระองค์ทรงพอพระทัย ตรงนี้จะทำให้ทุกชีวิตพึงพอใจโดยปริยาย”
สะหะเดวะโชคดีพอที่รู้เกี่ยวกับพระบารมีของคริชณะ หลังจากได้พรรณาโดยย่อแล้วก็หยุดนิ่ง เมื่อสะหะเดวะพูดจบลง สมาชิกทั้งหมดในที่ชุมนุมพิธีบูชาอันยิ่งใหญ่ปรบมือกันอย่างต่อเนื่องเพื่อยืนยันในคำพูดของเขา แล้วกล่าวพร้อมกันว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านพูดนั้นสมบูรณ์บริบูรณ์แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านพูดนั้นสมบูรณ์บริบูรณ์แล้ว” หลังจากได้ยินคำยืนยันจากทุกๆ คน โดยเฉพาะจากพราหมณ์และนักปราชญ์ผู้ทรงคุณวุฒิ กษัตริย์ยุดิชทิระทรงบูชา องค์ภควาน คริชณะ ตามหลักธรรมแห่งคำสอนของพระเวท ก่อนอื่นกษัตริย์ยุดิชทิระพร้อมทั้งพระอนุชา มเหสี โอรสธิดา พระบรมวงศานุวงค์ และเสนาบดี ล้างพระบาทรูปดอกบัวของคริชณะ แล้วประพรมน้าล้างพระบาทไปที่ศีรษะของพวกตน หลังจากนี้ถวายอาภรณ์ผ้าไหมสีเหลือง รวมทั้งอัญมณีและเครื่องประดับอีกมากมายให้แด่คริชณะสำหรับใช้ส่วนพระองค์
กษัตริย์ยุดิชทิระรู้สึกปลื้มปีติสุขที่ได้ให้เกียรติคริชณะผู้ทรงเป็นบุคคลเดียวเท่านั้นที่ท่านรัก น้าตาไหลพรากออกมาจากดวงตา ทำให้แม้ปรารถนาจะเห็นแต่ไม่สามารถเห็นพระพักตร์ของคริชณะชัดเจนนัก เช่นนี้ คริชณะทรงได้รับการบูชาจากกษัตริย์ ยุดิชทิระ ขณะนั้นสมาชิกทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ ณ ที่ประชุมยืนขึ้นด้วยมือพนม และกล่าวว่า “จะยะ! จะยะ! นะมะฮ! นะมะฮ!” เมื่อทั้งหมดรวมกันถวายความเคารพอย่างสูงแด่คริชณะ มีดอกไม้โปรยลงมาจากท้องฟ้า
ณ ที่ชุมนุมนี้ กษัตริย์ชิชุพาละผู้สาบานเป็นศัตรูของคริชณะทรงอยู่ด้วย มีความแค้นด้วยเหตุผลมากมาย โดยเฉพาะที่คริชณะได้ฉุดรุคมิณีไปจากพิธีสมรส ดังนั้น จึงไม่สามารถทนต่อการให้เกียรติและสรรเสริญคุณสมบัติของคริชณะเช่นนี้ได้ แทนที่จะมีความสุขที่ได้ยินพระบารมีขององค์ภควาน เขากลับโกรธมากเมื่อทุกคนยืนขึ้นถวายความเคารพแด่คริชณะ เขายังคงนั่งอยู่ ด้วยความโกรธจัดที่เห็นคริชณะได้รับการสรรเสริญ ชิชุพาละยืนขึ้นและยกมือทันที เริ่มพูดต่อต้านคริชณะอย่างรุนแรงโดยไม่เกรงกลัว พูดในลักษณะที่คริชณะทรงได้ยินอย่างชัดเจนว่า
“ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทั้งหลาย ข้าชื่นชมในข้อความของพระเวทว่าในที่สุดกาลเวลาคือปัจจัยที่โดดเด่น แม้ด้วยความพยายามทั้งหมดที่ตรงกันข้าม กาลเวลาจะปฏิบัติตามแผนของตนเองโดยไร้คู่แข่ง ตัวอย่างเช่น บุคคลอาจพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อเวลาแห่งความตายมาถึงไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งไว้ได้ ข้าได้เห็น ณ ที่นี้ว่า แม้มีบุคลิกภาพผู้กล้าหาญมากมายปรากฏอยู่ในที่ชุมนุมนี้ อิทธิพลของกาลเวลานั้นสูงมาก ทำให้คำพูดของเด็กน้อยที่พูดอย่างโง่เขลาเกี่ยวกับคริชณะพาให้หลงทาง มีนักปราชญ์และผู้อาวุโสที่ทรงคุณวุฒิมากมาย แต่ยังยอมรับคำพูดของเด็กโง่ เช่นนี้หมายความว่าด้วยอิทธิพลของกาลเวลา แม้สติปัญญาของผู้ทรงเกียรติ ณ ที่ชุมนุมแห่งนี้ยังถูกนำไปในทางที่ผิด ข้าพเจ้าเห็นด้วยกับท่านที่เคารพ ณ ที่นี้ว่า พวกท่านยังมีความสามารถพอที่จะเลือกบุคลิกภาพที่ควรได้รับการบูชาเป็นคนแรก แต่ข้าไม่สามารถยอมรับคำพูดของเด็กน้อย เช่น สะหะเดวะที่พูดเกี่ยวกับคริชณะอย่างสูงส่ง แนะนำว่าคริชณะเหมาะสมและควรได้รับการบูชาก่อนในพิธีนี้ ข้าพเจ้าเห็นว่า ณ ที่ประชุมนี้ยังมีบุคลิกภาพอีกมากมายที่ปฏิบัติสมถะมาก มีการศึกษาสูง บำเพ็ญเพียรมาก ให้ความรู้และคำแนะนำจนสามารถจัดส่งผู้คนมากมายให้พ้นจากความทุกข์จากความเจ็บปวดแห่งความเป็นอยู่ทางวัตถุ มีริชี (ฤษี) ผู้ยิ่งใหญ่ ณ ที่นี้ที่ความรู้ไร้ขอบเขต รวมทั้งบุคคลผู้รู้แจ้งตนเอง และพราหมณ์อีกมากมาย ฉะนั้น ข้าพเจ้าคิดว่าผู้ใดก็ได้ควรได้รับเลือกให้ได้รับการบูชาเป็นคนแรก เพราะบุคคลเหล่านี้ยังได้รับการบูชาแม้จากเทวดาผู้ยิ่งใหญ่ กษัตริย์ และจักรพรรดิ์ ข้าไม่เข้าใจว่าพวกท่านเลือกเด็กเลี้ยงวัวคริชณะคนนี้โดยไม่คำนึงถึงบุคลิกภาพผู้ยิ่งใหญ่อื่นๆ ทั้งหมดได้อย่างไร? ข้าคิดว่าคริชณะไม่ดีไปกว่าอีกา แล้วจะเหมาะสมที่ได้รับการบูชาเป็นคนแรกในพิธีบวงสรวงอันยิ่งใหญ่นี้ได้อย่างไร?
“เรายังไม่แน่ใจว่าคริชณะคนนี้อยู่ในวรรณะใด หน้าที่อาชีพการงานที่แท้จริงคืออะไร?” อันที่จริง คริชณะทรงมิได้อยู่ในวรรณะใด หรือต้องปฏิบัติหน้าที่อาชีพอะไร กล่าวไว้ในคัมภีร์พระเวทว่า องค์ภควานทรงไม่มีอะไรต้องทำที่เป็นหน้าที่กำหนดไว้สำหรับพระองค์ สิ่งใดที่จำเป็นทำสำหรับพระองค์ พลังงานต่างๆ ของพระองค์จะเป็นผู้จัดการ
ชิชุพาละพูดต่อ “คริชณะไม่ได้อยู่ในตระกูลสูงส่งอะไร เขาเป็นอิสระจนกระทั่งไม่มีผู้ใดรู้ถึงหลักธรรมแห่งชีวิตศาสนา ดูเหมือนอยู่นอกอาณาเขตหลักธรรมทางศาสนาทั้งหลาย เขาปฏิบัติตนอย่างเสรีเสมอโดยไม่สนใจกับคำสั่งสอนและหลักธรรมพระเวท จึงไม่มีคุณสมบัติที่ดีเลย” ชิชุพาละสรรเสริญคริชณะในทางอ้อมด้วยการกล่าวว่า พระองค์ทรงไม่อยู่ภายในอาณาเขตคำสั่งสอนของพระเวท เช่นนี้เป็นความจริงเพราะคริชณะทรงเป็นองค์ภควาน ที่ว่าไม่มีคุณสมบัติหมายความว่าคริชณะทรงไม่มีคุณสมบัติทางวัตถุ และเนื่องจากทรงเป็นองค์ภควาน พระองค์ทรงปฏิบัติอย่างอิสระเสรีโดยไม่สนใจกับประเพณี สังคม หรือหลักธรรมทางศาสนา
ชิชุพาละกล่าวต่อ “ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาจะเหมาะสมที่ควรได้รับการบูชาเป็นคนแรกในพิธีบวงสรวงนี้ได้อย่างไร? คริชณะโง่มากที่จากมะทุราซึ่งเป็นสถานที่พำนักของบุคคลผู้มีความเจริญสูงส่งในการปฏิบัติตามวัฒนธรรมพระเวท แล้วมาอาศัยอยู่ภายใต้มหาสมุทร สถานที่ที่ไม่มีการพูดถึงคัมภีร์พระเวท แทนที่จะอยู่อย่างเปิดเผย กลับไปสร้างป้อมปราการภายในน้า และอาศัยอยู่ในบรรยากาศที่ไม่มีการสนทนาความรู้พระเวท และเมื่อใดที่ออกมาจากป้อมปราการ ก็จะข่มขู่ประชาชน เช่น พวกโจร ผู้ร้าย หรือคนโกง”
ชิชุพาละเสียสติเพราะคริชณะทรงได้รับเลือกให้เป็นผู้ได้รับการบูชาสูงสุดองค์แรกในที่ประชุม เขาพูดอย่างไม่รับผิดชอบและดูเหมือนว่าได้สูญเสียความโชคดีในตัวทั้งหมด มืดมนอนธการไปด้วยความอับโชค ชิชุพาละหมิ่นประมาทคริชณะอย่างต่อเนื่อง คริชณะทรงฟังด้วยความอดทนโดยไม่คัดค้าน เหมือนกับพญาราชสีห์ที่ไม่สนใจเมื่อฝูงสุนัขจิ้งจอกเห่าหอน คริชณะยังคงนิ่งสงบอย่างไม่สะทกสะท้าน ทรงมิได้ตอบโต้แม้แต่ข้อเดียวกับคำกล่าวหาของชิชุพาละ แต่สมาชิกทั้งหมดในที่ประชุมรู้สึกหงุดหงิดมากยกเว้นเพียงไม่กี่คนที่เห็นด้วยกับชิชุพาละ เป็นหน้าที่ของบุคคลผู้รับผิดชอบไม่ควรทนต่อการดูหมิ่นองค์ภควานหรือสาวกของพระองค์ บางคนคิดว่าตนเองไม่สามารถทำอะไรเพื่อตอบโต้ชิชุพาละได้อย่างเหมาะสม แสดงออกด้วยการเดินออกไปจากที่ประชุม บางคนใช้มือปิดหูเพื่อให้ไม่ได้ยินคำกล่าวหาอีกต่อไป การเดินออกจากที่ประชุมไปเช่นนี้เป็นการประณามสิ่งที่ชิชุพาละได้ทำ คำสอนพระเวทกล่าวว่า เมื่อใดที่มีการหมิ่นประมาทองค์ภควาน เราต้องออกจากที่นั้นไปโดยทันที หากไม่ทำเช่นนี้ จะสูญเสียผลบุญและตกลงไปอยู่ในสภาวะชีวิตที่ตกต่า
กษัตริย์ทั้งหมดในที่ประชุมอยู่ในราชวงศ์ คุรุ มัทสยะ เคคะยะ และสรินจะยะ รู้สึกโกรธมาก ชักดาบและโล่ห์ขึ้นมาเพื่อสังหารชิชุพาละทันที ชิชุพาละเป็นคนโง่เขลามากไม่รู้สึกหวั่นไหวแม้แต่เพียงนิดเดียว แม้กษัตริย์ทั้งหมดพร้อมสังหารตน เขาไม่สนใจที่จะคิดถึงผลได้ผลเสียจากการพูดโง่ๆ และเมื่อเห็นว่ากษัตริย์ทั้งหลายพร้อมสังหารเขา แทนที่จะหยุด กลับยืนขึ้นเอาดาบและโล่ห์ขึ้นมาเพื่อเตรียมต่อสู้ คริชณะเห็นว่าจะมีต่อสู้กันในปรัมพิธี ราจาสูยะ ยะกยะ ที่เป็นสิริมงคล ทรงปลอบประโลมพวกเขาให้สงบลง ด้วยพระเมตตาอันหาที่สุดมิได้ของคริชณะ ทรงตัดสินใจสังหารชิชุพาละด้วยพระองค์เอง เมื่อชิชุพาละใช้วาจาจาบจ้วงกับเหล่ากษัตริย์ที่กำลังจะจู่โจมเขา คริชณะทรงปล่อยกงจักรอันคมกริบเหมือนใบมีดโกน แยกศีรษะของชิชุพาละออกจากร่างโดยทันที
เมื่อชิชุพาละถูกสังหาร ได้มีเสียงโห่ร้องดังสนั่นจากที่ชุมนุม อาศัยสถานการณ์ที่โกลาหลนี้กษัตริย์องค์ที่สนับสนุนชิชุพาละรีบหนีออกจากที่ประชุมด้วยความกลัวว่าจะเสียชีวิต แม้เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ดวงวิญญาณที่โชคดีของชิชุพาละยังกลืนเข้าไปในพระวรกายของคริชณะทันที ต่อหน้าสมาชิกทั้งหลาย เหมือนกับสะเก็ดดาวที่ตกลงมายังผิวโลก ดวงวิญญาณของชิชุพาละกลืนเข้าไปในพระวรกายทิพย์ของคริชณะเตือนเราถึงเรื่องจะยะและวิจะยะ ผู้ตกลงมายังโลกวัตถุจากโลกไวคุณธะที่ถูกคำสาปของสี่กุมาร เพื่อเตรียมกลับคืนสู่โลกไวคุณธะ ทั้งจะยะและวิจะยะเกิดสามครั้งติดต่อกัน ทำตัวเป็นศัตรูร้ายกาจขององค์ภควาน และในบั้นปลายชีวิตจะกลับคืนสู่โลกไวคุณธะอีกครั้ง เพื่อรับใช้องค์ภควานในฐานะผู้อยู่ใกล้ชิด
ถึงแม้ชิชุพาละทำตัวเป็นศัตรูของคริชณะ แต่มีคริชณะจิตสำนึกอยู่ทุกนาที ซึมซาบความคิดอยู่กับคริชณะเสมอ ดังนั้น จึงได้รับความหลุดพ้นประเภทแรกคือ สายุจยะ-มุคทิ กลืนหายเข้าไปในความเป็นอยู่ขององค์ภควาน และในที่สุดกลับคืนไปสู่สถานภาพเดิมของตนด้วยการเป็นผู้รับใช้ส่วนพระองค์ ภควัต-คีตา ยืนยันความจริงนี้ว่า หากผู้ใดซึมซาบความคิดอยู่ที่องค์ภควานขณะกำลังตาย จะเข้าไปในอาณาจักรของพระองค์ทันทีหลังออกจากร่างวัตถุนี้ หลังจากการหลุดพ้นของชิชุพาละ กษัตริย์ยุดิชทิระทรงให้รางวัลแด่สมาชิกทั้งหมดในที่ชุมนุมพิธีบวงสรวง ทรงตอบแทนพระและนักปราชญ์ผู้ทรงคุณวุฒิอย่างพอเพียงที่ได้ปฏิบัติพิธีบวงสรวงบูชา และหลังจากปฏิบัติตามกรรมวิธีเรียบร้อยแล้ว ยุดิชทิระทรงไปสรงน้า การสรงน้าหลังจากเสร็จสิ้นพิธีบวงสรวงบูชาเรียกทางเทคนิคว่า การสรงน้า อวะบริทะ
ดังนั้น องค์ภควาน คริชณะ ทรงทำให้การทำพิธีบูชา ราจะสูยะ ยะกยะ ที่กษัตริย์ยุดิชทิระจัดการ ดำเนินไปอย่างเรียบร้อยเสร็จสิ้นบริบูรณ์ และจากการขอร้องของญาติๆ คริชณะทรงพำนักอยู่ที่ฮัสทินาพุระอีกหลายเดือน แม้กษัตริย์ยุดิชทิระและน้องๆ ไม่เต็มใจที่จะให้คริชณะจากฮัสทินาพุระไป คริชณะทรงตระเตรียมเพื่อขออนุญาตจากกษัตริย์เพื่อกลับไปยังดวาระคา เช่นนี้ คริชณะทรงกลับบ้านพร้อมทั้งบรรดาราชินีและเหล่าเสนาบดี
เรื่องราวการตกลงมาของจะยะและวิจะยะจากโลกไวคุณธะมาสู่โลกวัตถุ ได้อธิบายไว้ในภาคเจ็ดของ ชรีมัด-ภควธัม การสังหารชิชุพาละเชื่อมสัมพันธ์โดยตรงกับเรื่องราวของจะยะและวิจะยะ แต่คำสั่งสอนสำคัญสุดที่เราได้รับจากเหตุการณ์ครั้งนี้คือ องค์ภควานผู้สมบูรณ์ ทรงสามารถให้ความหลุดพ้นแก่ทุกคน ไม่ว่าผู้นั้นทำตัวเป็นศัตรูหรือเป็นเพื่อนของพระองค์ ดังนั้น จึงเป็นแนวความคิดผิดที่ว่าองค์ภควานทรงปฏิบัติต่อบางคนในความสัมพันธ์ฉันเพื่อนและทรงปฏิบัติต่ออีกคนในความสัมพันธ์ฉันศัตรู การที่ทรงเป็นศัตรูหรือเป็นเพื่อน อยู่ในระดับที่สมบูรณ์เสมอ และไม่มีข้อแตกต่างทางวัตถุ
หลังจากกษัตริย์ยุดิชทิระทรงสรงน้าหลังพิธีบูชา และยืนอยู่ท่ามกลางนักปราชญ์และพราหมณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ พระองค์ทรงดูเหมือนกับกษัตริย์ผู้เป็นเจ้าแห่งสวรรค์ที่ดูสง่างามมาก กษัตริย์ยุดิชทิระทรงให้รางวัลแก่เทวดาทั้งหมดที่มาร่วมใน ยะกยะ อย่างพอเพียง เทวดาทั้งหมดรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง จากไปพร้อมสรรเสริญการกระทำของกษัตริย์ยุดิชทิระ และสรรเสริญ องค์ภควาน คริชณะ
เมื่อ ชุคะเดวะ โกสวามี เล่าเหตุการณ์ที่คริชณะสังหารชิชุพาละ และเล่าถึงความสำเร็จในการทำพิธี ราจะสูยะ ยะกยะ ของมะฮาราจะ ยุดิชทิระ บอกด้วยว่าหลังจากพิธี ยะกยะ เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว มีบุคคลหนึ่งไม่มีความสุขเลย นั่นคือ ดุรโยดะนะ โดยธรรมชาติ ดุรโยดะนะเป็นคนที่มีความอิจฉาริษยามาก เนื่องมาจากชีวิตบาป เขาปรากฏในราชวงศ์คุรุในฐานะที่เป็นบุคคลที่มีโรคเรื้อรังเพื่อทำลายล้างราชวงศ์
ชุคะเดวะ โกสวามี ให้ความมั่นใจแด่ มะฮาราจะ พะรีคชิท ว่าลีลาขององค์ภควาน คริชณะ การสังหาร ชิชุพาละ จะราสันดะ และการให้อิสรภาพแด่กษัตริย์ที่ถูกคุมขังเป็นเสียงทิพย์ทั้งหมด ผู้ใดที่ได้ยินเรื่องราวเหล่านี้จากบุคคลผู้เชื่อถือได้ จะเป็นอิสระเสรีจากผลกรรมแห่งความบาปในชีวิตทั้งหมด
ดังนั้น ขอจบคำอธิบายโดยบัคธิเวดันธะ หนังสือ “องค์ภควาน คริชณะ”
บทที่เจ็ดสิบสาม “การจัดส่งชิชุพาละ”
บทที่เจ็ดสิบสาม “การจัดส่งชิชุพาละ”